xs
xsm
sm
md
lg

ต้นกล้ากับกระปุกออมสิน...ตอน : สมาชิกใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นิทานการลงทุน
ต้นกล้ากับกระปุกออมสิน

ตอน...สมาชิกใหม่

คุณนายสุขใจนึกย้อนกลับไปเมื่อ 20 ที่แล้ว...ตอนนั้นต้นกล้าอายุเพียง 5 ขวบ...เธอยังจำวันที่ต้นกล้าวิ่งหน้าตาตื่นมาหา พร้อมกับประปุกออมสินเก่าๆ ใบหนึ่ง...วันนั้น ต้นกล้าอ้อนวอนขอให้เธอช่วยทำความสะอาดกระปุกออมสินที่เขาเก็บมาจากกองขยะให้...ที่สำคัญ ลูกชายตัวน้อยๆ ของเธอ พยายามบอกกับเธอว่า “กระปุกออมสินตัวนี้มันขยับตัวได้ด้วยนะครับแม่”...แต่เธอก็ไม่ได้สนใจ คิดแค่เพียงว่า ลูกของเธอคิดเอาเองตามประสาเด็กเท่านั้น
แต่วันนี้...ภาพที่เธอเห็นอยู่เบื้องหน้าในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นท่าทาง การเคลื่อนไหว คำพูด ที่ออกมาจากกระปุกออมสินใบเก่าๆ กระปุกออมสินที่เธอทำความสะอาดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว มันทำให้เธอรู้สึกประหลาดใจและเสียใจไปพร้อมๆกัน ที่วันนั้น เธอไม่เชื่อคำพูดของลูกชายเธอ
“ผมบอกแม่แล้วไงว่ากระปุกออมสินมันขยับตัวได้”
ต้นกล้าพูดออกมาหลังจากนิ่งไปพักใหญ่
คุณนายสุขใจเดินเข้ามาในห้องของต้นกล้า “ไหนเล่าให้แม่ฟังซิต้น ว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร”
ต้นกล้าเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แม่ฟัง...เขาเองรู้สึกกังวลใจอยู่ไม่น้อย ที่แม่รู้ความลับที่เขาเก็บไว้มา 20 ปี ส่วนหนึ่งเพราะเขาเกรงว่ามันจะไม่เป็นผลดีกับกระปุก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา กระปุกเองไม่ต้องการให้ใครรู้เกี่ยวกับความลับนี้ ถึงแม้อาร์มน้องชายของเขาจะรู้แล้วก็ตาม...
แต่อีกความรู้สึกของต้นกล้าในตอนนี้ เขากลับดีใจว่าในที่สุด แม่ก็รู้ความจริง ว่าเรื่องที่เขาพูดไปตอนที่อุ้มกระปุกออมสินมาวันนั้น ไม่ใช่เรื่องโกหก...ที่สำคัญไปกว่านั้น เขาเองอยากบอกความลับนี้ให้แม่รู้มานานแล้ว เพราะเขาไม่อยากเห็นกระปุกต้องทนเหงาอยู่คนเดียวในเวลาที่เขาไม่อยู่บ้าน...ซึ่งเวลาที่เขาปล่อยให้มันล่วงเลยมานานถึง 20 ปี มันคงเพียงพอแล้วสำหรับกระปุก
“ต้นไม่ได้ตั้งใจจะปิดแม่หรอกนะครับ แต่ต้นไม่อยากให้กระปุกลำบากใจ เพราะเขาเองก็กลัวว่าถ้าใครรู้เข้า เรื่องมันจะไปกันใหญ่...ไม่ใช่ว่าเราไม่ไว้ใจแม่กับพ่อหรอกนะครับ แต่เราไม่มีทางเลือก”
“ลูกก็เลยต้องเก็บเป็นความลับมากว่า 20 ปี”
ต้นกล้าก้มหน้าลง...ตอนนี้ เขารู้ผิดที่ปิดบังเรื่องนี้กับแม่
คุณนายสุขใจประคองใบหน้าของลูกขึ้นมา เธอมองเข้าไปในตาของต้นกล้า “ต้นกล้า...ฟังแม่นะ เรื่องที่เกิดขึ้นมันไม่ใช่ความผิดของลูกหรอกนะ มันเป็นความผิดของแม่เองที่ไม่เชื่อลูกตั้งแต่วันนั้น...นี่ถ้าแม่เชื่อลูกตั้งแต่แรก กระปุกก็คงไม่ต้องทนเหงาแล้วก็เก็บตัวอยู่แต่ในห้องมานานถึง 20 ปีแบบนี้...ต้นเองก็ไม่ต้องทนเก็บความลับมานานถึงขนาดนี้”
“แม่ครับ”
“แม่ขอโทษนะลูก”
“แม่ครับ”
ถึงเวลานี้ ต้นกล้ารู้สึกโล่งใจ เสมือนหนึ่งว่าเขาได้ยกภูเขาอันหนักอึ้งที่แบกไว้มาตลอดออกไปซะที...เขาโผเข้าไปกอดแม่ “ต้นต้องขอโทษแม่ด้วยนะครับ”
“ช่างมันเถอะลูก” คุณนายสุขใจเอามือลูบแผ่นหลังปลอบใจต้นกล้า

