คอลัมน์ "เจาะพอร์ตคนดัง"
กับสภาวะการณ์ที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเราปัจจุบันนี้ ทั้งด้านการเมืองในประเทศและต่างประเทศ เศรษฐกิจ และปัจจัยอื่น ๆ โดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพงขึ้น ในขณะที่รายได้บางคนเท่าเดิม บางคนลดลง หรือบางคนอาจอยู่ในภาวะที่นายจ้างเลิกจ้างเนื่องจากผลกระทบจากเศรษฐกิจกระทบไปถึงนายจ้างด้วย พวกเราจึงควรเริ่มคิดกันได้แล้วว่าจะวางแผนการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของตนเองอย่างไรให้พอเพียงและอยู่รอดได้กันอย่างไร...
สำหรับวันนี้ “คอลัมน์เจาะพอร์ตคนดัง” ขอพามาดูการบริหารเงินออมในแบบฉบับของพระเอกหนุ่มแห่งค่ายวิกพระราม 4 อย่าง “เอส - วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย” นำเสนอให้คุณผู้อ่านได้ทราบกัน เผื่อว่าผู้อ่านรายใดสนใจเกิดอยากนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันกันบ้างเอสบ้างว่าไม่ว่ากัน....
เอส เริ่มพูดถึงสถานการณ์เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบันว่า เป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ว่า ในปีนี้เศรษฐกิจค่อนข้างย่ำแย่ ดูได้จากในช่วงไตรมาส 1 ที่ผ่านมา หลายฝ่ายต่างโดนผลกระทบไปหมด ดังนั้นแผนงานที่วางไว้จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย เพราะให้ธุรกิจที่ดำรงสามารถไปได้ ถึงแม้ว่าจะได้กำไรไม่มากนักก็ตาม
นอกจากนี้แล้วเรายังต้องมีการบริหารจัดสรรรายได้ที่ได้ในแต่ละเดือนอีกด้วย โดยส่วนตัวแล้วจะมีรายได้หลักที่ได้ในแต่ละเดือนจากการเป็นพีอาร์ ของบริษัท เอ – ไทม์ เทเวลเลอร์ จำกัด ซึ่งมันสามารถจัดสรรรายรับรายจ่ายได้ในทุก ๆ เดือน โดยส่วนหนึ่งจะแบ่งเก็บไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน และใช้ในชีวิตประจำวัน อีกส่วนหนึ่งจะนำมาลงทุนในตลาดหุ้นบ้าง ซึ่งในสมัยก่อนนั้นอาจจะเข้าไปลงทุนมากกว่าสมัยนี้ เนื่องจากว่าตลาดหุ้นไทยขณะนี้มีความผันผวนไม่ค่อนแน่นอน จึงไม่ค่อยได้เข้าไปลงทุนมากนัก
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ 2 – 3 เดือนที่ผ่านมา มีการเปิดขายลงทุนในโกลฟิวเจอร์เกิดขึ้น จึงเกิดความสนใจและเข้าไปศึกษาอย่างจริงจังก่อนที่จะลงทุน และหลังจากนั้น เราก็เห็นว่าการลงทุนในทองคำมีแต่จะได้ผลกำไรมากกว่าขาดทุน เพราะทองคำอย่างที่ทุกคนรู้กันอยู่ว่าราคาของมันไม่เคยตกลงมาเลยนอกจากจะขึ้นเพียงอย่าง เราจึงเข้าไปลงทุนในทองคำ โดยให้บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดูแลจัดสรรการลงทุนในทองคำให้
“ทุกวันนี้การออมมีให้เราเลือกในหลากหลายรูปแบบ แต่ว่าเราต้องเลือกให้เหมาะสมกับตัวเราเองด้วย เพราะถ้าไม่อย่างนั้นแล้วมันอาจจะเป็นโทษกับก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราอย่างลงทุนในหุ้นแต่ถ้าเราไม่ได้ทำการศึกษาอย่างลึกซึ้งแล้วเชื่อว่าเราจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ ซึ่งสิ่งไหนที่เราจะเลือกเข้าไปลงทุนต้องมีความรู้และเข้าใจอย่างลึกซึ้งจึงจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน” เอส บอก
เอส บอกต่อถึงเรื่องการออมว่า การออมนั้นมีประโยชน์หลายด้าน อีกทั้งยังเป็นการฝึกให้ตนเองมีระเบียบวินัย มีการจัดระบบในเรื่องรายรับรายจ่ายมากยิ่งขึ้นด้วย นอกจากนี้แล้วผมเองยังได้ให้ความสำคัญใสนเรื่องการทำประกันชีวิตไว้ด้วย เพราะมองดูแล้วว่ามันก็คือการออมในอีกรูปแบบหนึ่งนั้นเอง
สำหรับงานในวงการบันเทิงขณะนี้เอสมีละครทางช่อง 3 อยู่ด้วยกัน 2 เรื่องๆ แรกคือเรื่อง “พระจันทร์สีรุ้ง” และ “ไฟรักอสูร”ซึ่งทั้ง 2 เรื่องกำลังอยู่ระหว่างการถ่ายทำอยู่ นอกจากนี้แล้วเอสยังมีงานประจำทำอยู่ที่ บริษัท เอ – ไทม์ เทเวลเลอร์ จำกัด ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ ซึ่งงานประจำนี้ผมได้ทำมาเป็นเวลา 2 ปีแล้ว
ทั้งนี้ เอส บอกถึงหลักและแนวคิดในการทำงานในแบบฉบับของตัวเองว่า “อะไรที่เราไม่รู้ต้องพยายามหาความรู้มาใส่ตัว ให้ได้มากที่สุด เพราะไม่ว่างานด้านการแสดง หรืองานประจำที่ทำอยู่ รวมถึงด้านการลงทุนต่าง ๆ นั้น มันมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ดังนั้นเราต้องเป็นคนใฝ่ที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา”
เอสได้บอกเสริมว่า ในช่วงที่อายุประมาณ 20 ปี เป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงเป็นครั้งแรกจากการถ่ายโฆษณาให้กับสินค้าชนิดหนึ่ง ซึ่งได้ค่าตอบแทนมาประมาณ 65,000 บาท ในขณะนั้นถือว่าเยอะมาก และเราก็รู้สึกดีใจมาก แต่ไม่รู้ว่าจะนำเงินไปทำอะไรจึงนำไปให้คุณแม่ ซึ่งคุณแม่เองก็รู้สึกภูมิใจและดีใจที่เราสามารถมีรายได้เป็นของตนเอง
สุดท้ายเอส บอกว่า ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดีเช่นนี้ ก็อยากจะให้ผู้อ่านทุกคนรู้จักประหยัดใช้จ่ายเงินทุกบาทอย่างรู้คุณค่าที่สุด เพราะเหตุการณ์ฉุกเฉินสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อและตลอดเวลา ดังนั้นเราต้องมีการเตรียมพร้อมล่วงหน้ากับสิ่งที่เรามองไม่เห็นให้ชีวิตเรามีความปลอดภัยรวมถึงความรอบข้างด้วย
/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ชื่อ – นามสกุล วรฤทธิ์ ไวยเจียรนัย (เอส)
วันเดือนปีเกิด 31 กรกฎาคม 2520
การศึกษา ปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ
มหาวิทยาลัยอัชสัมชัญ (ABAC)
ผลงานปัจจุบัน ละครเรื่อง “พระจันทร์สีรุ้ง” , “ไฟรักอสูร”
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์
บริษัท เอ – ไทม์ เทเวลเลอร์ จำกัด
