xs
xsm
sm
md
lg

“เมี่ยง” อติมา ธนเสนีวัฒน์ รู้จักเก็บออม-ใช้จ่ายตามกำลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมี่ยง – อติมา ธนเสนีวัฒน์
คอลัมน์เจาะพอร์ตคนดัง

หน้าที่ของคุณพ่อและคุณแม่ทุกวันนี้ นอกจากจะคอยอบรมสั่งสอนลูกๆ ให้เป็นคนดีแล้ว ควรที่จะปลูกฝังให้ลูกหลานของเราให้รู้จักใช้รู้จักออมด้วย เพราะลูกจะได้เติบโตขึ้นมาเป็นคนที่มีความสามารถในการจัดการด้านการเงินได้เป็นอย่างดีและรู้จักใช้ รวมถึงรู้จักเก็บในเวลาที่จะใช้จ่ายในแต่ละครั้งนั้น จะทำให้เด็กรู้คุณค่าของเงินมากขึ้น

และการที่พ่อแม่จะสอนให้ลูกรู้จักออม พ่อแม่ก็ควรจะทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีก่อน เพราะการเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น จะทำให้ลูกปฎิบัติตามได้ง่ายขึ้นด้วย พอคุณพ่อคุณแม่เป็นตัวอย่างที่ดีได้แล้ว ลูกก็สามารถเห็นภาพและจึงเกิดทัศนคติที่ดีต่อการออม

หลังจากนั้นคุณพ่อคุณแม่ ค่อยปลูกฝังในเรื่องต่างๆ เช่น การสอนให้เหลือเงินเก็บจากการที่ได้ค่าขนมไปโรงเรียน เมื่อญาติผู้ใหญ่ให้เงินก็สอนให้เก็บสะสมไว้ เมื่อเก็บสะสมเงินได้จำนวนมากพอก็สอนให้นำไปฝากธนาคาร สอนให้ใช้เงินอย่างประหยัดและรู้จักค่าของเงิน โดยให้ลูกพิจารณาถึงความจำเป็นและความเหมาะสมก่อนที่จะนำเงินที่เก็บออมไปใช้ด้วย

เช่นเดียวกับดารานักแสดงช่อง 7 สี “เมี่ยง – อติมา ธนเสนีวัฒน์” เธอก็เป็นคนหนึ่ง ที่ได้รับการปลูกฝั่งจากคุณพ่อคุณแม่ในเรื่องของการออมเงินมาตั้งแต่ยังเด็ก...วันนี้เธอเองจะมาเล่าถึงเรื่องราวต่าง ๆ ในด้านการจัดสรรเงินออม ในแบบฉบับของเธอว่า เมื่อเธอมีรายได้เป็นของตัวเองแล้วเธอมีรูปแบบการออมเงินเป็นอย่างไรบ้าง...

"เมี่ยง"เล่าให้ฟังว่า คุณพ่อคุณแม่พยายามสอนเสมอๆ ในช่วงวัยเด็กให้เรารู้จักใช้อย่างจำเป็น ซึ่งเมื่อจะตัดสินใจซื้ออะไรแล้ว ต้องพิจารณาให้ดีด้วยว่ามันสามารถใช้ได้คุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน ถ้าของสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องใช้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน ของสิ่งนั้นเราก็ควรลงทุนซื้อไปเลย ถึงแม้จะมีราคาที่สูงกว่าท้องตลาดก็ตาม แต่ถ้าของสิ่งใหม่ที่ใช้ไม่นานเท่าไหร่นัก หรือไม่ค่อยจำเป็นมากนัก ก็เลือกซื้อที่ใช้ได้ไม่ต้องราคาแพงมาก เพราะจะทำให้เราสูญเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์

ปัจจุบัน"เมี่ยง" มีธุรกิจส่วนตัวที่ร่วมทำกับเพื่อน ๆ ในวงการบันเทิงอย่าง “ยุ้ย – จิรานันท์ มโนแจ่ม” โดยการเปิดโรงเรียนสอนการแสดง ซึ่งโรงเรียนแห่งนี้เปิดมาแล้วกว่า 5 ปี นอกจากนี้แล้ว เมี่ยงเองยังทำธุรกิจเล็ก ๆ ที่เป็นของตัวเองที่เกี่ยวกับเครื่องประดับ ซึ่งในครั้งแรกขายร่วมกับเพื่อน ๆ แถวหน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร แต่ในขณะนี้ได้ขยายกิจการโดยการขายผ่านอินเทอร์เน็ตซึ่งก็ถือว่าได้รับการตอบรับดีพอสมควร

ส่วนในอนาคตนั้น “เมี่ยง” บอกว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีแบบนี้ก็อยากที่จะทำธุรกิจตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อน เมื่อภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นแล้วค่อยคิดที่จะขยายสาขาให้เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นตอนนี้เราต้องอยู่อย่างพอเพียง ไม่เวอร์และไม่ใช้จ่ายจนเกินตัวจะเป็นการดีที่สุด

