คอลัมน์ ตลาดทุนไทนในสายตาต่างชาติ
โดยบริษัท เน็กซ์วิว (ประเทศไทย) จำกัด
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนส่วนใหญ่ค่อนข้างกังวล และไม่มั่นใจในสถานการณ์ การลงทุนในบ้านเรานัก ซึ่งอาจเป็นเพราะความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ไล่ลงมาถึงในระดับภูมิภาค ยันระดับประเทศ ที่ยังหาความเชื่อมั่นไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ย้อนกลับมาในส่วนที่ใกล้ตัวมากที่สุด และผู้เขียนก็คุ้นเคยมากเช่นกัน คือ การเข้าไปเก็งกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ที่สินค้าอ้างอิงเป็นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ หรือ เรียกกันง่ายๆ ว่า SET50 Index Futures ที่ ณ ความผันผวนในปัจจุบันนั้น ยากที่จะทำกำไรเป็นกอบเป็นกำให้กับนักเก็งกำไร อันเนื่องมาจาก การแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ที่ยากต่อการพยากรณ์แนวโน้ม กอปรกับ ความผันผวนต่อวันซึ่งโดยเฉลี่ย ก็อยู่ที่ประมาณ 5 จุด (หากซื้อเพียง 1 สัญญา ก็สามารถทำกำไรได้มากสุดเพียงแค่ 4 – 5 พันบาท ต่อวันเท่านั้น) จึงทำให้นักลงทุนที่ต้องการกำไรที่เป็นกอบเป็นกำมากขึ้น จำเป็นที่จะต้องเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเอง โดยการเพิ่มจำนวนสัญญาให้มากขึ้น แต่ก็ทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตาม เช่นกัน
เนื่องจากภาพรวมการซื้อขายในบ้านเรานั้น ถูกขับเคลื่อนด้วยกลุ่มคน ที่ต้องการแสวงหากำไรอยู่บนความได้เปรียบของเงินลงทุน สายสัมพันธ์ต่อหน่วยงานภาครัฐ จนทำให้เกิดรูปแบบที่เรียกว่า “การทำราคา” ขึ้นมา เพื่อให้นักลงทุนรายย่อย เกิดความไขว้เขว และอาจเข้าใจผิด ถึงรูปแบบของสัญญาณหลอก ที่ถูกปรับแต่งให้สอดคล้องกับทฤษฎีการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยมีการบิดเบือนให้เกิดความน่าเชื่อถือ โดยอาศัยข้อมูลทางด้านปัจจัยพื้นฐานเข้ามาเป็นองค์ประกอบ และอาจมีหุ่นเชิด ที่เป็นหน้าม้า เข้ามาร่วมผสมโรง จนทำให้นักลงทุนที่ไม่มีประสบการณ์เพียงพอเสียท่าได้ (เสียท่ายังไม่เท่าไหร่ แต่เสียเงินนี่สิ ช้ำใจยิ่งกว่า) หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.technicalday.com ได้ครับ
จากกราฟรายชั่วโมงจะเห็นว่า HSI ได้ปรับตัวลดลงและทะลุแนวรับที่ 2 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในขณะที่ SET50 ในบ้านเรา ยังเยื้อเพื่อไม่ให้หลุดแนวรับดังกล่าวลงมาได้ ซึ่งถือว่าค่อนข้างน่าแปลกใจ อันเนื่องมาจากความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจในภูมิภาค มักจะมีความเกี่ยวข้องกันเสมอ โดยมีการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันมาโดยตลอด หากมองเศรษฐกิจของไทย ณ ตอนนี้ ก็ยังไม่มีปัจจัยบวกอะไรเข้ามา ที่จะทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเชื่อมั่นได้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งถ้ามองเฉพาะในเชิงกราฟระหว่าง HSI และ SET50 นั้น จะเห็นว่าเรายังเคลื่อนไหวลงในลักษณะที่เชื่องช้ากว่าเขามาก นั่นอาจทำให้หากแรงหนุน ณ ปัจจุบันหมดไป นักลงทุนที่ขาดประสบการณ์ อาจต้องพบกับสภาวะของการขาดทุนในเร็ววันนี้ก็เป็นได้ (ให้นึกภาพของหิมะถล่ม ที่ใครก็ไม่อาจต้านทานได้)
