เครือทิสโก้เชื่อปีหน้านักลงทุนรับอานิสงส์ดี ทั้งเรื่องดอกเบี้ยขาขึ้น และการกระจายการลงทุน เดินหน้าออกผลิตภัณฑ์กองทุน-เงินฝากรองรับต่อเนื่อง ล่าสุดบลจ.ทิสโก้เตรียมเปิดขาย เอเชียแปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน เพื่อการเลี้ยงชีพ ระหว่างวันที่ 12-27 พฤศจิกายนนี้
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชียแปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน เพื่อการเลี้ยงชีพ ระหว่างวันที่ 12-27 พฤศจิกายน 2552 โดยกองทุนมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ซึ่งกองทุนนี้ จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ Lyxor ETF MSCI AC Asia-Pacific ex Japan ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ ประเภทกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยกองทุนนี้มีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI AC Asia-Pacific ex Japan ที่บริหารจัดการโดย Lyxor International AssetManagement
ด้าน นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ รองกรรมการอำนวยการ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มทิสโก้มองเห็นประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการลงทุนในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็น ภาวะอัตราดอกเบี้ยที่คาดกันว่าจะเป็นขาขึ้นในปีหน้า การล็อกเงินฝากยาวๆ จะทำให้เสียโอกาส เราจึงนำเสนอเครื่องมือทางการเงิน ทั้งเงินฝากระยะสั้นที่ให้ดอกเบี้ยดี และมีสภาพคล่อง เหมาะให้ผู้ฝากมาพักเงินไว้รอดอกเบี้ยขึ้น
ทั้งนี้ ในฐานะที่ธนาคารเป็นตัวแทนสนับสนุนการขายหลักของ บลจ.ทิสโก้ จึงนำผลิตภัณฑ์กองทุนและเงินฝากมา bundle กันให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์ดีๆ โดยเลือกกองน้ำมัน ทองคำ และกองหุ้นเอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ที่ก่อนหน้านี้ทริกเกอร์ไปแล้ว 2 กอง เพื่อให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยงไปยัง Asset Class อื่นๆ และตลาดหุ้นต่างประเทศ นำเสนอเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงกอง FIF ได้ นอกจากนี้ในปี 2552 กองทุนเปิดของ บลจ.ทิสโก้ หลายกอง รวมทั้ง LTF & RMF มีผลประกอบการที่ดีและน่าเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนได้อีกทางหนึ่ง
โดยล่าสุดบริษัทเตรียมเข้าร่วมงาน SET in the City พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษหลายรายการด้วยกัน ทั้งการนำเสนอเงินฝากระยะสั้น-ดอกเบี้ยสูง สำหรับผู้ฝากเงินที่มองว่าภาวะดอกเบี้ยในปีหน้าจะเป็นขาขึ้น และโปรโมชั่น รับดอกเบี้ยบวกเพิ่มไม่จำกัด เมื่อแนะนำเพื่อนเปิดบัญชีซุปเปอร์ออมทรัพย์กับธนาคาร นอกจากนี้ยังจะมีการนำเสนอการลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในต่างประเทศ (FIF) 4 กองเพื่อรับเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวปีหน้าตามที่ทุกสำนักคาดการณ์ ได้แก่ กองทุนทิสโก้ออยล์ฟันด์ , ทิสโก้โกลด์ฟันด์, ทิสโก้ เอเชียแปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน , ซึ่งจะได้รับสิทธิ์บวกดอกเบี้ยพิเศษ 1% เมื่อฝากประจำ หรือตั๋วแลกเงิน 6 เดือนกับธนาคารทิสโก้อีกด้วย
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดขายกองทุนเปิด ทิสโก้ เอเชียแปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน เพื่อการเลี้ยงชีพ ระหว่างวันที่ 12-27 พฤศจิกายน 2552 โดยกองทุนมีมูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ซึ่งกองทุนนี้ จะเน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของ Lyxor ETF MSCI AC Asia-Pacific ex Japan ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟ ประเภทกองทุนรวมเพื่อผู้ลงทุนทั่วไป ซึ่งจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยกองทุนนี้มีนโยบายการลงทุนในตราสารแห่งทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี MSCI AC Asia-Pacific ex Japan ที่บริหารจัดการโดย Lyxor International AssetManagement
ด้าน นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ รองกรรมการอำนวยการ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มทิสโก้มองเห็นประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการลงทุนในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็น ภาวะอัตราดอกเบี้ยที่คาดกันว่าจะเป็นขาขึ้นในปีหน้า การล็อกเงินฝากยาวๆ จะทำให้เสียโอกาส เราจึงนำเสนอเครื่องมือทางการเงิน ทั้งเงินฝากระยะสั้นที่ให้ดอกเบี้ยดี และมีสภาพคล่อง เหมาะให้ผู้ฝากมาพักเงินไว้รอดอกเบี้ยขึ้น
ทั้งนี้ ในฐานะที่ธนาคารเป็นตัวแทนสนับสนุนการขายหลักของ บลจ.ทิสโก้ จึงนำผลิตภัณฑ์กองทุนและเงินฝากมา bundle กันให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์ดีๆ โดยเลือกกองน้ำมัน ทองคำ และกองหุ้นเอเชีย แปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน ที่ก่อนหน้านี้ทริกเกอร์ไปแล้ว 2 กอง เพื่อให้นักลงทุนกระจายความเสี่ยงไปยัง Asset Class อื่นๆ และตลาดหุ้นต่างประเทศ นำเสนอเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงกอง FIF ได้ นอกจากนี้ในปี 2552 กองทุนเปิดของ บลจ.ทิสโก้ หลายกอง รวมทั้ง LTF & RMF มีผลประกอบการที่ดีและน่าเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนได้อีกทางหนึ่ง
โดยล่าสุดบริษัทเตรียมเข้าร่วมงาน SET in the City พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษหลายรายการด้วยกัน ทั้งการนำเสนอเงินฝากระยะสั้น-ดอกเบี้ยสูง สำหรับผู้ฝากเงินที่มองว่าภาวะดอกเบี้ยในปีหน้าจะเป็นขาขึ้น และโปรโมชั่น รับดอกเบี้ยบวกเพิ่มไม่จำกัด เมื่อแนะนำเพื่อนเปิดบัญชีซุปเปอร์ออมทรัพย์กับธนาคาร นอกจากนี้ยังจะมีการนำเสนอการลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในต่างประเทศ (FIF) 4 กองเพื่อรับเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวปีหน้าตามที่ทุกสำนักคาดการณ์ ได้แก่ กองทุนทิสโก้ออยล์ฟันด์ , ทิสโก้โกลด์ฟันด์, ทิสโก้ เอเชียแปซิฟิก เอ็กซ์ เจแปน , ซึ่งจะได้รับสิทธิ์บวกดอกเบี้ยพิเศษ 1% เมื่อฝากประจำ หรือตั๋วแลกเงิน 6 เดือนกับธนาคารทิสโก้อีกด้วย
