xs
xsm
sm
md
lg

คำกล่าวดีๆ เกี่ยวกับการลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์คุยกับผู้จัดการกองทุน
โดย ดร.ฐนิตพงศ์ ชื่นภิบาล
ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมความเสี่ยง
บลจ.อยุธยา จำกัด


นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จหลายๆคน มักจะมีความคิดเห็นที่ดี หรือแตกต่างจากคนอื่นๆเสมอ ซึ่งความคิดเห็นที่ดีๆหรือแตกต่างเหล่านี้ อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผลตอบแทนการลงทุนของเขาเหล่านั้นแตกต่างไปจากคนทั่วๆไป ในวันนี้ ผมขอนำเสนอคำกล่าวของนักลงทุนระดับโลกบางท่าน ที่ให้แง่คิดดีๆ และสามารถนำไปปฏิบัติได้ไม่ยากครับ

“Be fearful when others are greedy. Be greedy when others are fearful” - - Warren Buffet

“จงหวาดกลัวในยามที่ผู้อื่นกำลังละโมบ และจงละโมบในยามที่ผู้อื่นกำลังหวาดกลัว” - - วอร์เรน บัฟเฟ็ตต์


คำกล่าวของวอร์เรน บัฟเฟ็ตต์ ข้างบนนี้ บ่งชี้ถึงความแตกต่างในการลงทุนของเขา โดยธรรมดาแล้ว นักลงทุนจำนวนมากมักจะลงทุนในขณะที่ตลาดกำลังปรับตัวขึ้น ยิ่งปรับตัวขึ้นมากและยาวนาน คนก็จะยิ่งเข้าไปลงทุนกันมากขึ้น เพราะเห็นว่าคนที่ลงทุนมาก่อนหน้านั้นแล้วสามารถทำกำไรจากการลงทุนได้เยอะในระยะเวลาอันสั้น สังเกตได้ง่ายๆว่า เวลาที่หุ้นขึ้นมากๆ จำนวนคนที่พูดถึงเรื่องหุ้นก็มักจะมีมากขึ้นตามมา ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าคนจำนวนมากกำลังละโมบ ในขณะที่นักลงทุนบางท่านอาจมองว่า ยิ่งมีคนพูดถึงเรื่องหุ้นมากเท่าไร ยิ่งหมายความว่าระดับราคาหุ้นใกล้ถึงจุดสูงสุดแล้ว เพราะนักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในช่วงหลังอาจไม่คำนึงถึงปัจจัยพื้นฐานมากนัก แต่ลงทุนเพราะเห็นว่าคนอื่นได้ผลตอบแทนดี

ดังนั้น การลงทุนในช่วงที่คนอื่นกำลังละโมบ มีโอกาสที่จะขาดทุนค่อนข้างมากหรือได้ผลตอบแทนน้อย เพราะราคาที่เข้าซื้ออาจสูงเกินกว่าปัจจัยพื้นฐานไปมาก หรือโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นต่อไปมีน้อยลง ในทางตรงกันข้าม หากราคาหุ้นปรับตัวลงมาก คนมักจะกลัวและไม่กล้าลงทุน เพราะกลัวว่าจะขาดทุน ดังเช่นก่อนหน้านี้ที่มีคนพูดถึงหุ้นในด้านลบกันมาก ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนทั่วไป หรือนักวิเคราะห์หลายรายที่มองว่าไม่น่าลงทุนในหุ้น การที่คนทั่วไปกลัวกันมาก จะยิ่งทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสปรับลงน้อย เพราะคนที่กลัวว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลดลง ก็ไม่กล้าเข้ามาซื้อ (จึงไม่มีหุ้นให้ขาย) ส่วนคนที่มีหุ้นอยู่แล้ว ก็อาจจะขายออกมาโดยไม่คำนึงถึงปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาหุ้นหลายๆตัวปรับลดลงต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน แต่ก็มักจะมีแรงซื้อจากคนที่มองเห็นคุณค่าของหุ้นมารองรับ ในขณะที่จำนวนนักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นตามตลาด ก็จะลดน้อยลง ซึ่งสังเกตได้จากปริมาณการซื้อขายในแต่ละวันที่ลดลงอย่างมาก นักลงทุนที่ลงทุนในหุ้นในขณะที่ทุกคนกำลังหวาดกลัว มักจะมีโอกาสทำกำไรได้มากในระยะยาว เพราะอาจซื้อหุ้นได้ในราคาที่ต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน (ราคาถูกกว่าความเป็นจริง) โดยในระยะยาวแล้ว ราคาหุ้นมักจะตอบสนองต่อปัจจัยพื้นฐาน

