บลจ.วรรณเตรียมส่งกองทุนโรลโอเวอร์ 2 โครงการรับการลงทุนเดือนแรกของปีฉลู เน้นลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเงินฝาก อายุโครงการประมาณ 3 เดือน โดยกองทุนเปิดวรรณเอ็มเอ็ม 1 เปิดขายระหว่างตั้งแต่วันนี้ – 30 ม.ค.52 ส่วนกองทุนเปิดวรรณเอ็มเอ็ม 4 เปิดขายตั้งแต่วันนี้ – 9 ม.ค.52
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนสำหรับรอบระยะการลงทุนใหม่ (โรลโอเวอร์) ของกองทุนรวมตราสารหนี้จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดวรรณเอ็มเอ็ม 1 (1MM1) อายุประมาณ 3 เดือน เน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ระยะสั้นและเงินฝาก โดยเปิดให้จองซื้ออีกครั้งตั้งแต่วันนี้ – 30 ม.ค. 2552 นี้ และกองทุนเปิดวรรณเอ็มเอ็ม 4 (1MM4) อายุประมาณ 3 เดือน เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเปิดให้จองซื้ออีกครั้งตั้งแต่วันนี้ – 9 ม.ค. 52 นี้ และทั้ง 2 กองทุนมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
สำหรับกองทุนเปิดวรรณเอ็มเอ็ม 1 จะเน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ระยะสั้นและเงินฝาก ตลอดจนเครื่องมือทางการเงินต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ในโครงการ ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถามหรือจะครบกำหนดชำระคืนไม่เกิน 1 ปีนับแต่วันที่ลงทุน โดยเน้นการลงทุนในตราสารภาครัฐ ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทหุ้นทุน หน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนหรือกองทุนรวมผสม ตลอดจนใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนหรือกองทุนรวมผสม รวมถึงตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative)
ส่วนสัดส่วนการลงทุนของกองทุน ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 พบว่า ลงทุนใน 1. พันธบัตรธนาคารแหง่ ประเทศไทย และตั๋วเงินคลัง 51.49% โดยแบ่งออกเป็น - พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 29.67% - ตัวเงินคลัง 21.82% 2. เงินฝากและตราสารหนี้สถาบันการเงิน 48.53% โดยแบ่งออกเป็น - บมจ.ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) (F1+) 9.87% - บมจ.ธนาคารสินเอเซีย 19.10% - บมจ.ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพือรายย่อย 19.23% - บมจ.ธนาคารทิสโก้ 0.29% - ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น เอ สาขากรุงเทพฯ 0.04% และ 3. สินทรัพย์/หนี้สินอื่นๆ -0.02%
ทั้งนี้ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 พบว่ามีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 241.38 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุน 11.3058 บาท โดยผลการการดำเนินงานของกองทุนย้อนหลัง 3 เดือนพบว่าอยู่ที่ 3.27% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.55% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.10% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.77% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.93% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.89% ย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.44% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.97%
ขณะที่กองทุนเปิดวรรณเอ็มเอ็ม 4 จะเน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน และเงินฝาก ตลอดจนเครื่องมือทางการเงินต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ในโครงการ ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถามหรือจะครบกำหนดชำระคืนไม่เกิน 1 ปีนับแต่วันที่ลงทุน ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทหุ้นทุน หน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนหรือกองทุนรวมผสม ตลอดจนใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนหรือกองทุนรวมผสม รวมถึงตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative)
สัดส่วนการลงทุนของกองทุน ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 พบว่า ลงทุนใน 1. พันธบัตรธนาคารแหง่ ประเทศไทย และตั๋วเงินคลัง 60.87% โดยเป็นพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยทั้งหมด 2. เงินฝากและตราสารหนี้สถาบันการเงิน 39.16% โดยแบ่งออกเป็น - บมจ.ธนาคารสินเอเซีย 19.52% - บมจ.ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพือรายย่อย 19.52% - ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น เอ สาขากรุงเทพฯ 0.02% - บมจ.ธนาคารทิสโก้ 0.10% และ 3. สินทรัพย์/หนี้สินอื่นๆ -0.03%
ทั้งนี้ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 พบว่ามีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 200.74 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุน 11.2196 บาท โดยผลการการดำเนินงานของกองทุนย้อนหลัง 3 เดือนพบว่าอยู่ที่ 3.26% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.55% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.09% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.77% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.98% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.89% ย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.63% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.96%
รายงานจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) วรรณ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนสำหรับรอบระยะการลงทุนใหม่ (โรลโอเวอร์) ของกองทุนรวมตราสารหนี้จำนวน 2 กองทุน ได้แก่ กองทุนเปิดวรรณเอ็มเอ็ม 1 (1MM1) อายุประมาณ 3 เดือน เน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ระยะสั้นและเงินฝาก โดยเปิดให้จองซื้ออีกครั้งตั้งแต่วันนี้ – 30 ม.ค. 2552 นี้ และกองทุนเปิดวรรณเอ็มเอ็ม 4 (1MM4) อายุประมาณ 3 เดือน เน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสาหกิจ ซึ่งเปิดให้จองซื้ออีกครั้งตั้งแต่วันนี้ – 9 ม.ค. 52 นี้ และทั้ง 2 กองทุนมีมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท
สำหรับกองทุนเปิดวรรณเอ็มเอ็ม 1 จะเน้นลงทุนในตราสารแห่งหนี้ระยะสั้นและเงินฝาก ตลอดจนเครื่องมือทางการเงินต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ในโครงการ ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถามหรือจะครบกำหนดชำระคืนไม่เกิน 1 ปีนับแต่วันที่ลงทุน โดยเน้นการลงทุนในตราสารภาครัฐ ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทหุ้นทุน หน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนหรือกองทุนรวมผสม ตลอดจนใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนหรือกองทุนรวมผสม รวมถึงตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative)
ส่วนสัดส่วนการลงทุนของกองทุน ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 พบว่า ลงทุนใน 1. พันธบัตรธนาคารแหง่ ประเทศไทย และตั๋วเงินคลัง 51.49% โดยแบ่งออกเป็น - พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 29.67% - ตัวเงินคลัง 21.82% 2. เงินฝากและตราสารหนี้สถาบันการเงิน 48.53% โดยแบ่งออกเป็น - บมจ.ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (ไทย) (F1+) 9.87% - บมจ.ธนาคารสินเอเซีย 19.10% - บมจ.ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพือรายย่อย 19.23% - บมจ.ธนาคารทิสโก้ 0.29% - ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น เอ สาขากรุงเทพฯ 0.04% และ 3. สินทรัพย์/หนี้สินอื่นๆ -0.02%
ทั้งนี้ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 พบว่ามีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 241.38 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุน 11.3058 บาท โดยผลการการดำเนินงานของกองทุนย้อนหลัง 3 เดือนพบว่าอยู่ที่ 3.27% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.55% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.10% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.77% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.93% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.89% ย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.44% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.97%
ขณะที่กองทุนเปิดวรรณเอ็มเอ็ม 4 จะเน้นลงทุนในตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐบาล พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐวิสาหกิจที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน และเงินฝาก ตลอดจนเครื่องมือทางการเงินต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ในโครงการ ซึ่งมีกำหนดชำระคืนเมื่อทวงถามหรือจะครบกำหนดชำระคืนไม่เกิน 1 ปีนับแต่วันที่ลงทุน ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ลงทุนในหลักทรัพย์ประเภทหุ้นทุน หน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนหรือกองทุนรวมผสม ตลอดจนใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น หรือใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตราสารทุนหรือกองทุนรวมผสม รวมถึงตราสารหนี้ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับตัวแปร (Structured Note) และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivative)
สัดส่วนการลงทุนของกองทุน ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 พบว่า ลงทุนใน 1. พันธบัตรธนาคารแหง่ ประเทศไทย และตั๋วเงินคลัง 60.87% โดยเป็นพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยทั้งหมด 2. เงินฝากและตราสารหนี้สถาบันการเงิน 39.16% โดยแบ่งออกเป็น - บมจ.ธนาคารสินเอเซีย 19.52% - บมจ.ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพือรายย่อย 19.52% - ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น เอ สาขากรุงเทพฯ 0.02% - บมจ.ธนาคารทิสโก้ 0.10% และ 3. สินทรัพย์/หนี้สินอื่นๆ -0.03%
ทั้งนี้ มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ณ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2551 พบว่ามีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 200.74 ล้านบาท และมีมูลค่าหน่วยลงทุน 11.2196 บาท โดยผลการการดำเนินงานของกองทุนย้อนหลัง 3 เดือนพบว่าอยู่ที่ 3.26% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.55% ย้อนหลัง 6 เดือนอยู่ที่ 3.09% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.77% ย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 2.98% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.89% ย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ 3.63% เทียบกับเกณฑ์มาตรฐานอยู่ที่ 2.96%
