เรียกได้ว่านี่เป็นการเผยภาพชายคนแรกของโลกที่ตั้งครรภ์เลยก็ว่าได้ สำหรับ "โทมัส บีทตี" ชายหนุ่มผู้ตั้งครรภ์ทารกเพศหญิงและกำลังจะให้กำเนิดในอีก 4 สัปดาห์ข้างหน้า งานนี้เขาได้ถ่ายแบบพร้อมให้สัมภาษณ์ถึงประสบการณ์ดังกล่าวกับทาง นิวส์ ออฟ เดอะ เวิล์ด ก่อนจะเปิดอัลบั้มภาพสมัยเก่าให้ดูว่าแท้จริงแล้วเขาเคยมีดีกรีเป็นถึงนางงามเลยทีเดียว
"ผมรู้สึกมหัศจรรย์มาก ผมแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นหน้าลูกแล้ว" นอกจากนั้นเขายังเผยด้วยว่าหลังจากคลอดทารกคนนี้แล้ว เขาและภรรยาพร้อมที่จะมีลูกเพิ่มขึ้นอีก
นอกจากเขาจะเปิดบ้านให้ช่างภาพเข้ามาถ่ายภาพชีวิตครอบครัวแล้ว โทมัสยังใจดีเปิดอัลบั้มภาพถ่ายที่เผยให้เห็นภาพที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งทำให้โลกได้รับรู้ว่าแท้จริงแล้วชายหนุ่มคนนี้มีดีกรีเป็นถึงนางงามเมื่อครั้งยังเป็นวัยรุ่นด้วย
โทมัส จัดการแปลงเพศเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้วแต่เขายังคงเก็บรังไข่และมดลูกเอาไว้ดังนั้นเขาจึงสามารถมีสิทธิ์ที่จะตั้งครรภ์ได้ "ผมรู้สึกเหมือนเป็นสุดยอดของโลกเลย ตอนนี้ผมมีอายุครรภ์ 36 สัปดาห์แล้วซึ่งใกล้คลอดเต็มทีผมรู้สึกมหัศจรรย์มาก ทุกๆวันผมและแนนซีคิดตลอดว่าเราแทบรอที่จะได้อุ้มลูกสาวของเราไว้แนบอก ได้สัมผัสเธอและได้เห็นหน้าลูกเป็นครั้งแรกไม่ไหวแล้ว"
"เรามีห้องสำหรับเด็กเตรียมไว้แล้วและเราก็มีผ้าอ้อม ของใช้ต่างๆตั้งเรียงรายเตรียมไว้ในห้องนอนของเธอเรียบร้อยแล้วเช่นกัน ทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว"
"เราได้เลือกชื่อที่เราทั้งสองคนชอบ แต่เราจะรอจนกว่าลูกเราจะคลอดเแล้วเราค่อยบอกกับทุกๆคน ทั้งคนที่รู้จักและรักเราจริงๆ เพื่อนๆและครอบครัวของพวกเรา ซึ่งพวกเขาต่างก็ให้กำลังใจและสนับสนุนเรามากอย่างไม่น่าเชื่อ"
ส่วนทางด้านภาพถ่ายในอดีตก่อนที่จะกลายมาเป็นโทมัสในปัจจุบัน เขาเป็นสาวสวยชาวฮาวายที่มีชื่อว่า เทรซี ลากอนดิโน
โทมัส เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกเกี่ยวกับการตั้งท้องแบบผิดเพศ ซึ่งเขากล่าวว่านี่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้เขาและแนนซีมีลูกด้วยกันได้ แม้จะเป็นเป้าให้ถูกโจมตีแต่พวกเขาก็ยังคงนิ่งพร้อมอธิบายเหตุผลว่า
"ทุกๆสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเรามันเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก ผมเป็นคนที่โชคดีมาก ผมไม่เคยรู้สึกอึดอัดหรือมีอาการป่วยเลยแม้แต่น้อย"
"จริงๆแล้วตอนที่ผมรู้ว่าผมตั้งครรภ์ผมก็ออนไลน์หาข้อมูลทันทีและก็ได้รู้ว่าผู้หญิงมักจะทรมานจากอาการปวดหลังขนาดไหนแต่มันไม่เคยเกิดขึ้นกับผมเลยนะมันเป็นอะไรที่ง่ายๆสบายมากเลย"
"และเมื่อตอนที่ผมและแนนซีได้เห็นการสแกนครั้งแรกมันเป็นประสบการณ์ เป็นความรู้สึกที่เหลือเชื่อเกินคำบรรยาย เราไม่สนและไม่แคร์อีกแล้วว่าใครจะพูดถึงเราว่าอะไรก็ตาม"
"มันคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆถ้าหากมันทำให้เราสามารถเห็นหน้าลูกได้ เห็นริมฝีปากน้อยๆของเธอได้ เห็นร่างกายของเธอได้ ใครจะว่าจะข่มเหงเรายังไงเราก็ทนได้ทั้งนั้น"
