ASTVผู้จัดการรายวัน-บลจ.ทิสโก้โชว์ผลตอบแทนกองสตรัคเจอร์ส่งท้ายปี 51 ไชน่าลิ้งค์นำห่างให้ยิลด์สะสม 15.77% ส่วนเจแปนลิ้งค์คงที่ 0.03% พร้อมคาดดัชนีตลาดหุ้นมังกรดีดตัวขึ้นปีนี้ รับอานิสงส์เศรษฐกิจจีนที่ยังขยายตัวกว่า 7-10% เป็นตัวขับเคลื่อน
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนของกองทุนตราสารหนี้จัดโครงสร้าง (Structured note) ของบริษัท 5 กองทุน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ยังสามารถสร้างผลตอบแทนเป็นบวกอยู่ แต่ยังคงมีการปรับตัวลดลงต่อจากเดือนพฤศจิกายน และนับเป็นการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องมาตลอดทั้งปี 2551 จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 622 วันอยู่ที่ 15.77% จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุน 10,361.40 จุด มาอยู่ที่ 7,786.19 จุด น้อยลงกว่าเดือนที่แล้วที่ 16.55% เล็กน้อย โดยกองทุนดังกล่าวเริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2550 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 27 เมษายน 2553
ขณะที่ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น 2 มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 587 วันอยู่ที่ 9.22% จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุน 10,838.36 จุด เป็น7,786.19 จุดน้อยลงกว่าเดือนที่แล้วที่ 9.71% เล็กน้อย โดยกองทุนดังกล่าวเริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 2พฤษภาคม 2550 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 3 มีนาคม 2552
ส่วนกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ ฟันด์ 3 ที่เป็นขายในช่วงที่ผ่านมา มีผลผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 148วันยังอยู่ที่ 0% โดยดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงลดลงจาก 12,296.59 จุด เป็น 7,786.19 จุดโดยกองทุนนี้เริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2551 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 9 สิงหาคม 2553
อย่างไรก็ตามจากรายงานการลงทุนของ บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า แม้ในปี 2551 จะเป็นปีที่ย่ำแย่ของตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นของประเทศจีน และอินเดีย แต่คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ตลาดหุ้นจะมีโอกาสฟื้นตัวได้ เนื่องจากความคาดหมายการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2553
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเอเชียน่าจะสามารถฟื้นตัวได้เร็ว และในอัตราที่สูงกว่าตลาดในภูมิภาคอื่นๆ โดยที่ตลาดหุ้นจีน และอินเดียจะเป็นผู้นำในการฟื้นตัวของกลุ่มประเทศแถบนี้ เนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ซึ่งรัฐบาลสามารถออกมาตรการต่างๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตราการภาษี การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
สำหรับการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศจีนและอินเดียในปีนี้ น่าจะอยู่ในระดับประมาณ 7-10% ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกที่แสวงหากำไรหันกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นจีนและอินเดียอีกครั้ง จนกลายเป็นแรงผลักดันให้ดัชนีทั้ง 2 ตลาดปรับตัวสูงขึ้นได้ในปี 2552
ด้านผลการดำเนินงานของกองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 565 วันอยู่ที่ 0.03% คงที่จากเดือนที่แล้ว โดยการเปลี่ยนแปลงของดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุน 17,971.49 จุด เป็น 8,859.56 จุด ซึ่งกองทุนได้เริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2550 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 23 มีนาคม 2552
ขณะที่ผลการดำเนินงานของกองทุนเปิด ทิสโก้ เซ็ท 50 ลิ้งค์ ฟันด์ มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 495 วันอยู่ที่ 1.83% จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุน 565.55 จุด เป็น316.45 จุด น้อยลงกว่าเดือนที่แล้วที่ 1.94% เล็กน้อยโดยกองทุนได้เริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2550 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 29 พฤษภาคม 2552
รายงานข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า การลงทุนของกองทุนตราสารหนี้จัดโครงสร้าง (Structured note) ของบริษัท 5 กองทุน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 ยังสามารถสร้างผลตอบแทนเป็นบวกอยู่ แต่ยังคงมีการปรับตัวลดลงต่อจากเดือนพฤศจิกายน และนับเป็นการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องมาตลอดทั้งปี 2551 จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ทั้งนี้ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 622 วันอยู่ที่ 15.77% จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุน 10,361.40 จุด มาอยู่ที่ 7,786.19 จุด น้อยลงกว่าเดือนที่แล้วที่ 16.55% เล็กน้อย โดยกองทุนดังกล่าวเริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2550 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 27 เมษายน 2553
ขณะที่ กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น 2 มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 587 วันอยู่ที่ 9.22% จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุน 10,838.36 จุด เป็น7,786.19 จุดน้อยลงกว่าเดือนที่แล้วที่ 9.71% เล็กน้อย โดยกองทุนดังกล่าวเริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 2พฤษภาคม 2550 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 3 มีนาคม 2552
ส่วนกองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ลิ้งค์ ฟันด์ 3 ที่เป็นขายในช่วงที่ผ่านมา มีผลผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 148วันยังอยู่ที่ 0% โดยดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุนมีการเปลี่ยนแปลงลดลงจาก 12,296.59 จุด เป็น 7,786.19 จุดโดยกองทุนนี้เริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม 2551 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 9 สิงหาคม 2553
อย่างไรก็ตามจากรายงานการลงทุนของ บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า แม้ในปี 2551 จะเป็นปีที่ย่ำแย่ของตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นของประเทศจีน และอินเดีย แต่คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ตลาดหุ้นจะมีโอกาสฟื้นตัวได้ เนื่องจากความคาดหมายการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2553
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเอเชียน่าจะสามารถฟื้นตัวได้เร็ว และในอัตราที่สูงกว่าตลาดในภูมิภาคอื่นๆ โดยที่ตลาดหุ้นจีน และอินเดียจะเป็นผู้นำในการฟื้นตัวของกลุ่มประเทศแถบนี้ เนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ซึ่งรัฐบาลสามารถออกมาตรการต่างๆ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งมาตราการภาษี การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน และนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
สำหรับการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศจีนและอินเดียในปีนี้ น่าจะอยู่ในระดับประมาณ 7-10% ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกที่แสวงหากำไรหันกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นจีนและอินเดียอีกครั้ง จนกลายเป็นแรงผลักดันให้ดัชนีทั้ง 2 ตลาดปรับตัวสูงขึ้นได้ในปี 2552
ด้านผลการดำเนินงานของกองทุนเปิด ทิสโก้ เจแปน ลิ้งค์ คุ้มครองเงินต้น มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 565 วันอยู่ที่ 0.03% คงที่จากเดือนที่แล้ว โดยการเปลี่ยนแปลงของดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุน 17,971.49 จุด เป็น 8,859.56 จุด ซึ่งกองทุนได้เริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน 2550 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 23 มีนาคม 2552
ขณะที่ผลการดำเนินงานของกองทุนเปิด ทิสโก้ เซ็ท 50 ลิ้งค์ ฟันด์ มีผลตอบแทนสะสมตั้งแต่จัดตั้งกองทุนประมาณ 495 วันอยู่ที่ 1.83% จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี ณ วันที่เริ่มต้นลงทุน 565.55 จุด เป็น316.45 จุด น้อยลงกว่าเดือนที่แล้วที่ 1.94% เล็กน้อยโดยกองทุนได้เริ่มต้นสัญญาลงทุนตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม 2550 และจะครบกำหนดอายุโครงการในวันที่ 29 พฤษภาคม 2552
