บลจ.พรีมาเวสท์เผย นักลงทุนไม่มั่นใจวิกฤตการเงิน แห่ลงทุนพันธบัตรรัฐแทน จนสะท้อนผลตอบแทนทั่วโลกปรับตัวลดลง ชี้ปัจจัยหลัก เพราะไม่มีอะไรสร้างความมั่นใจได้ดีเท่าตราสารหนี้แล้ว ประเมินผลกระทบโรคแฮมเบอร์เกอร์ลามยุโรป กดดันแต่ละประเทศดำเนินนโยบายระดับใหญ่ มากกว่าแก้ปัญหาด้วยการลดดอกเบี้ย ระบุเศรษฐกิจทั้งยุโรป จะเห็นผลจากการเยียวยาชัดเจนไตรมาสที่ 3 ปีหน้า
นางสาวศิริพร สุวรรณการ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจของยุโรปและภาวะการลงทุนในตราสารหนี้ของรัฐบาลยุโรปว่า ในภาพรวมแล้วเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในยุโรป ค่อนข้างจะชะลอตัวลงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยในเรื่องของภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ และต่อเนื่องด้วยผลกระทบจากวิกฤตการทางการเงินของสหรัฐฯที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
ทั้งนี้ ประเทศต่างๆในยุโรปนั้น มีการดำเนินนโยบายทางการเงินของแต่ละประเทศที่แตกต่างกันไป ซึ่งแม้ว่ากลุ่มประเทศในยุโรปมีการประชุมหารือกันเพื่อแก้ปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นก็ตาม แต่การแก้ปัญหาทางการเงินแต่ละประเทศก็ดำเนินนโยบายของแต่ละประเทศ เพราะมีปัจจัยภายในประเทศที่แตกต่างกัน และหากเปรียบเทียบกับการดำเนินนโยบายเพื่อแก้ปัญหาของทางสหรัฐอเมริกาแล้ว สหรัฐฯจะค่อนข้างเข้มแข็งกว่ายุโรป
นอกจากนี้ การแก้ปัญหากับสถาบันการเงินของยุโรปนั้น รัฐบาลของหลายประเทศออกมาตรการช่วยเหลือด้วยการคํ้าประกันให้กับเงินฝากและตราสารทางการเงิน ให้กับสถาบันการเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ประเทศเยอรมนี ที่รัฐบาลประกาศอุ้มสถาบันการเงินละคุ้มครองเงินฝาก รวมถึง ประเทศออสเตรีย เดนมาร์ก สวีเดน ที่รัฐบาลประกาศคุ้มครองเงินฝากสถาบันการเงินตามประเทศเยอรมนี โดยการแก้ปัญหาดังกล่าวเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจและถอนเงินออกธนาคารต่างๆ ซึ่งถือเป็นการลดภาระของสถาบันการเงินต่างๆ ไปได้ในระดับหนึ่ง
ดังนั้น ในระยะต่อจากนี้รัฐบาลของประเทศต่างในยุโรปต้องมีการดำเนินนโยบายในระดับใหญ่เพื่อเข้ามาแก้ปัญหา มากกว่าแก้ปัญหาด้วยการดำเนินนโยบายในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย
นางสาวศิริพร กล่าวต่อว่า ปัญหาใหญ่ในขณะนี้คือ เรื่องความมั่นใจของนักลงทุน ในการนำเงินไปลงทุน ดังนั้น นักลงทุนส่วนใหญ่จึงพากันนำเงินมาลงทุนไว้ที่พันธบัตรรัฐบาลของแต่ละประเทศเป็นส่วนใหญ่เพื่อความมั่นใจ โดยสะท้อนให้เห็นได้จากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกมีการปรับตัวลดลงมาในช่วงนี้
" แม้ว่าผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลจะปรับลดลงมา แต่เพื่อความมั่นใจในเรื่องของเงินลงทุนแล้ว การลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาลจะมีมั่นใจมากกว่าในช่วงระยะเวลานี้ " นางสาวศิริพร กล่าว
ส่วนแนวโน้มทางเศรษฐกิจของยุโรปนั้น ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุน กล่าวว่า เศรษฐกิจของทั้งยุโรปจะเห็นผลชัดเจนจากการใช้มาตรการของรัฐบาลในขณะนี้ ในช่วงประมาณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2552
สำหรับกองทุนที่ บลจ.พรีมาเวสท์ ลงทุนอยู่พันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศนั้น คือ กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ โกลบอล บอนด์ (PGB) ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่ในต่างประเทศ โดยเน้นลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารภาครัฐไทยที่เสนอขายในต่างประเทศ และ/หรือตราสารภาครัฐต่างประเทศ ที่มีระดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกอยู่ในระดับ AA- ขึ้นไป โดยสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงาน โดยมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ทั่วไป และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด (โดยการดำรงอัตราส่วนจะไม่นำมาใช้บังคับในช่วงระยะเวลา 10 วันแรกนับแต่วันที่ได้จดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม และในช่วง 10 วันสุดท้ายก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการจัดการกองทุนรวม)
ทั้งนี้ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. และ/หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด แต่จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
นางสาวศิริพร สุวรรณการ ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) พรีมาเวสท์ จำกัด กล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจของยุโรปและภาวะการลงทุนในตราสารหนี้ของรัฐบาลยุโรปว่า ในภาพรวมแล้วเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในยุโรป ค่อนข้างจะชะลอตัวลงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยในเรื่องของภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ และต่อเนื่องด้วยผลกระทบจากวิกฤตการทางการเงินของสหรัฐฯที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
ทั้งนี้ ประเทศต่างๆในยุโรปนั้น มีการดำเนินนโยบายทางการเงินของแต่ละประเทศที่แตกต่างกันไป ซึ่งแม้ว่ากลุ่มประเทศในยุโรปมีการประชุมหารือกันเพื่อแก้ปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นก็ตาม แต่การแก้ปัญหาทางการเงินแต่ละประเทศก็ดำเนินนโยบายของแต่ละประเทศ เพราะมีปัจจัยภายในประเทศที่แตกต่างกัน และหากเปรียบเทียบกับการดำเนินนโยบายเพื่อแก้ปัญหาของทางสหรัฐอเมริกาแล้ว สหรัฐฯจะค่อนข้างเข้มแข็งกว่ายุโรป
นอกจากนี้ การแก้ปัญหากับสถาบันการเงินของยุโรปนั้น รัฐบาลของหลายประเทศออกมาตรการช่วยเหลือด้วยการคํ้าประกันให้กับเงินฝากและตราสารทางการเงิน ให้กับสถาบันการเงินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ประเทศเยอรมนี ที่รัฐบาลประกาศอุ้มสถาบันการเงินละคุ้มครองเงินฝาก รวมถึง ประเทศออสเตรีย เดนมาร์ก สวีเดน ที่รัฐบาลประกาศคุ้มครองเงินฝากสถาบันการเงินตามประเทศเยอรมนี โดยการแก้ปัญหาดังกล่าวเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจและถอนเงินออกธนาคารต่างๆ ซึ่งถือเป็นการลดภาระของสถาบันการเงินต่างๆ ไปได้ในระดับหนึ่ง
ดังนั้น ในระยะต่อจากนี้รัฐบาลของประเทศต่างในยุโรปต้องมีการดำเนินนโยบายในระดับใหญ่เพื่อเข้ามาแก้ปัญหา มากกว่าแก้ปัญหาด้วยการดำเนินนโยบายในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย
นางสาวศิริพร กล่าวต่อว่า ปัญหาใหญ่ในขณะนี้คือ เรื่องความมั่นใจของนักลงทุน ในการนำเงินไปลงทุน ดังนั้น นักลงทุนส่วนใหญ่จึงพากันนำเงินมาลงทุนไว้ที่พันธบัตรรัฐบาลของแต่ละประเทศเป็นส่วนใหญ่เพื่อความมั่นใจ โดยสะท้อนให้เห็นได้จากผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกมีการปรับตัวลดลงมาในช่วงนี้
" แม้ว่าผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลจะปรับลดลงมา แต่เพื่อความมั่นใจในเรื่องของเงินลงทุนแล้ว การลงทุนในพันธบัตรของรัฐบาลจะมีมั่นใจมากกว่าในช่วงระยะเวลานี้ " นางสาวศิริพร กล่าว
ส่วนแนวโน้มทางเศรษฐกิจของยุโรปนั้น ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุน กล่าวว่า เศรษฐกิจของทั้งยุโรปจะเห็นผลชัดเจนจากการใช้มาตรการของรัฐบาลในขณะนี้ ในช่วงประมาณ ไตรมาสที่ 3 ของปี 2552
สำหรับกองทุนที่ บลจ.พรีมาเวสท์ ลงทุนอยู่พันธบัตรรัฐบาลต่างประเทศนั้น คือ กองทุนเปิดพรีมาเวสท์ โกลบอล บอนด์ (PGB) ซึ่งเป็นกองทุนรวมที่ลงทุนในตราสารแห่งหนี้ที่ในต่างประเทศ โดยเน้นลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารภาครัฐไทยที่เสนอขายในต่างประเทศ และ/หรือตราสารภาครัฐต่างประเทศ ที่มีระดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือของผู้ออกอยู่ในระดับ AA- ขึ้นไป โดยสถาบันการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับจากสำนักงาน โดยมีมูลค่ารวมกันทั้งสิ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลืออาจพิจารณาลงทุนในเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก ตราสารแห่งหนี้ทั่วไป และ/หรือลงทุนในหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่นหรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด (โดยการดำรงอัตราส่วนจะไม่นำมาใช้บังคับในช่วงระยะเวลา 10 วันแรกนับแต่วันที่ได้จดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม และในช่วง 10 วันสุดท้ายก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการจัดการกองทุนรวม)
ทั้งนี้ กองทุนอาจพิจารณาลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีตัวแปรเป็นอัตราแลกเปลี่ยนเงิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงตามที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. และ/หรือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด แต่จะไม่ลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)