บลจ.อยุธยา จับจังหวะเศรษฐกิจแดนกิมจิฟื้น กลับมาขายกองทุนใหม่ในรอบ 7 เดือน ประเดิมกองทุนอายุ 6 เดือน เน้นลงทุนบอนด์ MSB ให้ผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 2.00% ต่อปี ขายไอพีโอถึง 10 สิงหาคมนี้
นายอาสา อินทรวิชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกองทุนตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อยุธยา จำกัด (เอวายเอฟ) เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 สิงหาคมนี้ บริษัทจะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรกของกองทุนเปิดกรุงศรีพันธบัตรเกาหลี 6M1 กองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศอายุประมาณ 6 เดือน ซึ่งมีนโยบายการลงทุนเงินลงทุนอย่างน้อยร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยจะเน้นลงทุนในตราสารภาครัฐต่างประเทศ ส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากและ/หรือตราสารหนี้อื่น
ทั้งนี้ ตราสารหนี้ต่างประเทศที่กองทุนเข้าไปลงทุนดังกล่าว เป็นพันธบัตร Monetary Stabilization Bond (MSB) ของเกาหลีใต้ ที่ได้รับจัดอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศผู้ออกตราสาร F-1 จาก Fitch Rating โดยกองทุนมีการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และคาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนประมาณ 2.00% ต่อปี ซึ่งจะเสนอขายถึงวันที่ 10 สิงหาคมนี้
นายอาสา กล่าวว่า สาเหตุที่บลจ.อยุธยากลับมาเสนอขายกองทุนเกาหลีอีกครั้งหลังจากเลื่อนออกไปตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศเกาหลีล่าสุด มีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจเกาหลีขยายตัวได้ถึง 2.3% ซึ่งถือเป็นการขยายตัวสูงสุดตั้งแต่ปี 2003 หรือในรอบ 6 ปี โดยเป็นผลมาจากการส่งออกที่กลับมาเป็นบวก 11.2% จากที่ติดลบไป 4.3% ในช่วงไตรมาสแรก ในขณะที่การลงทุนในเครื่องจักรต่างๆ ก็มีอัตราการขยายตัวสูงขึ้นจาก -11.2% เป็น 8.4 %
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจเกาหลีใต้จะส่งสัญญาณฟื้นตัว และมั่นใจได้มากขึ้น แต่พบว่าต้นทุนในการป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน (สวอป) กลับเพิ่มขึ้น ดังนั้น ผลตอบแทนที่ได้จึงไม่สูงมากเหมือนก่อนหน้านี้ แต่หากเทียบกับพันธบัตรในประเทศแล้วถือว่ายังให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
"ที่ผ่านมา เรากังวลว่าเศรษฐกิจเกาหลีจะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เพราะเป็นกลุ่มประเทศที่พึ่งพาการส่งออกสูง เช่นเดียวกับสิงคโปร์และไต้หวัน ซึ่งหากเศรษฐกิจโลกลงแรง เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศเหล่านี้ก็จะลงแรงเช่นกัน แต่ในทางกลับกัน หากเศรษฐกิจโตเร็ว กลุ่มประเทศเหล่านี้ก็จะโตเร็วเช่นกัน ซึ่งการที่เศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัว เราจึงมั่นใจที่จะกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง"นายอาสากล่าว
สำหรับแผนต่อไป นายอาสา กล่าวว่า กองทุนตราสารหนี้ที่ลงทุนในประเทศเกาหลบีใต้ ยังเป็นเป้าหมายหลักของบลจ.อยุธยา โดยหลังจากนี้หากตลาดยังเอื้อต่อการออกกองทุน และผลตอบแทนยังอยู่ในระดับที่น่าสนใจ ก็พร้อมเสนอขายกองทุนต่อไปทันที แต่ถ้าอยู่ในระดับใกล้เคียงกันหรือไม่ต่างกันมาก ก็อาจจะชะลอเอาไว้ก่อน