“The four most expensive words in the English language are, ‘This time it’s different.’” - - Sir John Templeton

“สี่คำในภาษาอังกฤษที่แพงที่สุดคือ ‘ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนๆ’” - - เซอร์จอห์น เท็มเปิลตั้น


คำกล่าวของเซอร์จอห์น เท็มเปิลตั้น มีความหมายไปในทิศทางเดียวกันกับคำกล่าวของวอร์เร็น บัฟเฟ็ตต์ แต่เป็นกรณีที่คนทั่วไปมีความละโมบหรือกลัวจนให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล เช่น ในช่วงที่หุ้นขึ้นมากๆจนกระทั่งราคาอยู่สูงกว่าปัจจัยพื้นฐานมาก หรือราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากๆจนกระทั่งราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานมาก นักลงทุนบางท่านอาจจะเข้าซื้อในช่วงที่ราคาสูงกว่าปัจจัยพื้นฐานมาก แต่ไม่ลงทุนหรือขายหุ้นทิ้งในขณะที่ราคาต่ำกว่าราคาพื้นฐานมาก เพียงเพราะเหตุผลว่า “ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อนๆ เพราะ...” พร้อมกับให้เหตุผลต่างๆนานาสนับสนุนการตัดสินใจของตน เท็มเปิลตั้นมองว่าผู้ที่คิดเช่นนี้มีโอกาสที่จะขาดทุนมากหากเข้าซื้อหุ้นในขณะที่ราคาสูงกว่าปัจจัยพื้นฐานมาก และขาดโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีหากไม่ลงทุนในขณะที่หุ้นต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐาน

“The stock market is filled with individuals who know the price of everything, but the value of nothing.” - - Phillip Fisher

“ตลาดหลักทรัพย์เต็มไปด้วยนักลงทุนรายย่อยที่รู้ราคาทุกอย่าง แต่ไม่รู้ว่ามูลค่าที่แท้จริงของมันมีที่มาที่ไปอย่างไร” - - ฟิลลิป ฟิชเชอร์

คำกล่าวของ ฟิลลิป ฟิชเชอร์ อาจอธิบายได้ว่า คนทั่วไปมักจะรู้ว่า เสื้อราคา 5,000 บาท เป็นเสื้อที่ราคาแพง ในขณะที่คอนโดนิเนียมหรูย่านชิดลม ราคาตารางเมตรละ 55,000 บาท เป็นราคาที่ค่อนข้างถูก แต่คนอาจจะไม่สามารถอธิบายได้ว่าจริงๆแล้วทำไมของเหล่านั้นจึงมีราคาถูกหรือแพง เช่น สาเหตุที่คอนโดมิเนียมนั้นมีราคาถูกอาจเป็นเพราะวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างหรือตกแต่งมีคุณภาพต่ำ หรือรายละเอียดในการก่อสร้างมีไม่มาก เปรียบได้กับการลงทุนในหุ้น นักลงทุนบางท่านอาจมองว่า หุ้นตัวหนึ่งมีราคาถูก เพราะราคาได้ปรับตัวลดลงจากเดิมมาก แต่อาจไม่รู้ว่าสาเหตุที่แท้จริงที่หุ้นตัวนั้นมีราคาลดลง เพราะปัจจัยพื้นฐานของหุ้นตัวนั้นได้เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง

ท้ายนี้ ผมหวังว่า คำกล่าวที่ให้แง่คิดดีๆของนักลงทุนทั้ง 3 ท่านนี้ อาจเป็นประโยชน์แก่ท่านนักลงทุนไม่มากก็น้อย อย่างไรก็ตาม ท่านนักลงทุนโปรดอย่าลืมว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ดังนั้นท่านนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุนครับ...
กำลังโหลดความคิดเห็น