xs
xsm
sm
md
lg

Q&A Corner : ว่าด้วยเรื่อง RMF

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คำถาม - ผมมีคำถามเกี่ยวกับการขาย RMF ดังนี้ กล่าวคือ ผมมีประวัติการลงทุนใน RMF ดังนี้
1. 14 พฤศจิกายน 2546 ซื้อ RMF จำนวน 50,000 บาท บลจ.อยุธยา
2. 17 พฤศจิกายน 2546 ซื้อ RMF จำนวน 30,000 บาท บลจ.อยุธยา
3. 14 ตุลาคม 2547 ซื้อ RMF จำนวน 10,000 บาท บลจ.อบุธยา
4. 12 ตุลาคม 2548 ในปีนี้ไม่มีการซื้อใหม่แต่เป็นการเปลี่ยนบลจ จากบลจ.อยุธยา เป็น บลจ.อเบอร์ดีน ทั้งจำนวนรวม 98,500 บาท
5. 15 กุมภาพันธ์ 2549 ซื้อ RMF จำนวน 10,000 บาท บลจ.อเบอร์ดีน
6. 17 ธันวาคม 2550 ซื้อ RMF จำนวน 10,000 บาท บลจ.อเบอร์ดีน
7. 24 ธันวาคม 2551 ซื้อ RMF จำนวน 10,000 บาท บลจ.กสิกรไทย

อยากทราบว่าในปีนี้ผมสามารถขาย RMF ได้เป็นเงินจำนวนเท่าใด เพื่อไม่ให้ผิดเงื่อนไข เคยถามกับกรมสรรพากร สรรพากรตอบว่า เงินลงทุนก่อนตุลาคม 2551 ถ้าถือครบ 5 ปี แบบวันชนวัน สามารถขายได้โดยไม่ถือว่าผิดเงื่อนไข นั่นหมายความว่าผมสามารถขาย ยอด 4-6 ของอเบอร์ดีนได้หมดเลยใช่มั้ยครับเมื่อถึงวันที่ 14 พฤศจิกายน 2552 ส่วนเงินที่ลงหลังสิ้นเดือนตุลาคม 2551 นั่นคือ ข้อ 7 ผมต้องถือไปจนอายุ 55 ปีแล้วค่อยขายจึงไม่ผิดเงื่อนไขใช่มั้ยครับ

รบกวนช่วยตอบด้วยครับ งงไปหมดแล้วครับ ทั้งวิธีนับปี บางคนก็บอกว่าปีที่ไม่ได้ลงทุนเงินใหม่ไม่นับ บางคนก็บอกว่านับ แต่ผม play safe ไม่นับไว้ก่อน เงินก้อนแรกที่ลง 14 พฤศจิกายน 2546 ถึงได้ครบวันที่ 14 พฤศจิกายน 2552 ไม่ทราบว่าผมเข้าใจถูกต้องรึเปล่าคับ ช่วยตอบด้วยนะครับ
เจริญ

ตอบ - คุณ ธวัชชัย เหลืองสุรรังษี จากสมาคมบริษัทจัดการลงทุนเป็นผู้ตอบคำถามให้กับคุณ เจริญ นะครับ ลำดับแรกข้อแก้ไขความเข้าใจใหม่ว่า เงินลงทุนก่อน 1 มีนาคม 2551 ถ้ามีการลงทุนครบเงื่อนไขตามประกาศเดิมแล้วสามารถขายได้ครับ (ข้อมูลที่แจ้งเป็นก่อนตุลาคม 2551 นั้นเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อนครับ) ในการนับปีนั้นต้องนับ 2 ลักษณะ คือ ลักษณะแรกจะเป็นแบบระยะเวลา 5 ปีนับจากวันแรกที่ลงทุน นับแบบวันชนวัน (ไม่เกี่ยวกับว่าปีต่อไปลงทุนหรือไม่) และลักษณะที่สอง คือ นับปีการลงทุนซึ่งจะนับเฉพาะปีที่มีการลงทุนเพิ่มเท่านั้น โดยจะต้องมีจำนวนต่อเนื่องตามที่กรมสรรพากรกำหนดไม่น้อยกว่า 5 ปี (ปีที่ไม่ลงทุนจะไม่นับเป็นปีการลงทุนให้) ถามว่าดูแบบเดียวเลยไม่ได้หรือ ก็ต้องตอบว่าไม่ได้ คือ กรณีที่มีการลงทุนติดต่อกันทุกปีปฏิทิน หากนับเฉพาะปีที่มีการลงทุนเพิ่มเมื่อครบ 5 ปีการลงทุนนั้นจะมีระยะเวลาตั้งแต่วันแรกที่ลงทุนไม่ครบ 5 ปี เพราะปีแรกที่ลงทุนนับปีการลงทุนที่ 1 เลย แต่ระยะเวลายังไม่ได้ครบปี ส่วนกรณีที่มีการลงทุนแบบเว้นการลงทุนในบางปีไม่เกิน 1 ปี เช่น ลงทุนแบบปีเว้นปี แม้ระยะเวลานับจากวันแรกที่ลงทุนครบ 5 ปีแล้ว แต่ปีการลงทุนจะมีเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้น เป็นต้น

