นักวิเคราะห์กองทุนรวม มอง "จีน-อินเดีย"สดใสโดดเด่นเรื่องการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ชู "อเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิค เอคควิตี้" น่าลงทุน หลังให้น้ำหนักหุ้นในประเทศจีน เเละอินเดีย พร้อมเเนะนำให้ชะลอการลงทุนในสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วงนี้ เหตุยังมีความผันผวนทางด้านราคา
นางสาวศุภมาส พยัคฆพันธ์ Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน และอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยเริ่มมีการปรับลดประมาณการณ์ลงในปีนี้ เราแนะนำกองทุนต่างประเทศที่มีการลงทุนในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องการขยายตัวของเศรษฐกิจที่โดดเด่น นำโดย เศรษฐกิจจีนและอินเดียทั้งปีนี้ และต่อเนื่องจนถึงปีหน้า
โดยเรามองว่า กองทุนอเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิค เอคควิตี้ ฟันด์ (ABAPAC) ของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) อเบอร์ดีน จำกัด เนื่องจากพอร์ตการลงทุนในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เน้นลงทุนในหุ้นในประเทศจีน และ เชื้อสายจีน 38.8% รวม ทั้งอินเดีย 15.2% เป็นสัดส่วนใหญ่ โดยกลุ่มธุรกิจที่ลงทุนมากที่สุดคือ กลุ่มสถาบันการเงิน 37.0% และกลุ่มสื่อสาร 11.9% เเละกองทุนนี้ติดอันดับสูงสุดจากการจัดอันดับกองทุนของเราในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อเทียบ กับกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนประเภทเดียวกัน โดยผลตอบแทนกองทุน ณ วันที่ 24 มิถุนายน 2552 ย้อนหลัง 3 เดือน และ 6 เดือน อยู่ที่ 28.8% และ 29.1% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม จากภาวะอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังผันผวน ราคาน้ำมัน และทองคำที่ยังมีทิศทางที่ไม่แน่นอน อยากให้นักลงทุนชะลอการลงทุนสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์ในช่วงนี้ โดยทางเลือกสำหรับการลงทุนในราคาน้ำมัน และ/หรือ หุ้นในกลุ่มพลังงานที่มองว่า น่าสน ใจสำหรับทิศทางราคาน้ำมัน และพลังงาน ที่ยังมองเป็นช่วงขาขึ้นในระยะ 12 เดือนข้างหน้า เราแนะนำ I-Energy10 ของบลจ.เอ็มเอฟซีซึ่งเป็นกองทุนยืดหยุ่นที่ลงทุนใน ETF หลายกอง และมีผลตอบแทนขึ้นอยู่กับราคาน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน โดยเป็น targetfund ที่มีเป้าหมายผลตอบแทนที่ 10% ในระยะเวลาการลงทุน 1 ปี
ส่วนกองทุนพันธบัตรรัฐบาลาเกาหลีใต้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการปรับขึ้น หลังจากรัฐบาลเกาหลีใต้มีการยกเว้นภาษีดอกเบี้ย 15%โดยกองทุนพันธบัตรเกาหลีใต้มี tentative return ที่ 2.50 % - 2.60 % สำหรับระยะเวลา 6 เดือน 3.00 %สำหรับระยะเวลา 1 ปี และ 4.00% สำหรับระยะเวลา 2 ปี เรามองว่า การทดลองขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ อาจส่งผลลบชั่วคราวต่อค่าเงินวอน แต่ไม่น่าส่งผลต่อความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการลงทุนพันธบัตรเกาหลีใต้และกองทุนเหล่านี้มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมด
สำหรับภาวะการลงทุนในช่วงที่ผ่านมาว่า ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาและยุโรปปรับลดลง โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังส่งสัญญาณลบ ทางด้านอัตราการว่างงาน 9.4 % ใน เดือนพฤษภาคม และมีแนวโน้มเพิ่มเป็น 10% ภายในปีนี้ และอัตราการออมที่สูงเกินคาด รวมทั้งธนาคารโลก (World Bank) ได้ปรับลดประมาณการณ์อัตราการ ขยายตัวของ เศรษฐกิจโลกในปี 2552 ลงจาก -1.7% เป็น -2.9% และปรับลดประมาณการณ์เศรษฐกิจของประเทศพัฒนาลงทั้งหมดในขณะที่ปรับเพิ่มคาด การณ์ เศรษฐกิจจีนและอินเดียสำหรับปี 2552-2553 ในขณะที่ธนาคารกลางของสหรัฐ อเมริกายังคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.25
ส่วนดัชนีตลาดหุ้นเอเชียนยังมีการปรับฐานในสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินสกลุเอเชียส่วนใหญ่ยังอ่อนค่า เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ส่วนภาพเศรษฐกิจโดยรวม มองว่ายังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจลดลงกว่าช่วงที่ผ่านมา ทำให้แนวโน้มในสัปดาห์นี้ คาดว่า อัตราผลตอบแทนยังมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อ โดยเฉพาะ ในระยะกลาง และระยะยาว ทำให้ความชันในช่วงดังกล่าวของ YieldCurve ลดลง อย่างไรก็ตาม ระหว่าง สัปดาห์อาจจะมีโอกาสผันผวนได้จากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย และตัวเลขเงินเฟ้อ ของกระทรวงพาณิชย์ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา