กองทุนเปิดทหารไทยโกลด์ฟันด์ ได้อานิสงส์กระแสตื่นทอง เอ็นเอวีขยับขึ้นแตะพันล้านอีกรอบ หลังนักลงทุนแห่ลงทุน หวังกำไรจากราคาทองคำในตลาดโลกพุ่ง แนะผู้ถือหน่วย หากพอร์ตที่ถือครองกำไรแล้ว 5-10% เทคความเสี่ยงขายออกได้ ระบุกองทุนยังเทรดที่ตลาดนิวยอร์ก ล่าสุดเล็งโยกตลาดใกล้เคียง เผยศึกษาทั้งฮ่องกง-สิงคโปร์ไว้แล้ว
นายกำพล อัศวกุลชัย รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาและสนับสนุนตัวแทนขาย บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา กองทุนเปิดทหารไทยโกลด์ฟันด์ ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง หลังจากราคาทองคำในตลาดโลกปรับมีการปรับตัวขึ้นมา โดยล่าสุด มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ณ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,006.8729 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากสินทรัพย์รวม 791.7011 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขในวันที่ 20 กุมภาพันธ์
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในกองทุนดังกล่าว มีทั้งลูกค้าที่เข้ามาซื้อและขายออกไป โดยเฉพาะนักลงทุนที่เห็นว่าได้กำไรอยู่ในระดับที่พอใจแล้ว ซึ่งการลงทุนในทองคำเอง อยากแนะนำว่า หากนักลงทุนมีกำไรตั้ง 5-10% ก็น่าจะเทคความเสี่ยงทำกำไรได้แล้ว ทั้งนี้ นักลงทุนเองควรระมัดระวังการลงทุนในทองคำช่วงนี้ เพราะราคายังผันผวนอยู่
"แต่ละคนมีต้นทุนของการลงทุนไม่เท่ากัน แต่ว่าหากพอร์ตที่ถือครองเอาไว้ปรับเพิ่มขึ้นไป 5-10% แล้ว ก็น่าจะเป็นจังหวะที่สามารถทำกำไรได้แล้ว เพราะราคาทองคำในช่วงนี้ ค่อนข้างผันผวน"นายกำพลกล่าว
ทั้งนี้ ในการซื้อขายกองทุนเปิดทหารไทยโกลด์ฟันด์ดังกล่าว ไม่มีผลกระทบต่อกองทุนแต่อย่างใด เพราะสภาพคล่องของกองทุนมีค่อนข้างสูง สามารถรองรับการทำธุรกรรมของลูกค้าได้หมด ถึงแม้จะมีการขายมากกว่าการซื้อ แต่ก็มีนักลงทุนบางส่วนที่ถือยาว ในขณะเดียวกัน ถึงแม้ราคาทองคำในตลาดโลกจะปรับตัวขึ้น แต่ขนาดของกองทุนก็ปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้ ก็มีบ้างที่ขายทำกำไรออกมา
นายกำพลกล่าวว่า ปัจจุบัน กองทุนเปิดทหารไทยโกลด์ฟันด์ยังคงส่งคำสั่งซื้อขายไปที่กองทุน Streettracks Gold Trust ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดนิวยอร์ก ซึ่งก่อนหน้านี้เอง บริษัทได้ยื่นขอสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อย้ายการซื้อขายมาอยู่ในดัชนีเดียวกัน แต่จดทะเบียนอยู่ในตลาดฮ่องกงแล้ว แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต.เอง ยังมีข้อแนะนำอยู่ในบางเรื่อง อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้บริษัทได้ศึกษาตลาดในใกล้เคียงไว้หมดแล้ว ทั้งตลาดสิงคโปร์และตลาดฮ่องกง เพียงแต่ต้องรอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
"ตอนนี้เราศึกษาการย้ายการซื้อขายมายังตลาดที่ใก้ลเคียงเราไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเผ็นตลาดในสิงคโปร์หรือฮ่องกง ซึ่งในสิงคโปร์เอง อยู่ใกล้ไทยมากที่สุด และมีความแตกต่างเรื่องเวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น แต่ก็เป็นตลาดที่มีสภาพคล่องต่ำกว่า ถ้าเทียบกับตลาดที่ฮ่องกง ซึ่งการพิจารณาเอง จะดูเรื่องของวันหยุดที่มีความใกล้เคียงกันด้วย"นายกำพลกล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุนล่าสุด ประจำวันที่ 27 ก.พ. 2552 กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 17.84% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 20.12% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 10.17% และย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 50.74% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 58.67% ในขณะที่ดัชนีราคาทองคำในตลาด New York (สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐ) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 16.40% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 14.70% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ -0.21% และย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 69.25% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 87.78% ด้านดัชนีราคาทองคำในตลาดทองคำแท่งประเทศไทย (สกุลเงินบาท) ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 3 เดือนอยู่ที่ 19.48% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 19.03% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 9.62% และย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 53.37% ส่วนผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 61.93%