xs
xsm
sm
md
lg

สังคมกองทุนรวม “ASTVผู้จัดการรายวัน” ฉบับประจำวันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2552

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลังจากปรับตัวบวกมาหลายวันติดต่อกัน ดัชนีหุ้นไทยของเมื่อวาน (14 พ.ค.) ก็ปรับลงมาค่อนข้างแรงถึง 26 จุดด้วยกัน และมีมูลค่าเม็ดเงินประมาณ 29,930 ล้านบาท ซึ่งหากจะว่าไปก็น่าจะเป็นเรื่องปกติของการลงทุนที่มีความผันผวนสูงอยู่แล้วนั่นเอง...การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ย่อมให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน เป็นสัจจธรรมของการลงทุนก็ว่าได้

ตามเคยสำหรับวันศุกร์วันสบายๆ และสุดท้ายของการทำงาน วันนี้ คอลัมน์ “เจาะพอร์ตคนดัง” จะพามารู้จักวิธีการออมเงินของดาราสาวหน้าใหม่ที่กำลังมาแรง ที่กำลังมีผลงานด้านภาพยนตร์เรื่อง ม.3 ปี 4 เรารักนาย และกำลังลงโรงฉายอยู่ในขณะนี้ นั่นคือ “บัว” สโรชา ตันจรารักษ์ ซึ่งไม่ต้องแปลกใจหากคุ้นๆ กับนามสกุลนี้ เพราะดาราสาวคนนี้เป็นน้องสาวแท้ๆ และสุดรักสุดหวงของบีม กวี ตันจรารักษ์ น้องร้องหนุ่มค่ายอาร์เอส ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยนำวิธีการออมเงินมาให้รับทราบกันมาแล้ว ลองมาดูกันสิว่าน้องสาวจะมีวิธีการออมที่ผิดแปลกไปจากพี่ชายอย่างไรบ้าง

มาเข้าเรื่องของแวดวงกองทุนรวมกันบ้างดีกว่า...กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (พร็อพเพอร์ตี้ ฟันด์) นับว่ายังเป็นที่พึ่งพิงของนักลงทุนที่ต้องการเงินปันผลได้เป็นอย่างดี ล่าสุด กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์บางกอก (BKKCP) ที่เข้าลงทุนในห้องชุดสำนักงานและห้องชุดพาณิชยกรรมในอาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ และอาคารชาญอิสสระทาวเวอร์ 2 จำนวนพื้นที่รวม 29,386.24 ตารางเมตร โดยมีบริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ โดย ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2552 มีอัตราการเช่าพื้นที่ของกองทุนโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 88.84% และอยู่ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.185 บาท...ขณะที่กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา (CTARAF) ของบลจ.กสิกรไทยก็จ่ายเงินปันผลในอัตราหน่วยลงทุนละ 0.1718 บาทต่อหน่วยเช่นกัน...งานนี้นักลงทุนคงอดยิ้มจนแก้มปริไม่ได้อย่างแน่นอน...จะไม่ให้ยิ้มได้อย่างไรไหวก็คนกำลังจะรับทรัพย์นี่นา...”ต้นกล้า” ได้แต่แอบอิจฉาเท่านั้นเอง

ส่วนข่าวล่าสุดเกี่ยวกับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ คุณธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดไฟเขียวให้สามารถถือหน่วยลงทุนได้เกินกว่า 1 ใน 3 เป็นการชั่วคราว หวังช่วยบรรเทาผลกระทบของวิกฤตเศรษฐกิจให้แก่กองทุนในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่จำนวนหน่วยลงทุนที่ซื้อและถือเดิมรวมแล้วต้องไม่เกิน 50% ของจำนวนหน่วยลงทุนที่จำหน่ายได้ทั้งหมด และต้องซื้อหน่วยลงทุนให้เสร็จสิ้นภายใน 1 ปีนับจากวันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ และจะต้องถือไว้อย่างน้อย 6 เดือนนับจากวันที่ซื้อครั้งสุดท้าย ทั้งนี้ ผู้ถือหน่วยลงทุนต้องขายหน่วยลงทุนดังกล่าวออกภายใน 4 ปีนับจากวันที่ประกาศมีผลใช้บังคับ…นับว่าเป็นข่าวดีจริงๆ แม้จะเป็นการชั่วคราวก็ตาม

ปิดท้ายกันด้วยคุณวนา พูลผล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.ยูโอบี (ไทย) ก็เริ่มนำกองทุนเปิด ยูโอบี ซุปเปอร์ สไตรค์ (UOBSS) เริ่มเข้าไปลงทุนในหุ้นไทยแล้ว หลังจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ปรับตัวขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง โดยได้ใช้เม็ดเงินลงทุนประมาณ 50% เข้าไปลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ (บลูชิพ) ประมาณ 10 ตัว โดยได้ใช้ความระมัดระวังในการเข้าไปจับจังหวะในการลงทุนพอสมควร โดยกองทุนนี้เขามีกลยุทธ์แบบทยอยลงทุนในหุ้นแบบเก็บเล็กผสมน้อยจนได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งมีเป้าหมายลงทุนให้ได้ 10% ภายใน 1 ปี แต่หากไม่เป็นไปตามเป้าหมายในปีแรก กองทุนจะยกเลิกหากมีผลตอบแทนที่ 20% ในปีที่ 2 ..ต้นกล้าก็ขอให้ได้ตามที่เป้าหมายเร็วๆ ละกันนะครับ...เอาใจช่วยอีกแรงก็แล้วกัน...ต้นกล้า
กำลังโหลดความคิดเห็น