"เธอเริ่มต้นจากความหวัง ความฝัน จนกระทั่งสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างเป็นคนขึ้นมาจริงๆ ลูกของเราและประสบการณ์เหล่านี้กลายเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุด"
"การเริ่มต้นครอบครัวเป็นความฝันของผมและแนนซีที่เราต่างก็พูดคุยกันมาตลอด และอีก 4 อาทิตย์ความฝันของพวกเราก็กลายเป็นความจริงแล้ว เราแทบจะรอไม่ไหวแล้ว"
โทมัส ผ่าตัดเอาหน้าอกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของเขาออกไปตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว และเลือกที่จะเก็บอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงไว้เพราะว่าแนนซี ภรรยาวัย 45 ปีของเขามีปัญหาเรื่องสุขภาพผ่าตัดเอามดลูกออกไปเป็นที่เรียบร้อยทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ได้
และเมื่อเวลาที่เขาหวังไว้มาถึง เขาก็ได้หยุดความพยายามที่จะเปลี่ยนเพศโดยเลิกกินฮอร์โมนเทสโตเตอโรนเพื่อที่จะทำให้รังไข่ของเขากลับมาทำงานอีกครั้ง
ตอนแรกเขาล้มเหลวจากความพยายามที่จะตั้งครรภ์ลูกแฝด ซึ่งเขาได้ไปซื้อน้ำเชื้อมาจากธนาคารแช่แข็งเสปิร์ม ซึ่งครั้งหลังโทมัสประสบความสำเร็จในการผสมเทียมด้วยความช่วยเหลือของแนนซีซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นภายในบ้านของเขา โดยใช้หลอดดูดยาพิเศษที่ได้จากสัตวแพทย์ผู้ดูแลนกที่เป็นสัตว์เลี้ยงสุดโปรดของโทมัสมาเป็นตัวช่วย เพราะว่าคลินิกทุกที่ล้วนแล้วแต่ปฏิเสธและไล่พวกเขาออกมาทั้งนั้น
"ฉันถูกขอร้องให้มาช่วยจัดการกับหลอดยาที่ไม่มีหัวเข็มนี้ พวกเขาให้เรามาแล้วเราก็นำมาบรรจุสเปิร์มแล้วก็ใส่เข้าไป" แนนซีกล่าว
แม้ว่าความพยายามครั้งแรกของพวกเขาจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ครั้งที่สองพวกเขาก็ทำสำเร็จจนได้ และทารกในครรภ์จะลืมตาดูโลกด้วยวิธีการผ่าท้อง โดยมีดร. คิมเบอร์ลีย์ เจมส์ รับหน้าที่เป็นผู้ทำคลอดในวันที่ 3 ก.ค.ที่จะถึงนี้
"มันเป็นการตัดสินใจที่ชัดเจนมาโดยตลอดว่าพวกเราอยากมีลูกมากและนั่นก็ทำให้ผมตัดสินใจไม่เอามดลูกและรังไข่ออก เพราะเราต้องการที่จะมีลูกอีก"
เทรซีย์ ( หรือ โทมัสในปัจจุบัน )เติบโตมาพร้อมกับพี่น้องผู้ชายสองคนในฮาวายโดยมีพ่อเป็นผู้เลี้ยงดูเพียงลำพังหลังจากที่แม่ของเขาฆ่าตัวตาย
โดยภาพอดีตเผยให้เห็นว่าเธอเป็นนางแบบสาว และยังเป็นผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายในการประกวด มิส ฮาวาย ทีน ยูเอสเอ ด้วย
นอกจากภาพที่ชวนให้ประหลาดใจแล้ว ยังมีภาพของวันชื่นคืนสุขที่ทั้งคู่ตัดสินใจเข้าพิธีแต่งงานด้วยกันในฮาวายเมื่อปี 2003 หลังจากที่พวกเขาพบรักกันในโฮโนลูลู
โทมัส ปฏิเสธที่จะกลับมาเป็นหญิง แม้เขาจะยังคงมีอวัยวะสืบพันธุ์เพศหญิงอยู่ในตัวแต่เขาก็ยืนยันว่าเรื่องเซ็กซ์ของเขากับแนนซีนั้นยังคงสมบูรณ์แบบทุกประการ
และตอนนี้เขากำลังตั้งตาคอยที่จะได้เป็นพ่อคนอย่างเดียวเท่านั้น "เราก้าวกันมาไกลมากแล้ว และลูกสาวของเราก็จะกลายเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างที่สองที่เกิดขึ้นสำหรับพวกเรา ในที่สุดเราก็จะได้มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบแล้ว"