ตลาดล่วงหน้า C-COM ในญี่ปุ่น ดึงยางแผ่นรมควันชั้น 3 ในตลาด AFET ใช้คำนวณ Rubber Index หวังให้ดัชนีสะท้อนราคายางในตลาดโลก ด้าน AFET ปลื้ม ส่งผลดีให้ราคายางของไทย ในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกยางอันดับหนึ่งของโลก มีส่วนในการกำหนดราคาตลาดโลกมากขึ้น
นายนิทัศน์ ภัทรโยธิน กรรมการและผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (ต.ส.ล.) เปิดเผยว่า ตลาดสินค้าล่วงหน้า Central Commodity Exchange หรือ C-COM ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีการซื้อขายยางพาราล่วงหน้าแห่งใหญ่แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และดัชนีราคายางพารากำลังดำเนินการปรับปรุงองค์ประกอบของราคายางพาราที่นำมาใช้คำณวนดัชนียางพารา (Rubber Index) และเห็นว่าจะนำราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ของ AFET ไปรวมเข้าไว้ในการคำณวนดัชนีราคายางดังกล่าว เพื่อให้ดัชนีสามารถสะท้อนราคายางในตลาดโลกได้ดีขึ้น โดยในการนี้คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ได้มีมติอนุญาตให้ตลาด C-COM ใช้ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ของ AFET ได้
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวนอกจากจะเป็นการทำให้ Rubber Index ของญี่ปุ่นสามารถสะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาตลาดโลกมากขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้ราคายางของไทยในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกยางอันดับหนึ่งของโลก มีส่วนในการกำหนดราคาตลาดโลกมากขึ้น รวมทั้งถูกใช้ในการอ้างอิงราคาจากทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับในส่วนของผู้ประกอบการยางพาราที่เข้ามาใช้ตลาด AFET ในการประกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา ตลาด AFET ได้ดำเนินการปรับปรุงเงื่อนไขในการส่งมอบรับมอบ รวมตลอดถึงวิธีการชำระราคา ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในเดือนสิงหาคมเป็นการส่งมอบรับมอบภายใต้เงื่อนไขใหม่ ส่งผลให้มีผู้ส่งออกมาขอรับยางแผ่นรมควันชั้น 3 จากตลาด AFET ส่งมอบเดือนสิงหาคม มารับของจากผู้ผลิตและส่งออกไปยังประเทศฝรั่งเศสได้ สามารถลดระยะเวลาการส่งมอบลงได้ถึง 10 วัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะใช้ AFET ในการส่งมอบรับมอบสินค้าประกอบการค้าที่ดำเนินธุรกิจประจำวันได้รับความสะดวกคล่องตัว ช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการค้าได้เป็นอย่างมาก
นายนิทัศน์ กล่าวว่า ในปัจจุบัน ผู้ซื้อ ผู้ขายในตลาด AFET สามารถเข้ามาซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 หรือ RSS3 ได้ด้วยความคล่องตัวและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนและผู้ประกอบการได้อย่างแท้จริง
นายนิทัศน์ ภัทรโยธิน กรรมการและผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (ต.ส.ล.) เปิดเผยว่า ตลาดสินค้าล่วงหน้า Central Commodity Exchange หรือ C-COM ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีการซื้อขายยางพาราล่วงหน้าแห่งใหญ่แห่งหนึ่งในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และดัชนีราคายางพารากำลังดำเนินการปรับปรุงองค์ประกอบของราคายางพาราที่นำมาใช้คำณวนดัชนียางพารา (Rubber Index) และเห็นว่าจะนำราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ของ AFET ไปรวมเข้าไว้ในการคำณวนดัชนีราคายางดังกล่าว เพื่อให้ดัชนีสามารถสะท้อนราคายางในตลาดโลกได้ดีขึ้น โดยในการนี้คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ได้มีมติอนุญาตให้ตลาด C-COM ใช้ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 ของ AFET ได้
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวนอกจากจะเป็นการทำให้ Rubber Index ของญี่ปุ่นสามารถสะท้อนความเคลื่อนไหวของราคาตลาดโลกมากขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้ราคายางของไทยในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกยางอันดับหนึ่งของโลก มีส่วนในการกำหนดราคาตลาดโลกมากขึ้น รวมทั้งถูกใช้ในการอ้างอิงราคาจากทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ
สำหรับในส่วนของผู้ประกอบการยางพาราที่เข้ามาใช้ตลาด AFET ในการประกันความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา ตลาด AFET ได้ดำเนินการปรับปรุงเงื่อนไขในการส่งมอบรับมอบ รวมตลอดถึงวิธีการชำระราคา ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในเดือนสิงหาคมเป็นการส่งมอบรับมอบภายใต้เงื่อนไขใหม่ ส่งผลให้มีผู้ส่งออกมาขอรับยางแผ่นรมควันชั้น 3 จากตลาด AFET ส่งมอบเดือนสิงหาคม มารับของจากผู้ผลิตและส่งออกไปยังประเทศฝรั่งเศสได้ สามารถลดระยะเวลาการส่งมอบลงได้ถึง 10 วัน ส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะใช้ AFET ในการส่งมอบรับมอบสินค้าประกอบการค้าที่ดำเนินธุรกิจประจำวันได้รับความสะดวกคล่องตัว ช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการค้าได้เป็นอย่างมาก
นายนิทัศน์ กล่าวว่า ในปัจจุบัน ผู้ซื้อ ผู้ขายในตลาด AFET สามารถเข้ามาซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 หรือ RSS3 ได้ด้วยความคล่องตัวและสามารถตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนและผู้ประกอบการได้อย่างแท้จริง
