xs
xsm
sm
md
lg

กบข.ปรับแผนบริหารความเสี่ยง เน้นลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์มั่นคง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กบข.ทบทวนเปลี่ยนแผนบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุน มุ่งเป้าเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง เพื่อเพิ่มหลักประกันให้บรรดาสมาชิก พร้อมประเมินปี52 ตลาดทุนและเศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญความเสี่ยงและความผันผวนที่สูง

นายวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) กล่าวว่า กบข.ตระหนักถึงความเสี่ยงจากการที่ตลาดเงินตลาดทุนยังมีความผันผวนสูง จึงจะมีการทบทวนและปรับเปลี่ยนแผนบริหารความเสี่ยงด้านการลงทุน เน้นเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์มั่นคงสูงมากกว่าในช่วงภาวะปกติเพื่อเพิ่มหลักประกันให้กับเงินต้นของสมาชิก

นอกจากนี้ กบข.ยังเพิ่มความถี่ในการติดตามภาวะความเสี่ยงของกองทุน รวมทั้งจัดทำแผนจำลองสถานการณ์วิกฤตต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นและผลกระทบที่จะกระทบต่อการลงทุนของ กบข. เพื่อเป็นแนวทางในการปรับกลยุทธ์การลงทุนได้อย่างรวดเร็วและเหมาะสมกับสถานการณ์ และปรับกลยุทธ์เพื่อการบริหารความเสี่ยงไตรมาส 2 ปีนี้ โดยได้มีการปรับแผนการจัดสัดส่วนการลงทุนระยะยาว ปี 2552-2554 ใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ กบข.เรียบร้อยแล้ว โดยได้มุ่งเน้นในการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูงมากขึ้น เช่น ตราสารหนี้ พันธบัตรรัฐบาล รวมทั้งมีการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว

นายวิสิฐ กล่าวถึงแนวโน้มเศรษฐกิจการเงินของโลกและไทยปีนี้ว่า หน่วยงานหลักของประเทศต่างๆ และนักวิเคราะห์ทั่วไปมีความเห็นใกล้เคียงกันว่าปี 2552 ยังเป็นปีที่ตลาดการเงินและเศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับความเสี่ยงและภาวะความผันผวนสูงเช่นเดียวกับปี 2551 โดยความเสี่ยงที่สำคัญ 2 เรื่อง คือ การแก้ปัญหาระบบสถาบันการเงินของประเทศพัฒนาแล้วว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ และจะใช้เวลานานเท่าใด และภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยที่รุนแรงมากที่สุดในรอบ 80 ปีนี้จะฟื้นตัวได้เมื่อไร

ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผย เมื่อวันที่ 22 เมษายน ถึงความคืบหน้าถึงการเข้าตรวจสอบการบริหารงานและการลงทุนของกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ว่า ป.ป.ท.ได้ตรวจสอบการทำงานของ กบข.อย่างต่อเนื่อง มีการตั้งคณะทำงาน มีผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดทุนร่วม ขอยืนยันว่า ป.ป.ท.ไม่ได้เงียบหายแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีข้าราชการที่ได้รับผลกระทบเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติ่มอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบข้อมูลอีก 10 วัน ภายในสัปดาห์หน้า จะแถลงผลสรุปการตรวจสอบเบื้องต้นในทุกประเด็น ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากคณะทำงานชุดต่างๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น