สำหรับธุรกิจด้านโรงเรียนการแสดงนั้น ต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบบ้าง แต่เราจะทำทุกอย่างให้เกิดปัญหาให้น้อยที่สุด ซึ่งในบางครั้งมันก็เป็นไปไม่ได้ ดังนั้น เราก็ต้องมาค่อย ๆ คุยกันโดยใช้เหตุผลในการแก้ไขปัญหา และต้องยอมรับฟังความคิดเห็นของทุก ๆ คน เนื่องจากว่าธุรกิจดังกล่าวมีหุ้นส่วนอยู่หลายคน และเราก็จะช่วยกันหาทางออกของปัญหานั้น ๆ ได้

ส่วนในเรื่องของการออมเงินนั้น "เมี่ยง" มองว่า มีประโยชน์มากที่สุด ยิ่งในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ด้วยแล้ว ยิ่งต้องรู้จักเก็บออมและใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมาก เนื่องจากว่าการเจ็บไข้ได้ป่วยหรือเหตุฉุกเฉินนั้น เป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน และไม่สามารถคาดการณ์ได้ ดังนั้นเราต้องมีการเตรียมพร้อมอยู่เสมอ

“ทุกวันนี้เมี่ยงจะพยายามนำเสื้อผ้า หรือเครื่องประดับเก่า ๆ นำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด จะเห็นได้ว่าแฟชั่นจะเป็นแบบย้อนยุคกำลังมาแรง ใส่เข็มขัดอันใหญ่ ๆ เราก็อาจจะยืมของคุณแม่มาใส่บ้าง เพื่อมามิกซ์ให้เข้ากับเสื้อผ้าที่เรามีอยู่ มันก็จะเป็นชุดใหม่อีกหนึ่งชุด โดยไม่ต้องไปหาซื้อใหม่ให้สิ้นเปลืองสตางค์” เมี่ยง บอก

สำหรับงานในวงการบันเทิงนั้น ขณะนี้ "เมี่ยง"มีละครทางช่อง 7 สี คือเรื่อง “ธิดาวานร ภาค 2” ซึ่งจะออกฉายในช่วงเดือนหน้า ตอนหลังข่าวภาคค่ำ ส่วนอีกหนึ่งเรื่อง “หวานใจใยต่างดาว” เป็นละครของค่ายเอ็กแซก ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการถ่ายทำ และเป็นการร่วมงานกับค่ายเอ็กแซกเป็นครั้งแรกด้วย ซึ่งเมี่ยงบอกว่า รู้สึกดีใจมาก ตื่นเต้นมาก ที่ได้ร่วมงานกับเอ็กแซกโดยในละครเรื่องนี้รับบทเป็นเพื่อนนางเอก นอกจากนี้แล้ว เมี่ยงยังเป็นนักแสดงที่อยู่ในสังกัดของ บริษัท สปีดวัน อาร์ทิส แมเนจเม้นท์ จำกัด อีกด้วย

"เมี่ยง"บอกอีกว่า รายได้ทั้งหมดไม่ว่าจะได้มาจากงานในวงการบันเทิงหรือจากการทำธุรกิจนั้น ก็ยังคงให้คุณแม่เป็นคนดูแลให้เป็นหลัก เพราะเรารู้สึกไว้ในและรู้สึกได้ถึงความปลอดภัยเมื่อเรานำไปฝากไว้กับคุณแม่ แต่เมื่อเมี่ยงอย่างใช้อะไรหรืออยากจะซื้ออะไรก็ยังไปขอคุณแม่อยู่เหมือนเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ๆ

สุดท้ายเมี่ยงฝากบอกว่า...บางคนอาจจะเห็นว่าทำไมเขาถึงไม่เดือดร้อนในการจับจ่ายใช้สอยในสิ่งที่มันฟุ่มเฟือยทั้ง ๆ ที่เศรษฐกิจไม่ดี นั่นก็เป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า เขาอาจจะไม่ได้เดือดร้อนในเรื่องค่าใช้จ่าย แต่เราก็ต้องไม่เอาเป็นแบบอย่าง เพราะเราอาจจะไม่ได้มีรายได้มากจนเหลือเก็บ ดังนั้น เราต้องรู้จักใช้จ่ายตามกำลังของตัวเองและต้องมีเงินเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉินด้วย

///////////////////////////////////////////////////////////////////////
ชื่อ – นามสกุล อติมา ธนเสนีวัฒน์ (เมี่ยง)
วันเดือนปีเกิด 20 ตุลาคม 2527
การศึกษา ปริญญาตรี คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ
มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ผลงานปัจจุบัน ละครเรื่อง “ธิดาวานร ภาค 2” , “หวานใจใยต่างดาว”



กำลังโหลดความคิดเห็น