ก้าวสู่ปีที่ 19 แล้วพ่อแม่พี่น้อง สำหรับกระบอกเสียงทางเศรษฐกิจฉบับนี้ ที่ผ่านลมร้อนหนาวมากหลายหลายฤดูการ “ต้นกล้า”หวังว่าท่านผู้อ่านทุกท่านจะให้ความสนใจและความเชื่อใจกับพวกเราทีมงานต่อไป
ได้มีโอกาสเจอ “พี่ติ๊ก – โชติกา สวนานนท์” หัวเรือใหญ่แห่งค่ายทหารไทยอีกครั้ง ก็ยังให้ความรู้ได้เป็นอย่างดีเช่นเดิม ทั้งในมุมมองการลงทุนในและต่างประเทศ ท่ามกลางภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจเช่นนี้ ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง ส่วนผู้ใดที่ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศแห่งค่ายรั้วของชาติ เอ็มดีใหญ่ยืนยันไม่ต้องกังวล สั่งทีมงานติดตามอย่างต่อเนื่อง ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอง ขอให้สบายใจได้ ขณะเดียวกัน “ต้นกล้า”ต้องขอแสดงความยินดีที่ได้ลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มเติม หลังจากศักยภาพและวิสัยทรรน์ในการบริหารโดนใจเครือใหญ่ได้อย่างชนะขาด
ถัดมาที่ค่ายพันธมิตรของ TMBAM จะใช่ใครที่ไหนได้นอกจาก “บลจ.ไอเอ็นจี” ที่ล่าสุด มาริษ ท่าราบ ออกมาเชิญชวนร่วมงานแรลลี่ทางเลียบครั้งใหญ่ ณ หาดบางแสน ด้วยกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เกตติ้ง เจาะกลุ่มลูกค้าแบบใหม่ ใจถึง ชอบความเร็ว ตั้งแต่วันนี้ถึง 9 พ.ย. งานนี้ไม่รู้ว่าลูกค้าใหม่ของค่ายสิงโตที่จะเข้ามาเพิ่มเม็ดเงินและฐานลูกค้า ส่วนใหญ่จะเป็นไพรเวต ฟันด์ หรือกองทุนรวมกันแน่ เพราะเท่าที่เห็นกิจกรรมในงาน รถส่วนใหญ่ราคาระดับล้านทั้งนั้น ฐานกำลังซื้อคงไม่ต้องพูดถึง รบกวนเอ็มดีช่วยแจงด้วยคร๊าบ......เจ้านาย
กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นยังออกมาต่อเนื่องจากบรรดาบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนต่างๆ ใครสนใจของเจ้าไหนค่ายไหน “ต้นกล้า”ขอย้ำต้องศึกษานโยบายการลงทุนให้ดี เพราะช่วงนี้ความเสี่ยงต่ำดูเหมือนเป็นสิ่งถูกตาต้องใจกับบรรดามิตรรักแฟนเพลงกองทุนรวมอย่างยิ่ง จนเรียกว่าอย่าเอาเรือไปขวางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เป็นเรื่องดีที่สุด
สุดท้ายวันนี้ “ต้นกล้า”ขอหยิบยกข่าวจาก เมอร์ริล ลินช์ มาฝาก โดยเขาคาดว่าในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้ กลุ่มผู้จัดการกองทุนจะให้ความสนใจเข้าซื้อหุ้นในตลาดสหรัฐมากกว่าหุ้นในตลาดเอเชีย เพราะเชื่อว่าคณะทำงานภายใต้การนำของนายบารัค โอบามา จะใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐให้กระเตื้องขึ้นได้ โดยเมื่อเร็วๆนี้มีเม็ดเงินไหลออกจากยุโรปและเอเชียเข้าไปยังตลาดหุ้นและตลาดปริวรรตเงินตราสหรัฐ เพราะได้รับอิทธิพลจากกระแสความนิยมชมชอบในตัวโอบามา และความเชื่อที่ว่าคณะทำงานของโอบามาจะใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ อาจกล่าวได้ว่าชัยชนะของโอบามาไม่ค่อยส่งผลในทางตรงต่อตลาดหุ้นในเอเชียเท่าใด ทั้งนี้ผู้นำสหรัฐฯคนใหม่เรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.75 แสนล้านดอลลาร์ทันทีที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีจบสิ้นลง ซึ่งรวมถึงการคืนเช็คภาษีให้กับผู้บริโภค การใช้สินเชื่อด้านภาษีเพื่อกระตุ้นการจ้างงานและการใช้จ่ายภาคสาธารณะ อาทิ โครงการซ่อมบำรุงโรงเรียน ถนน และสะพานอีกด้วย ...ดังนั้นกองทุนของใครที่มีนโยบายเกี่ยวข้องกับเมืองลุงแซม ก็ไม่ควรพลาดติดตามข่าวสารในเรื่องนี้กันต่อ...“ต้นกล้า”