คำตอบที่จะตอบต่อไปนี้จะเป็นคำตอบเฉพาะสำหรับกรณีที่ยกตัวอย่างมาเท่านั้น ซึ่งอาจจะไม่สามารถนำไปเทียบเคียงเพื่อใช้กับกรณีอื่นๆ ที่แม้จะดูคล้ายๆ กันก็ได้นะครับ คือ สำหรับกรณีตามตัวอย่าง ผู้ลงทุนสามารถขายคืน เงินลงทุนตามเงื่อนไขเดิมที่กรมสรรพกรกำหนดได้ในส่วนเงินต้นและผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินลงทุนในปี 2546 ปี 2547 ปี 2549 และปี 2550 ได้ทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 แต่ถ้าหากจะเลยวันที่ 31 มีนาคม 2552 หรือ หลังจากที่ได้มีการยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2551 แล้วก็จะดีกว่าครับ เนื่องจากเมื่อนับระยะเวลาตั้งแต่วันแรกที่มีการลงทุน คือ 14 พฤศจิกายน 2546 จะครบ 5 ปี คือ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2551

แต่หากขายในวันดังกล่าวเมื่อนับปีการลงทุนจะได้แค่ 4 ปี คือ ปี 2546 ปี 2547 ปี 2548 และปี 2550 ไม่ครบตามเงื่อนไข ซึ่งเมื่อลงทุนในวันที่ 24 ธันวาคม 2551ก็ต้องรอให้เลยปีปฏิทินไปก่อนเพื่อให้เกิดสิทธิในการนับปีการลงทุนได้ ซึ่งเมื่อปีการลงทุนครบ 5 ปีแล้วในวันที่ 1 มกราคม 2552 ก็น่าจะสามารถขายคืนได้ แต่ถ้าจะให้ดีก็ตามที่เรียนคือให้ขายคืนหลังจากที่มีการยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปี 2551 หรือเลยวันที่ 31 มีนาคม 2552 ไปก่อนก็น่าจะดีกว่าครับ

สำหรับเงินลงทุนในปี 2551 ซึ่งเป็นการลงทุนภายหลังจากวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551นั้น ผู้ลงทุนก็จะต้องถือปฏิบัติตามเงื่อนไขใหม่ที่กรมสรรพากรกำหนด คือ เมื่อผู้ลงทุนมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์และมีปีการลงทุนไม่น้อยกว่า 5 ปี รวมทั้งนับจากวันแรกที่มีการลงทุนซึ่งในที่นี้คือ 24 ธันวาคม 2551 ไปถึงวันที่ขายคืนต้องมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี (นับแบบวันชนวัน) ด้วยครับ

ต้องขอบคุณ คุณ ธวัชชัยจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุนนะครับ สำหรับท่านผู้อ่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการลงุทนในกองทุนรวม หรือสงสัยในกองทุนที่ท่านผู้อ่านเข้าไปลงทุน ทางเรายินดีเป็นสื่อกลางให้ครับ ท่านสามารถส่งคำถามมาได้ที่อีเมล์ fund@manager.co.th หรือโพสต์คำถามไว้ที่  www.manager.co.th ในหน้ากองทุนรวม ทีมงานเต็มใจที่จะหาคำตอบให้ทางผู้อ่านได้ทราบอย่างเเน่นอนครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น