บลจ.อเบอร์ดีน เปิดพอร์ตการลงทุนกอง"ตลาดเกิดใหม่" เน้น กลุ่มอุปโภคบริโภครวมถึงการเงินที่เติบโตตามเศรษฐกิจของประเทศ และให้นํ้าหนักน้อยในกลุ่มสื่อสาร วัสดุภัณฑ์ พร้อมทั้งเลี่ยงประเทศที่มีปัญหาความโปร่งใส
มร.แอนดรูว์ จิลแลน ผู้จัดการฝ่ายการลงทุน อเบอร์ดีน แอสเสท แมเนจเมนท์ เอเชีย ลิมิเต็ด กล่าวถึงภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ว่า กลุ่มประเทศเกิดใหม่ทั่วโลกมีอัตราจำนวนประชากรที่มาก ไม่ใช่เฉพาะเพียงประเทศจีนกับอินเดียเท่านั้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยังมีโอกาสสูงมาก โดยตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา มีการฟื้นตัวขึ้นมามากกว่าตลาดของประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตที่ไม่รุนแรงมากนัก
โดยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ทั่วโลกกำลังดีขึ้นส่งผลให้สถานการณ์ของบริษัทต่างๆดีขึ้นตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ยังมีความแตกต่างกัน ดังนั้น บริษัทต่างๆก็จะมีการเติบโตไปตามภาวะของประเทศนั้นๆ โดยตลาดเกิดใหม่ อย่าง บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน (BRICs) มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก ต่อเนื่องตลอด 15 ปีที่ผ่านมา
มร.แอนดรูว์ กล่าวว่า แม้ว่าในปี 2008 ตลาดเกิดใหม่จะมีเงินไหลออกประมาณ 4.95 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากถูกแรงเทขายอย่างหนัก แต่ในปี 2009 มีเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาแล้วประมาณ 4.34 หมื่นล้านดอลลาร์ และในระยะยาวแล้วยังน่าจะไหลเข้ามาต่อเนื่องในกลุ่มตลาดเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่นั้นทางอเบอร์ดีน ให้นํ้าหนักการลงทุนอยู่บนพื้นฐานของการเลือกหุ้น โดยให้นํ้าหนักการลงทุนในประเทศอินเดียและเม็กซิโก แต่ให้นํ้าหนักน้อยต่อการลงทุนในเกาหลี ไต้หวันและรัสเซีย เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องความโปร่งใส ขณะเดียวกันยังเน้นการลงทุนมากในกลุ่มอุปโภคบริโภคและกลุ่มการเงินที่อิงอยู่บนการทำตลาดในประเทศ ซึ่งบริษัทที่เข้าไปลงทุนนั้นต้องเป็นบริษัทที่มีรายได้มาจากการเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งยังเลือกลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสเติบโตคาดการณ์ได้และซื้อขายทำกำรไจากหุ้นในบางครั้งด้วย
นอกจากนี้ยังลงทุนน้อยในกลุ่มอุตสาหกรรมและวัสดุภัณฑ์เนื่องจากการแกว่งตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตามวงจรตลาดและยังรวมไปถึงกลุ่มโทรคมนาคม เนื่องจากผลกระทบในระยะยาวจากเทคโนโลยีใหม่ที่มีต่อกิจการโทรศัพท์พื้นฐาน
สำหรับ บริษัทที่กองทุนเปิดอเบอร์ดีน โกลบอลอีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอคควิตี้ ฟันด์ ซึ่งเป็นกองทุนหลักลงทุนอยู่นั้น ได้แก่ VALE บริษัทเหมืองแร่และแปรรูปโลหะอันดับสองของโลก , China Mobile บริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน , Akbank ธนาคารที่มีมูลค่ามากที่สุดของตุรกี ,TSMC ผู้ผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก , Petrochina บริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน , FEMSA ธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อที่ใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกา, Massmart บริษัทจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคใน 14 ประเทศในทวีปแอฟริกา , Samsung Electronic บริษัทผลิตอุปกรณ์สื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์ , Bradesco หนึ่งในธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในบราซิล , Petrobras บริษัท ผู้ผลิตและผู้จัดจำาหน่ายน้ำมันรายใหญ่ใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกา
มร.แอนดรูว์ จิลแลน ผู้จัดการฝ่ายการลงทุน อเบอร์ดีน แอสเสท แมเนจเมนท์ เอเชีย ลิมิเต็ด กล่าวถึงภาวะการเติบโตทางเศรษฐกิจและการลงทุนของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ว่า กลุ่มประเทศเกิดใหม่ทั่วโลกมีอัตราจำนวนประชากรที่มาก ไม่ใช่เฉพาะเพียงประเทศจีนกับอินเดียเท่านั้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยังมีโอกาสสูงมาก โดยตลาดหุ้นของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ตั้งแต่วันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา มีการฟื้นตัวขึ้นมามากกว่าตลาดของประเทศที่พัฒนาแล้ว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤตที่ไม่รุนแรงมากนัก
โดยอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเกิดใหม่ทั่วโลกกำลังดีขึ้นส่งผลให้สถานการณ์ของบริษัทต่างๆดีขึ้นตามไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้ยังมีความแตกต่างกัน ดังนั้น บริษัทต่างๆก็จะมีการเติบโตไปตามภาวะของประเทศนั้นๆ โดยตลาดเกิดใหม่ อย่าง บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีน (BRICs) มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ทั่วโลก ต่อเนื่องตลอด 15 ปีที่ผ่านมา
มร.แอนดรูว์ กล่าวว่า แม้ว่าในปี 2008 ตลาดเกิดใหม่จะมีเงินไหลออกประมาณ 4.95 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากถูกแรงเทขายอย่างหนัก แต่ในปี 2009 มีเม็ดเงินไหลกลับเข้ามาแล้วประมาณ 4.34 หมื่นล้านดอลลาร์ และในระยะยาวแล้วยังน่าจะไหลเข้ามาต่อเนื่องในกลุ่มตลาดเกิดใหม่อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่นั้นทางอเบอร์ดีน ให้นํ้าหนักการลงทุนอยู่บนพื้นฐานของการเลือกหุ้น โดยให้นํ้าหนักการลงทุนในประเทศอินเดียและเม็กซิโก แต่ให้นํ้าหนักน้อยต่อการลงทุนในเกาหลี ไต้หวันและรัสเซีย เนื่องจากมีปัญหาในเรื่องความโปร่งใส ขณะเดียวกันยังเน้นการลงทุนมากในกลุ่มอุปโภคบริโภคและกลุ่มการเงินที่อิงอยู่บนการทำตลาดในประเทศ ซึ่งบริษัทที่เข้าไปลงทุนนั้นต้องเป็นบริษัทที่มีรายได้มาจากการเติบโตตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งยังเลือกลงทุนในหุ้นที่มีโอกาสเติบโตคาดการณ์ได้และซื้อขายทำกำรไจากหุ้นในบางครั้งด้วย
นอกจากนี้ยังลงทุนน้อยในกลุ่มอุตสาหกรรมและวัสดุภัณฑ์เนื่องจากการแกว่งตัวของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ตามวงจรตลาดและยังรวมไปถึงกลุ่มโทรคมนาคม เนื่องจากผลกระทบในระยะยาวจากเทคโนโลยีใหม่ที่มีต่อกิจการโทรศัพท์พื้นฐาน
สำหรับ บริษัทที่กองทุนเปิดอเบอร์ดีน โกลบอลอีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอคควิตี้ ฟันด์ ซึ่งเป็นกองทุนหลักลงทุนอยู่นั้น ได้แก่ VALE บริษัทเหมืองแร่และแปรรูปโลหะอันดับสองของโลก , China Mobile บริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน , Akbank ธนาคารที่มีมูลค่ามากที่สุดของตุรกี ,TSMC ผู้ผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลก , Petrochina บริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศจีน , FEMSA ธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อที่ใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกา, Massmart บริษัทจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคใน 14 ประเทศในทวีปแอฟริกา , Samsung Electronic บริษัทผลิตอุปกรณ์สื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์ , Bradesco หนึ่งในธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในบราซิล , Petrobras บริษัท ผู้ผลิตและผู้จัดจำาหน่ายน้ำมันรายใหญ่ใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกา
