วันนี้ “ต้นกล้า” ขอเริ่มต้นกันที่ข่าวแวดวงกองทุนรวม...คู่แข่งหลายรายคงหนาวๆ ร้อนๆ ไปตามกันแน่นอน...หลังจากคุณสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กรุงไทย จำกัด (มหาชน) ยังใส่เกียร์ตะลุยแบบไม่มียั้ง และยังคงเดินหน้าเปิดขายกองทุนอย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ หวังเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่ต้องการลงทุนในกองทุนที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าการฝากเงินกับแบงก์ และการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล โดยได้เปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยธนทรัพย์ตราสารหนี้ 3เดือน7 (KTSUP3M7) และกองทุนเปิดกรุงไทยสมาร์ท อินเวส 6เดือน4 ( KTSIV6M4) โดยทั้ง 2 กองทุนจะเน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีความมั่นคงสูง และเงินฝากสถาบันการเงิน คาดว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ 2.00% ต่อปี และผลตอบแทนที่ 2.30% ต่อปีตามลำดับ และเปิดขายระหว่างวันที่ 21-27 มกราคม 2552 เอ...”ต้นกล้า” ว่าปลายปีนี้อาจมีลุ้นเบียดมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (AUM) กับยักษ์ใหญ่ขึ้นมาก็ได้...ดีไม่ดีอันดับอาจจะเปลี่ยนแปลงก็ได้นะครับงานนี้...โปรดติดตามกันต่อไป////ทางด้าน บลจ.ธนชาตเองก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เดินหน้าเปิดขายกองทุนเปิดธนชาตตราสารหนี้พลัส 1 (TFixPlus1) มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท อายุโครงการประมาณ 1 ปี 6 เดือน เน้นลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งซึ่งตราสารแห่งหนี้ภาคเอกชนและหรือภาครัฐที่มีคุณภาพ เสนอขายเพียงครั้งเดียว (IPO) ระหว่างวันที่ 21 - 27 มกราคม 2552 และมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมพร้อมขอรับหนังสือชี้ชวนได้ในวันและเวลาทำการเสนอขายที่ บลจ.ธนชาต เลยจ้า...////ขณะที่ คุณวิสิฐ ตันติสุนทร เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ออกมาบอกว่ามั่นใจว่าผลประกอบการในปีนี้จะพลิกฟื้นดีขึ้นอย่างแน่นอน แม้ว่าอัตราผลตอบแทนการลงทุนย้อนหลัง 12 เดือน (ม.ค.-ธ.ค.51) จะติดลบไป 5.12% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ประกอบกับปัญหาวิกฤตการณ์ในสหรัฐอเมริกา และราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นปีที่แล้วกดดันให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อ รวมทั้งการเคลื่อนย้ายเงินทุนจากตลาดหุ้นที่มีการไหลออกอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงกว่า 40% ขณะที่ตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงเป็นอย่างมากถึง 50% แต่หากนับผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่เริ่มก่อตั้งกองทุนจนถึงสิ้นปี 2551 (2540-2551) ยังอยู่ที่ 7.04% ซึ่งยังคงเป็นไปตามเป้าหมายของการบริหารเงินออมระยะยาว และอยู่ในระดับที่ดีกว่าการลดลงของตลาดหุ้น รวมทั้งดีกว่ากองทุนบำนาญทั่วโลกด้วย ขณะเดียวกัน เตรียมปรับแผนการลงทุน และศึกษาลู่ทางการลงทุนใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงการลงทุน โดยมองหาโอกาสการลงทุนเพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น////พอธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย(ดอกเบี้ย RP) ปุ๊ป "มงคล ลีลาธรรม" CEO และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธ.ไทยเครดิต เพื่อรายย่อย ก็ส่งผลิตภัณฑ์สินเชื่อรถยนต์แบบลดต้นลดดอก ลงตลาดสินเชื่อทันทีลูกค้าแฮปปี้สุดสุดเพราะหากต้องการปิดบัญชีก่อนกำหนดคุณมงคลลดลดดอกเบี้ยในส่วนที่ยังไม่ถึงกำหนดให้สูงสุดถึง 50% ซึ่งข้อได้เปรียบเหล่านี้ก็จะช่วยทำให้ลูกค้าสามารถปิดบัญชีได้เร็วขึ้น ////ขณะเดียวกันค่ายนี้ก็มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง สำหรับเอเชี่ยน พร็อพเพอร์ตี้ฯ มาคราวนี้ เฮียตี๋ อนุพงษ์ อัศวโภคินเตรียมประกาศขายหุ้นกู้อายุ 3 ปีล็อตใหม่ล่าสุด หลังจากที่ทนเสียงเรียกร้องของเหล่านักลงทุนไม่ไหว แถมครั้งนี้ยังได้ 2 แบงก์ใหญ่อย่างไทยพาณิชย์และกรุงเทพเป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดจำหน่าย แว่วมาว่าเฮียตี๋จะเปิดขายในเดือนหน้านี้ แต่อัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่เฮียขออุ๊บ...ไว้ก่อน สัญญาว่า...กลต.ไฟเขียวเมื่อไหร่จะรีบตีฆ้องร้องเป่าอย่างแน่นอนจ้า...ต้นกล้า