ได้มีโอกาสเจอ “พี่ติ๊ก – โชติกา สวนานนท์” หัวเรือใหญ่แห่งค่ายทหารไทยอีกครั้ง ก็ยังให้ความรู้ได้เป็นอย่างดีเช่นเดิม ทั้งในมุมมองการลงทุนในและต่างประเทศ ท่ามกลางภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจเช่นนี้ ในบรรยากาศที่เป็นกันเอง ส่วนผู้ใดที่ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมหุ้นต่างประเทศแห่งค่ายรั้วของชาติ เอ็มดีใหญ่ยืนยันไม่ต้องกังวล สั่งทีมงานติดตามอย่างต่อเนื่อง ไม่เว้นแม้แต่ตัวเอง ขอให้สบายใจได้ ขณะเดียวกัน “ต้นกล้า”ต้องขอแสดงความยินดีที่ได้ลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มเติม หลังจากศักยภาพและวิสัยทรรน์ในการบริหารโดนใจเครือใหญ่ได้อย่างชนะขาด
ถัดมาที่ค่ายพันธมิตรของ TMBAM จะใช่ใครที่ไหนได้นอกจาก “บลจ.ไอเอ็นจี” ที่ล่าสุด มาริษ ท่าราบ ออกมาเชิญชวนร่วมงานแรลลี่ทางเลียบครั้งใหญ่ ณ หาดบางแสน ด้วยกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เกตติ้ง เจาะกลุ่มลูกค้าแบบใหม่ ใจถึง ชอบความเร็ว ตั้งแต่วันนี้ถึง 9 พ.ย. งานนี้ไม่รู้ว่าลูกค้าใหม่ของค่ายสิงโตที่จะเข้ามาเพิ่มเม็ดเงินและฐานลูกค้า ส่วนใหญ่จะเป็นไพรเวต ฟันด์ หรือกองทุนรวมกันแน่ เพราะเท่าที่เห็นกิจกรรมในงาน รถส่วนใหญ่ราคาระดับล้านทั้งนั้น ฐานกำลังซื้อคงไม่ต้องพูดถึง รบกวนเอ็มดีช่วยแจงด้วยคร๊าบ......เจ้านาย
กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นยังออกมาต่อเนื่องจากบรรดาบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนต่างๆ ใครสนใจของเจ้าไหนค่ายไหน “ต้นกล้า”ขอย้ำต้องศึกษานโยบายการลงทุนให้ดี เพราะช่วงนี้ความเสี่ยงต่ำดูเหมือนเป็นสิ่งถูกตาต้องใจกับบรรดามิตรรักแฟนเพลงกองทุนรวมอย่างยิ่ง จนเรียกว่าอย่าเอาเรือไปขวางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เป็นเรื่องดีที่สุด
สุดท้ายวันนี้ “ต้นกล้า”ขอหยิบยกข่าวจาก เมอร์ริล ลินช์ มาฝาก โดยเขาคาดว่าในอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี้ กลุ่มผู้จัดการกองทุนจะให้ความสนใจเข้าซื้อหุ้นในตลาดสหรัฐมากกว่าหุ้นในตลาดเอเชีย เพราะเชื่อว่าคณะทำงานภายใต้การนำของนายบารัค โอบามา จะใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจสหรัฐให้กระเตื้องขึ้นได้ โดยเมื่อเร็วๆนี้มีเม็ดเงินไหลออกจากยุโรปและเอเชียเข้าไปยังตลาดหุ้นและตลาดปริวรรตเงินตราสหรัฐ เพราะได้รับอิทธิพลจากกระแสความนิยมชมชอบในตัวโอบามา และความเชื่อที่ว่าคณะทำงานของโอบามาจะใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพ อาจกล่าวได้ว่าชัยชนะของโอบามาไม่ค่อยส่งผลในทางตรงต่อตลาดหุ้นในเอเชียเท่าใด ทั้งนี้ผู้นำสหรัฐฯคนใหม่เรียกร้องให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 1.75 แสนล้านดอลลาร์ทันทีที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีจบสิ้นลง ซึ่งรวมถึงการคืนเช็คภาษีให้กับผู้บริโภค การใช้สินเชื่อด้านภาษีเพื่อกระตุ้นการจ้างงานและการใช้จ่ายภาคสาธารณะ อาทิ โครงการซ่อมบำรุงโรงเรียน ถนน และสะพานอีกด้วย ...ดังนั้นกองทุนของใครที่มีนโยบายเกี่ยวข้องกับเมืองลุงแซม ก็ไม่ควรพลาดติดตามข่าวสารในเรื่องนี้กันต่อ...“ต้นกล้า”