xs
xsm
sm
md
lg

ภาพรวมตลาดหุ้นในเดือนกันยายน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ คุยกับผู้จัดการกองทุน
โดยบลจ. แอสเซท พลัส


ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 63.82 จุดหรือ 9.77 % โดย ณ วันที่ 30 กันยายน 52 SET Index ปิดที่ระดับ 717.07 และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 25,656 ล้านบาท โดย SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค เนื่องจากดัชนีบ่งชี้ทางเศรษฐกิจของจีนยังอยู่ในเกณฑ์ดีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) ซึ่งเพิ่มขึ้นสู่ 54.0 ในเดือนสิงหาคม และนับเป็นการปรับเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชียก็ส่งสัญญาณการฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าจะเป็น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของไทยก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 3.4% เทียบกับเดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ ดัชนีการลงทุนภาคเอกชนเพิ่มขึ้น 1.6% เทียบกับเดือนที่ผ่านมา ปัจจัยดังกล่าวทำให้กระแสเงินลงทุนไหลเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นปัจจัยทางการเมืองที่ดีขึ้นหลังจากคณะผู้พิพากษาศาลฎีกาพิพากษาคดีที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.) ยื่นฟ้อง นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายเนวิน ชิดชอบ และพวกรวม 44 คน ในการจัดซื้อต้นกล้ายางพารามูลค่า 1,440 ล้านบาท โดยศาลฯตัดสินยกฟ้องจำเลยทั้ง 44 คน จึงผลักดันทำให้ SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น และแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 731.58 ในวันที่ 23 กันยายน

หลังจากนั้น SET ได้เข้าสู่ภาวะการปรับฐานระยะสั้นหลังจากที่ SET Index ไม่สามารถยืนเหนือระดับ 730 ได้ ประกอบกับสหรัฐอเมริกาประกาศตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านที่ลดลงมากกว่าที่คาด ทำให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และทำให้ SET ปรับตัวลดลงประมาณ 25 จุด

อย่างไรก็ดี ข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทในสหรัฐอเมริกาก็ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกไม่ปรับตัวลดลงมากนักและทำให้ SET สามารถยืนเหนือระดับ 715 ได้ โดยในเดือนกันยายนนักลงทุนต่างชาติเป็นผู้ซื้อสุทธิ 22,995 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันเป็นผู้ขายสุทธิ 4,025 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนรายย่อยเป็นผู้ขายสุทธิ 18,970 ล้านบาท

คาดการณ์การลงทุนในเดือนตุลาคม
ในช่วงเดือนตุลาคม SET น่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 700-750 จุด โดยตลาดหุ้นน่าจะยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นจากกระแสเงินลงทุนที่เข้ามาในภูมิภาคเอเซียอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามมีปัจจัยตัวเลขเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศตลอดจนปัจจัยการเมืองภายในประเทศยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
กำลังโหลดความคิดเห็น