คอลัมน์ NEXTVIEW
การเข้าถือสัญญาฟิวเจอร์ส หรือ Gold Futures นั้น เราจำเป็นที่จะต้องหาจุดกลับตัว (PIVOT Point) ของกราฟให้ได้เสียก่อน เพื่อที่จะเป็นองค์ประกอบหนึ่ง เพื่อตัดสินใจในการเข้าไปถือสัญญา Short (คาดการณ์ว่าราคาทองคำในอนาคต มีโอกาสปรับตัวลง มากกว่าขึ้น) และสัญญา Long (คาดการณ์ว่า ราคาทองคำในอนาคต มีโอกาสปรับตัวขึ้น มากกว่าลง) ในเบื้องต้น ผู้เขียนขอแนะนำ PIVOT Points ที่แสดงถึงรูปแบบของการกลับตัว โดยแบ่งตามแนวโน้ม (พิจารณาจากทฤษฎีดาวน์) ดังนี้
(pic collum1)
รูปที่ 1 จุดกลับตัว (PIVOT Point) ในตำแหน่งแนวต้าน (Resistance) ภาพบน และ จุดกลับตัว (PIVOT Point) ในตำแหน่งแนวรับ (Support) ภาพล่าง
จุดกลับตัว (PIVOT Point) ของการเคลื่อนไหวของกราฟราคาทองคำ สามารถหาได้โดยใช้ตำแหน่งของแนวต้าน และแนวรับ เป็นตัวอ้างอิง โดยดูจากรูปด้านล่าง
(pic collum2)
รูปที่ 2 จุดกลับตัว (PIVOT Point) ในกรณีแนวโน้ม ระยะสั้น (Short Term) ระยะกลาง (Intermediate Term) และ ระยะยาว (Long Term) ตามลำดับ
(pic collum3)
รูปที่ 3 ความสัมพันธ์ระหว่าง จุดกลับตัว (PIVOT) กับ แนวต้าน (Resistance) และ แนวรับ (Support)
จากรูปที่ 3 จะเห็นว่า จุดกลับตัว (PIVOT) กับ แนวต้าน (Resistance) และ แนวรับ (Support) สามารถสร้างเป็นสัญญาณเพื่อบอกจุดเข้าถือสัญญาได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้านำมารวมเข้ากลับรูปแบบของกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น จะทำให้ได้สัญญาการกลับตัว ที่มีนัยสำคัญได้ครับ
(pic collum4)
รูปที่ 4 การใช้ ความสัมพันธ์ระหว่าง จุดกลับตัว (PIVOT) กับ แนวต้าน (Resistance) และ แนวรับ (Support) ร่วมกับ กราฟแท่งเทียน เพื่อกำหนดจุด ในการเข้าถือสัญญา Short และ Long ตามลำดับ
จากรูปด้านบน เป็นการใช้ความสัมพันธ์ระหว่าง จุดกลับตัว (PIVOT) กับ แนวต้าน (Resistance) และ แนวรับ (Support) ร่วมกับ กราฟแท่งเทียน เพื่อกำหนดจุด ในการเข้าถือสัญญา Short และ Long ตามลำดับ โดยหากนักลงทุนท่านใดไม่สามารถแปลความหมายของรูปแบบการกลับตัวโดยใช้กราฟแท่งเทียน ได้แล้วนั้น อาจใช้ฟังก์ชั่นในโปรแกรม NextVIEW Adviser โดยคลิ๊กไปที่ปุ่ม Candle Analysis เพื่อให้โปรแกรมทำการสแกนเพื่อระบุรูปแบบของกราฟแท่งเทียน เมื่อเทียบกับทฤษฎี โดยนักลงทุนไม่ต้องไปนั่งจำความหมายให้เสียเวลา แต่อาจใช้การสังเกตดูว่า ลูกศร ที่กำกับ ณ ตำแหน่ง ของกราฟแท่งเทียน ที่แสดงความหมายนั้น เป็นลูกศร สีเขียว (ชี้ขึ้น = พยากรณ์ว่า มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น) หรือ สีแดง (ชี้ลง = พยากรณ์ว่า มีแนวโน้มปรับตัวลง)
อย่างไรก็ตาม รูปแบบที่ได้จากการวิเคราะห์จากโปรแกรม อาจให้สัญญาณในการวิเคราะห์ที่ละเอียดเกินไป อาจสร้างความสับสน และยากต่อการตัดสินใจในการเข้าถือสัญญาของนักลงทุนได้ ดังนั้น เรามีความจำเป็นที่จะต้องตัดสัญญาณในบางช่วงออกไป เหลือไว้เฉพาะจุดที่สามารถทำกำไรได้ดี (จุดต่ำสุด – จุดสูงสุด ในขณะเกิดการแกว่งตัวของกราฟราคาทองคำ) เราจึงใช้ Indicators ที่วัดความแกว่ง ที่จะช่วยเรากรองเฉพาะจุดที่มีนัยสำคัญ ที่สามารถทำกำไรได้เป็นกอบ เป็นกำ เข้ามามีส่วนช่วยในการวิเคราะห์ต่อไป
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสั่งซื้อหนังสือ “Gold Futures ฉบับนักเก็งกำไร” ก็ยังคงสั่งซื้อได้ที่หมายเลข 02 627 3360-2 ในราคา 150 บาท (ยังไม่ร่วมค่าจัดส่งทั่วประเทศ 30 บาท) เหมือนเดิมครับ
การเข้าถือสัญญาฟิวเจอร์ส หรือ Gold Futures นั้น เราจำเป็นที่จะต้องหาจุดกลับตัว (PIVOT Point) ของกราฟให้ได้เสียก่อน เพื่อที่จะเป็นองค์ประกอบหนึ่ง เพื่อตัดสินใจในการเข้าไปถือสัญญา Short (คาดการณ์ว่าราคาทองคำในอนาคต มีโอกาสปรับตัวลง มากกว่าขึ้น) และสัญญา Long (คาดการณ์ว่า ราคาทองคำในอนาคต มีโอกาสปรับตัวขึ้น มากกว่าลง) ในเบื้องต้น ผู้เขียนขอแนะนำ PIVOT Points ที่แสดงถึงรูปแบบของการกลับตัว โดยแบ่งตามแนวโน้ม (พิจารณาจากทฤษฎีดาวน์) ดังนี้
(pic collum1)
รูปที่ 1 จุดกลับตัว (PIVOT Point) ในตำแหน่งแนวต้าน (Resistance) ภาพบน และ จุดกลับตัว (PIVOT Point) ในตำแหน่งแนวรับ (Support) ภาพล่าง
จุดกลับตัว (PIVOT Point) ของการเคลื่อนไหวของกราฟราคาทองคำ สามารถหาได้โดยใช้ตำแหน่งของแนวต้าน และแนวรับ เป็นตัวอ้างอิง โดยดูจากรูปด้านล่าง
(pic collum2)
รูปที่ 2 จุดกลับตัว (PIVOT Point) ในกรณีแนวโน้ม ระยะสั้น (Short Term) ระยะกลาง (Intermediate Term) และ ระยะยาว (Long Term) ตามลำดับ
(pic collum3)
รูปที่ 3 ความสัมพันธ์ระหว่าง จุดกลับตัว (PIVOT) กับ แนวต้าน (Resistance) และ แนวรับ (Support)
จากรูปที่ 3 จะเห็นว่า จุดกลับตัว (PIVOT) กับ แนวต้าน (Resistance) และ แนวรับ (Support) สามารถสร้างเป็นสัญญาณเพื่อบอกจุดเข้าถือสัญญาได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้านำมารวมเข้ากลับรูปแบบของกราฟแท่งเทียนญี่ปุ่น จะทำให้ได้สัญญาการกลับตัว ที่มีนัยสำคัญได้ครับ
(pic collum4)
รูปที่ 4 การใช้ ความสัมพันธ์ระหว่าง จุดกลับตัว (PIVOT) กับ แนวต้าน (Resistance) และ แนวรับ (Support) ร่วมกับ กราฟแท่งเทียน เพื่อกำหนดจุด ในการเข้าถือสัญญา Short และ Long ตามลำดับ
จากรูปด้านบน เป็นการใช้ความสัมพันธ์ระหว่าง จุดกลับตัว (PIVOT) กับ แนวต้าน (Resistance) และ แนวรับ (Support) ร่วมกับ กราฟแท่งเทียน เพื่อกำหนดจุด ในการเข้าถือสัญญา Short และ Long ตามลำดับ โดยหากนักลงทุนท่านใดไม่สามารถแปลความหมายของรูปแบบการกลับตัวโดยใช้กราฟแท่งเทียน ได้แล้วนั้น อาจใช้ฟังก์ชั่นในโปรแกรม NextVIEW Adviser โดยคลิ๊กไปที่ปุ่ม Candle Analysis เพื่อให้โปรแกรมทำการสแกนเพื่อระบุรูปแบบของกราฟแท่งเทียน เมื่อเทียบกับทฤษฎี โดยนักลงทุนไม่ต้องไปนั่งจำความหมายให้เสียเวลา แต่อาจใช้การสังเกตดูว่า ลูกศร ที่กำกับ ณ ตำแหน่ง ของกราฟแท่งเทียน ที่แสดงความหมายนั้น เป็นลูกศร สีเขียว (ชี้ขึ้น = พยากรณ์ว่า มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น) หรือ สีแดง (ชี้ลง = พยากรณ์ว่า มีแนวโน้มปรับตัวลง)
อย่างไรก็ตาม รูปแบบที่ได้จากการวิเคราะห์จากโปรแกรม อาจให้สัญญาณในการวิเคราะห์ที่ละเอียดเกินไป อาจสร้างความสับสน และยากต่อการตัดสินใจในการเข้าถือสัญญาของนักลงทุนได้ ดังนั้น เรามีความจำเป็นที่จะต้องตัดสัญญาณในบางช่วงออกไป เหลือไว้เฉพาะจุดที่สามารถทำกำไรได้ดี (จุดต่ำสุด – จุดสูงสุด ในขณะเกิดการแกว่งตัวของกราฟราคาทองคำ) เราจึงใช้ Indicators ที่วัดความแกว่ง ที่จะช่วยเรากรองเฉพาะจุดที่มีนัยสำคัญ ที่สามารถทำกำไรได้เป็นกอบ เป็นกำ เข้ามามีส่วนช่วยในการวิเคราะห์ต่อไป
สำหรับนักลงทุนที่ต้องการสั่งซื้อหนังสือ “Gold Futures ฉบับนักเก็งกำไร” ก็ยังคงสั่งซื้อได้ที่หมายเลข 02 627 3360-2 ในราคา 150 บาท (ยังไม่ร่วมค่าจัดส่งทั่วประเทศ 30 บาท) เหมือนเดิมครับ