แมนูไลฟ์ชี้ยุโรปโตเป็นรองแค่จีน ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันพุ่งช่วยหนุน

 
บลจ. แมนูไลฟ์เผย ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในยุโรปตะวันออกยังสูง คาดจีดีพี ปีหน้าโต 1.2% เหตุรัสเซียได้อนิสงส์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ล่าสุดผลงานกองทุนเอฟไอเอฟ ตั้งแต่ต้นปีฟันกำไรกว่า 75%
 
นายสุขวัฒน์ ประเสริฐยิ่ง รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานเจ้าหน้าที่สายการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) แมนูไลฟ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในยุโรปตะวันออกในช่วงที่ผ่านมา มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนค่อนข้างสูง ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างทั่วโลกพบว่าเป็นรองแค่เพียงประเทศจีนเท่านั้น ที่ให้ผลตอบแทนสูงเป็นอันดับ 1 ทำให้การลงทุนนั้นสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีได้ แม้ว่าจะมีบางประเทศที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจจนเกิดปัญหาภายในประเทศขึ้น เช่น อังกฤษ ที่การเติบโตทางเศรษฐกิจยังไม่ดีมากนัก และคาดว่าเศรษฐกิจของประเทศจะค่อยๆเติบโตไปอย่างเชื่องช้า
 
ทั้งนี้ สำหรับบลจ.แมนูไลฟ์ มองการลงทุนในประเทศเหล่านี้ ซึ่งได้แก่ รัสเซีย และตุรกี ว่า ยังมีความน่าสนใจมากและมีอัตราการเติบโตที่ดี เนื่องจากว่าผลตอบแทนที่ได้รับนั้น มีความน่าสนใจเมื่อเทียบกับประเทศอื่น โดยบลจ.มีกองทุนที่ลงทุนในยุโรปตะวันออก ได้แก่ กองทุนกองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ ที่เข้าลงทุนในประเทศรัสเซีย หรือประเทศตุรกี ซึ่งเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบต่อการเติบโตของประเทศค่อนข้างน้อย
 
โดยรัสเซียเป็นประเทศที่มีการส่งออกน้ำมัน ซึ่งการที่ราคาน้ำมันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ส่งผลดีต่อประเทศรัสเซีย อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวโน้มในปีหน้านี้ไม่ว่าจะเป็นประเทสรัสเซีย ตุรกี และอีกหลายประเทศในยุโรปตะวันออกยังมีแนวโน้มการเติบโตของจีดีพีอยู่ที่ประมาณ 1.2% ขณะที่รัสเซียและตุรกีจีดีพีจะโตประมาณ 2-3 %
 
โดย ณ วันที่ 24 ธันวาคม 2552 พบว่ากองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิเมอร์จิ้ง อีสเทอร์น ยุโรป เอฟไอเอฟ มีผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 6.01% ผลตอบแทนย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 42.11% ผลตอบแทนย้อนหลัง 12 เดือนเท่ากับ 75.72% และผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่  75.18%
 
นอกจากนี้ ในส่วนของผู้จัดการกองทุนหลักหรือกองทุน Manulife Global Fund-Emerging Eastern Europe Fund (Class A)ให้ความคิดเห็นว่า ตลาดหุ้นยุโรปตะวันออกได่ปรับตัวเป็นบวกอีกครั้งหนึ่งตลอดเดือนที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่มาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดรัสเซียและโปแลนด์
 
 ส่วนตลาดตุรกีและสาธารณรัฐเชคปรับตัวลดลง ทำให้ผลการดำเนินงานของกองทุนปรับขึ้น 5% ในเดือนตุลาคม โดยสามารถชนะตลาดได้อีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ธนาคารกลางฮังการี รัสเซียและตุรกี ได้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.5 % ในเดือนตุลาคม
 
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงรอดูการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและปัจจัยนี้ยังช่วยหนุนราคาหุ้นอีกด้วย ในส่วนนักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นที่จะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง ด้าน Eurasia Drilling มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในช่วงเดือนที่ผ่านมา โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นถึง 26%ราคาทองคำที่แข็งแกร่งก็เป็นผลดีต่อกลุ่มเหมืองทองคำในพอร์ตการลงทุนด้วยเช่นกัน ขระที่KazakhGold ปรับตัวสูงขึ้น 14% และ Russian Petropavlovsk ปรับขึ้น 20%
 
ในส่วนของตลาดหุ้นของตลาดเกิดใหม่ในยุโรปยังคงอยู่ในระดับราคาที่สมเหตุสมผล แม้ว่าราคาจะอยู่ในระดับต่ำกว่าระดับราคาที่สูงในช่วงก่อนหน้านี้ ศักยภาพในการพัฒนาและฟื้นฟูในระหว่างภูมิภาคและโอกาสการลงทุนที่มีมากขึ้น จะช่วยทำให้ทิศทางและแนวโน้มการลงทุนข้างหน้าสดใสขึ้นตามไปด้วย