โบรกเกอร์กองทุนรวม ประเมินหุ้น Emerging Market อาจมีการปรับฐานเล็กน้อย หลังนโยบายการเงินในประเทศตลาดเกิดใหม่มีการเปลี่ยนเเปลง มั่นใจการลงทุนในระยะยาวยังให้ผลตอบเเทนที่ดีได้
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการที่จีนเริ่มส่งสัญญาณในการควบคุมสภาพคล่อง โดยการเพิ่มผลตอบแทนของตั๋วเงินคลังระยะ 3 เดือน เป็นการส่งสัญญาณในการควบคุมเศรษฐกิจที่ร้อนแรงของจีน รวมถึงอุปทานหุ้นใหม่ที่จะออกมาเป็นจำนวนมาก เป็นตัวกดดันตลาดหุ้นจีนให้มีการปรับตัวลดลง
นอกจากนี้เรายังคาดว่าจะได้เห็นการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินของประเทศอื่นๆ ในเอเชียอย่าง เกาหลีใต้ อินเดีย ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคมีการปรับฐานได้ ส่วนตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะยังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงทั้ง การเมืองและมาบตาพุด เป็นตัวกดดันการปรับขึ้นของ SET อยู่ และพร้อมที่จะกดดันให้เกิดความผันผวนได้ทุกเวลา
อย่างไรก็ตามภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้นักลงทุนมีความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นทั่วโลก ตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯ แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวต่อเนื่องแต่หากยังคงมีความกังวลต่อปัญหาในตลาดแรงงานสหรัฐฯ
ล่าสุดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลงอีก 85,000 ตำแหน่ง ในเดือน ธ.ค. ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์กันไว้ว่าจะทรงตัว ซึ่งยังคงแสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามดัชนี Dow Jones ยังปรับตัวขึ้นจากมุมมองอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่จะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไปอีกระยะหนึ่ง และเชื่อมั่นว่าตลาดแรงงานที่น่าผิดหวังไม่กระทบต่อการฟื้นตัว
สำหรับเศรษฐกิจในฝั่งยุโรปที่ยังคงเห็นการเพิ่มขึ้นของอัตราการว่างงาน และภาระหนี้สาธารณะจำนวนมากในหลายประเทศ ทำให้เรายังมองเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวยังคงมีความเปราะบางอยู่จับตาการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในประเทศตลาด
แม้ว่าตลาดยังคงมุมมองที่ดีต่อภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2553 แต่ตลาดแรงงานทั้งของสหรัฐฯ และยุโรปยังคงอ่อนแอทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังคงมีความเปราะบางอยู่
นอกจากนี้ตลาดเกิดใหม่ หรือ Emerging Market มีแนวโน้มในการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน และเพิ่มมาตรการควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันภาวะฟองสบู่ แต่เรายังคงมองเศรษฐกิจในกลุ่มนี้จะเติบโตต่อเนื่อง ทำให้ระยะยาวยังคงมุมมองที่ดีต่อการลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่
"อยากแนะนำให้ทยอยสะสมเมื่อเห็นการออกมาตรการหรือการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน โดยยังคงแนะนำ กรุงศรี-อลิอันซ์ จีไอ บริค สตาร์ ตามเดิม นอกจากนี้เรายังคงมุมมองแนวโน้มค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าอยู่ทำให้ส่งผลดีต่อราคาทองคำ และน้ำมัน โดยยังคงแนะนำสะสม กองทุนเปิด แอสเซทพลัส โกลด์ และ กองทุนเปิดเค โกลด์ ซึ่งทั้งคู่มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน"นายสานุพงศ์กล่าว
ทั้งนี้จะต่างกันตรงที่กองทุนเปิดเค โกลด์ จะมีการจ่ายปันผลแต่สำหรับน้ำมันที่ราคาปรับตัวขึ้นมาอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมาจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น เราคาดว่าราคาน้ำมันในช่วงถัดไปมี UpsideGain ที่จำกัดแล้ว และอาจเห็นการปรับฐาน
แนะนำทยอยสะสมหากเห็นราคาปรับตัวลดลง กองทุนที่แนะนำยังคงเป็น กองทุนเปิดแอสเซทพลัสออยล์ ของบลจ.แอสเซท พลัส ซึ่งมีนโยบายในการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน
แต่การซื้อขายจะไม่สามารถเห็นราคาน้ำมันที่ใช้อ้างอิงในการคำนวณ NAVได้ล่วงหน้าเหมือนกองทุนอื่นอย่าง กองทุนเปิดทิสโก้ ออยล์ ฟันด์ กองทุนเปิดกรุงศรี ออยล์ และกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ออยล์ ฟันด์ อย่างไรก็ตามโดยทั่วไปเรายังคงแนะนำลงทุนในตลาดเงินได้เเก่ กองทุนเปิดฟิลลิปบริหารเงิน