นอกจากต้นกล้าและแม่ ที่ต่างคนต่างรู้สึกผิดต่อกันแล้ว...กระปุกออมสินเองก็รู้สึกผิดไปไม่น้อยกว่ากันเลย เขาคิดไปว่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น มันเริ่มต้นมาจากตัวเขาเอง...แต่ระหว่างที่เขาโทษตัวเองอยู่นั้น คุณนายสุขใจก็ขยับตัวมาหาเขา
“ไหน...แม่ขอดูใกล้ๆ หน่อยซิ ว่ากระปุกออมสินมีชีวิตคนนี้เป็นยังไงบ้าง”
ตอนนี้กระปุกตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก เขาหันไปมองหน้าต้นกล้า...พอเห็นต้นกล้าพยักหน้าตอบกลับมา เขาก็เลยเริ่มผ่อนคลาย
“ไหนลองเรียกแม่ซิ”
กระปุกหันไปมองหน้าต้นกล้าอีกครั้ง ก่อนจะตั้งใจพูดคำนี้ออกมา“แม่ครับ”...พอสิ้นเสียงคำว่าแม่ออกมา ความรู้สึกดีๆทุกอย่าง มันพรั่งพรูออกมาโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่ามันมาจากไหน มันเป็นความรู้สึกที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน ซึ่งมันทำให้กระปุกนึกถึงความรู้สึกของต้นกล้าว่า ทุกครั้งที่เขาพูดคำว่า “แม่” ออกมา มันคงไม่ต่างไปจากความรู้สึกที่เขาเป็นอยู่ในตอนนี้แน่นอน
“ลูกเรียกเพื่อนของลูกว่าไงเหรอ” คุณนายสุขใจหันไปถามต้นกล้า
“กระปุกครับแม่”
“กระปุก...ต่อไปนี้ให้เรียกแม่ว่า แม่ อย่างที่ต้นกล้าเรียกนะ...แล้วแม่ต้องขอโทษด้วยนะที่ปล่อยให้เวลามันล่วงเลยมานานขนาดนี้ กระปุกคงอึดอัดน่าดูเลย”
“ไม่หรอกครับ...” กระปุกนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดต่อว่า “แม่”
“ต่อไปนี้ ไม่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ อีกต่อไปแล้วนะ”
“ครับ”
“แม่ครับ” ต้นกล้าพูดแทรกขึ้นมา “แม่รับกระปุกเป็นลูกอีกคนได้ไหมครับ”
“ได้อยู่แล้ว ดีซะอีกแม่จะได้มีลูกเพิ่มอีกคน”
“ขอบคุณครับแม่” พูดเสร็จต้นกล้าก็ขยับไปหากระปุก “ไงกระปุก...รู้สึกยังไงบ้าง”
“บอกไม่ถูก...มันดีใจ โล่งใจ สบายใจยังไงไม่รู้”
“กระปุก....” ต้นกล้าทำเสียงแปลกๆ พาลให้กระปุกหวั่นใจอีกครั้ง“เราต้องบอกเรื่องนี้กับพ่อด้วยนะ กระปุกจะมีปัญหาไหม”
กระปุกสบตาต้นกล้า แล้วหันไปมองหน้าแม่อีกคน “ยังไงก็ได้ ไหนๆ ก็มาถึงขั้นนี้แล้ว กระปุกไม่อยากให้ต้นกล้ากับแม่ลำบากใจ…แต่กระปุกขออะไรอย่างได้ไหม ขอให้รู้กันเฉพาะครอบครัวของเราเท่านั้น...ได้ไหมครับแม่...ต้น”
“แม่สัญญาจ้า”
“ต้นก็สัญญา”

หลังจากทั้ง 3 เข้าใจกันดีแล้ว ต้นกล้าก็เล่าเรื่องสนุกอีกหลายอย่างให้แม่ฟัง...รวมไปถึงเรื่องที่กระปุกเป็นที่ปรึกษาเรื่องการลงทุนหลายต่อหลายอย่างให้เขา ที่สำคัญ ยังเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้เขาเห็นความสำคัญของการออมเงินด้วย...
ต้นกล้าโม้ต่อไปอีกว่า ที่ผ่านมา เขาหยอดเงินใส่กระปุกทุกวัน เพราะวันไหนถ้าไม่หยอดหรือลืม ก็จะโดนกระปุกเตือน...
ซึ่งการที่เขาเก็บออมมาโดยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ถึงแม้มันจะไม่มาก แต่การเก็บเล็กผสมน้อย ก็ทำให้เขาไม่ต้องขอเงินแม่ใช้เลย...ซึ่งสิ่งนี้เอง เป็นสิ่งที่แม่ภูมิใจในตัวลูกชายคนนี้
“ต่อไปแม่ต้องหยอดกระปุกบ้างแล้วละ...ได้ไหมกระปุก”
“ได้ครับแม่...เพราะต้นกล้าเองก็ชอบลืมอยู่บ่อยๆ กระปุกขี้เกียจต้องมาคอยบอกทุกวันแล้วละครับ”
“อ้าว...ไหงพูดแบบนี้ละกระปุก” ต้นกล้าเริ่มโวยวาย “แม่ยอเข้าหน่อยได้ทีเชียวนะ”
“แฮะแฮ่...ขำๆน่า”
“ไม่ต้องมาขำเลย...นายเตรียมตัวให้ดีเหอะ พ่อฉันนะ ดุนะ...คอยดูเหอะถ้าพ่อโกรธขึ้นมา ฉันจะไม่ช่วยอะไรเลย”
“ไหงพูดแบบนี้ละ ลำพังฉันคนเดียวจะไปพูดให้พ่อเข้าใจได้ยังไงเล่า”
“นายก็ไปบอกแม่ให้ช่วยซิ...ฉันมันก็เป็นแค่ภาระให้นายเท่านั้นไม่ใช่เหรอ”
“โถ่...อย่างอนไปเลยนะ ฉันล้อเล่นน่า...นะ นะ”

ระหว่างที่ทั้งสองกำลังหยอกล้อกันอยู่นั้น คุณนายสุขใจที่นั่งมองอยู่ใกล้ๆ ก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข...เธอคิดว่าทั้งต้นกล้าและกระปุกเองก็มีความสุขเช่นกัน...
เธอบอกกับตัวเองว่า...ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ คงต้องปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคต เพราะต่อๆ ไป จะต้องมีคนอีกหลายคนที่รู้ความลับนี้ ต้นกล้าเอง ก็จะต้องมีครอบครัว มีลูก ถึงวันนั้น เธอเชื่อว่าเวลาจะหาคำตอบให้กับเรื่องนี้เอง...
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ณ ตอนนี้ เวลานี้...เป็นวันที่คุณนายสุขใจ มีความสุขมากที่สุด ที่ได้กระปุกออมสินพูดได้ แถมน่ารักอย่างกระปุก มาเป็นสมาชิกใหม่ของครอบครัว

อ่านต่อฉบับวันจันทร์หน้า
กำลังโหลดความคิดเห็น