โดยบริษัท เน็กซ์วิว (ประเทศไทย) จำกัด
ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนส่วนใหญ่ค่อนข้างกังวล และไม่มั่นใจในสถานการณ์ การลงทุนในบ้านเรานัก ซึ่งอาจเป็นเพราะความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ไล่ลงมาถึงในระดับภูมิภาค ยันระดับประเทศ ที่ยังหาความเชื่อมั่นไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
ย้อนกลับมาในส่วนที่ใกล้ตัวมากที่สุด และผู้เขียนก็คุ้นเคยมากเช่นกัน คือ การเข้าไปเก็งกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ที่สินค้าอ้างอิงเป็นดัชนีตลาดหลักทรัพย์ หรือ เรียกกันง่ายๆ ว่า SET50 Index Futures ที่ ณ ความผันผวนในปัจจุบันนั้น ยากที่จะทำกำไรเป็นกอบเป็นกำให้กับนักเก็งกำไร อันเนื่องมาจาก การแกว่งตัวในลักษณะ Sideway ที่ยากต่อการพยากรณ์แนวโน้ม กอปรกับ ความผันผวนต่อวันซึ่งโดยเฉลี่ย ก็อยู่ที่ประมาณ 5 จุด (หากซื้อเพียง 1 สัญญา ก็สามารถทำกำไรได้มากสุดเพียงแค่ 4 – 5 พันบาท ต่อวันเท่านั้น) จึงทำให้นักลงทุนที่ต้องการกำไรที่เป็นกอบเป็นกำมากขึ้น จำเป็นที่จะต้องเพิ่มความเสี่ยงให้กับตัวเอง โดยการเพิ่มจำนวนสัญญาให้มากขึ้น แต่ก็ทำให้ความเสี่ยงเพิ่มขึ้นตาม เช่นกัน
เนื่องจากภาพรวมการซื้อขายในบ้านเรานั้น ถูกขับเคลื่อนด้วยกลุ่มคน ที่ต้องการแสวงหากำไรอยู่บนความได้เปรียบของเงินลงทุน สายสัมพันธ์ต่อหน่วยงานภาครัฐ จนทำให้เกิดรูปแบบที่เรียกว่า “การทำราคา” ขึ้นมา เพื่อให้นักลงทุนรายย่อย เกิดความไขว้เขว และอาจเข้าใจผิด ถึงรูปแบบของสัญญาณหลอก ที่ถูกปรับแต่งให้สอดคล้องกับทฤษฎีการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยมีการบิดเบือนให้เกิดความน่าเชื่อถือ โดยอาศัยข้อมูลทางด้านปัจจัยพื้นฐานเข้ามาเป็นองค์ประกอบ และอาจมีหุ่นเชิด ที่เป็นหน้าม้า เข้ามาร่วมผสมโรง จนทำให้นักลงทุนที่ไม่มีประสบการณ์เพียงพอเสียท่าได้ (เสียท่ายังไม่เท่าไหร่ แต่เสียเงินนี่สิ ช้ำใจยิ่งกว่า) หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ www.technicalday.com ได้ครับ
จากกราฟรายชั่วโมงจะเห็นว่า HSI ได้ปรับตัวลดลงและทะลุแนวรับที่ 2 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ในขณะที่ SET50 ในบ้านเรา ยังเยื้อเพื่อไม่ให้หลุดแนวรับดังกล่าวลงมาได้ ซึ่งถือว่าค่อนข้างน่าแปลกใจ อันเนื่องมาจากความสัมพันธ์ระหว่างเศรษฐกิจในภูมิภาค มักจะมีความเกี่ยวข้องกันเสมอ โดยมีการเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันมาโดยตลอด หากมองเศรษฐกิจของไทย ณ ตอนนี้ ก็ยังไม่มีปัจจัยบวกอะไรเข้ามา ที่จะทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศเชื่อมั่นได้เลยแม้แต่น้อย ซึ่งถ้ามองเฉพาะในเชิงกราฟระหว่าง HSI และ SET50 นั้น จะเห็นว่าเรายังเคลื่อนไหวลงในลักษณะที่เชื่องช้ากว่าเขามาก นั่นอาจทำให้หากแรงหนุน ณ ปัจจุบันหมดไป นักลงทุนที่ขาดประสบการณ์ อาจต้องพบกับสภาวะของการขาดทุนในเร็ววันนี้ก็เป็นได้ (ให้นึกภาพของหิมะถล่ม ที่ใครก็ไม่อาจต้านทานได้)