โบรกเกอร์กองทุน มองเงินทุนเริ่มไหลเข้ามาในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ หลังเกิดวิกฤติดูไบ รวมถึงความวิตกจากจีนที่จะชะลอการปล่อยกู้ พร้อมเชียร์นักลงทุนทยอยเก็บหุ้นจีน เเละทองคำเข้าพอร์ต ดักรอผลตอบเเทนที่ดีในอนาคต
นางสาวศุภมาส พยัคฆพันธ์ Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แรงขายจากวิกฤติหนี้ดูไบ รวมทั้งความวิตกว่าทางการจีนอาจมีการออกมาตรการเพื่อชะลอการปล่อยกู้โดยการปรับขึ้นในอัตราส่วนทุนสำรองของธนาคารได้ ส่งผลต่อการปรับลดลงของราคาหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ในเชิงบวกมากขึ้นสำหรับการเคลื่อนย้ายเข้าของเงินทุนมาในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งรวมถึงกลุ่มประเทศในเอเชียด้วย ตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นสิ้นสุดเดือนกันยายน 2552 เพิ่มขึ้นดีกว่าคาดคือขยายตัว 1.2% QoQ และเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงที่สุด
ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงบวกของสหรัฐอเมริกาและยุโรปในสัปดาห์ที่ผ่านมาคือการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐอเมริกา ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐอเมริกา และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐอเมริกาที่ลดลง รวมทั้งอัตราการขยายตัวของอังกฤษ ที่หดตัว 0.3%ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งหดตัวน้อยกว่าที่รายงานก่อนหน้าที่ -0.4%ปัจจัยลบที่สำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นการประกาศเลื่อนชำระหนี้ของบริษัท DubaiWorld จำนวน 3.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีรัฐดูไบ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยเกิดจากการเลื่อนชำระหนี้ของบริษัท Nakheel ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในดูไบ และทั่วโลกประสบปัญหาสภาพคล่อง เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลต่อการลดอันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรภาครัฐใน Dubai ที่มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่าไม่น่าส่งผลต่อวิกฤติการเงินในโลกเนื่องจากมูลค่าหนี้ที่ต่ำกว่ามากและน่าจะส่งผลต่อสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้กับบริษัทดังกล่าวหรือรัฐดูไบโดย เฉพาะมากกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลต่อแรงขายอย่างมากต่อหุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรป ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหลังจากแตะระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบ 15 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในช่วงต้นสัปดาห์เริ่มกลับมาแข็งค่าหลังจากมีแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงจากวิกฤติหนี้ดูไบ
สำหรับราคาทองคำปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1,194.90 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อออนซ์ในระหว่างสัปดาห์ก่อนปิดเพิ่มขึ้น 2.36% ที่ 1,176.70 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ทองคำปรับขึ้นได้ดีกว่าสินทรัพย์เสี่ยงประเภทอื่น ถึงแม้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาจะแข็งค่าขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ที่มีความวิตกต่อการเลื่อนชำระหนี้ของบริษัทของดูไบนอกจากนี้ยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดว่าธนาคารกลางอินเดียจะซื้อทองคำเพิ่มขึ้น ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของดูไบไม่ได้ส่งผลมากนักต่อแรงขายน้ำมันซึ่งจัดเป็นสินทรัพย์เสี่ยง โดยราคาน้ำมัน Brent ยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด และปิดที่ 76.00 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อบาร์เรล หรือลดลง 0.67%.
"เราแนะนำทะยอยลงทุนในกองทุนทองคำและจีน โดยการปรับลดลงของหุ้นในจีน เรามองว่าน่าจะมีการทยอยลงทุน เนื่องจากมองว่าหากมีการออกมาตรการของรัฐบาลจีนเพื่อสกัดราคาสินทรัพย์ในภาคอสังหาริมทรัพย์หรือการออกมาตรการเข้มงวดของรัฐบาลจีนที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยสินเชื่อก็ไม่น่าจะส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2552-2553นี้" นางสาวศุภมาส กล่าว
นางสาวศุภมาส พยัคฆพันธ์ Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แรงขายจากวิกฤติหนี้ดูไบ รวมทั้งความวิตกว่าทางการจีนอาจมีการออกมาตรการเพื่อชะลอการปล่อยกู้โดยการปรับขึ้นในอัตราส่วนทุนสำรองของธนาคารได้ ส่งผลต่อการปรับลดลงของราคาหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชียในช่วงปลายสัปดาห์ หลังจากก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ในเชิงบวกมากขึ้นสำหรับการเคลื่อนย้ายเข้าของเงินทุนมาในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งรวมถึงกลุ่มประเทศในเอเชียด้วย ตัวเลขอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นสิ้นสุดเดือนกันยายน 2552 เพิ่มขึ้นดีกว่าคาดคือขยายตัว 1.2% QoQ และเป็นอัตราการขยายตัวที่สูงที่สุด
ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจในเชิงบวกของสหรัฐอเมริกาและยุโรปในสัปดาห์ที่ผ่านมาคือการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐอเมริกา ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐอเมริกา และตัวเลขผู้ขอสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐอเมริกาที่ลดลง รวมทั้งอัตราการขยายตัวของอังกฤษ ที่หดตัว 0.3%ในไตรมาสที่ 3 ซึ่งหดตัวน้อยกว่าที่รายงานก่อนหน้าที่ -0.4%ปัจจัยลบที่สำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นการประกาศเลื่อนชำระหนี้ของบริษัท DubaiWorld จำนวน 3.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นบริษัทที่มีรัฐดูไบ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ โดยเกิดจากการเลื่อนชำระหนี้ของบริษัท Nakheel ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ในดูไบ และทั่วโลกประสบปัญหาสภาพคล่อง เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลต่อการลดอันดับความน่าเชื่อถือขององค์กรภาครัฐใน Dubai ที่มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่าไม่น่าส่งผลต่อวิกฤติการเงินในโลกเนื่องจากมูลค่าหนี้ที่ต่ำกว่ามากและน่าจะส่งผลต่อสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้กับบริษัทดังกล่าวหรือรัฐดูไบโดย เฉพาะมากกว่า เหตุการณ์ดังกล่าวได้ส่งผลต่อแรงขายอย่างมากต่อหุ้นกลุ่มธนาคารในยุโรป ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาหลังจากแตะระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบ 15 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในช่วงต้นสัปดาห์เริ่มกลับมาแข็งค่าหลังจากมีแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงจากวิกฤติหนี้ดูไบ
สำหรับราคาทองคำปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1,194.90 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อออนซ์ในระหว่างสัปดาห์ก่อนปิดเพิ่มขึ้น 2.36% ที่ 1,176.70 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ทองคำปรับขึ้นได้ดีกว่าสินทรัพย์เสี่ยงประเภทอื่น ถึงแม้ว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาจะแข็งค่าขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์ที่มีความวิตกต่อการเลื่อนชำระหนี้ของบริษัทของดูไบนอกจากนี้ยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดว่าธนาคารกลางอินเดียจะซื้อทองคำเพิ่มขึ้น ขณะที่ความวิตกเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้ของดูไบไม่ได้ส่งผลมากนักต่อแรงขายน้ำมันซึ่งจัดเป็นสินทรัพย์เสี่ยง โดยราคาน้ำมัน Brent ยังเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด และปิดที่ 76.00 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อบาร์เรล หรือลดลง 0.67%.
"เราแนะนำทะยอยลงทุนในกองทุนทองคำและจีน โดยการปรับลดลงของหุ้นในจีน เรามองว่าน่าจะมีการทยอยลงทุน เนื่องจากมองว่าหากมีการออกมาตรการของรัฐบาลจีนเพื่อสกัดราคาสินทรัพย์ในภาคอสังหาริมทรัพย์หรือการออกมาตรการเข้มงวดของรัฐบาลจีนที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยสินเชื่อก็ไม่น่าจะส่งผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2552-2553นี้" นางสาวศุภมาส กล่าว