xs
xsm
sm
md
lg

สังคมกองทุนรวม "ผู้จัดการรายวัน" ฉบับประจำวันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2551

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เปิดตลาดมาสัปดาห์แรก ดัชนีตลาดหุ้นบ้านเราก็แดงทั้งกระดานอีกครั้ง ด้วยปัจจัยทางการเมือง โดยวานนี้ (7 ก.ค.) ดัชนีปิดที่ 730.56 จุด ติดลบ 12.47 ด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 7,739.39 ล้านบาท งานนี้ นักลงทุนต่างชาติยังเป็นผู้ขายสุทธิต่อเนื่องอีก 1,295.53 ล้านบาท

เดือนนี้แล้วที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการพิจารณากำหนดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง...งานนี้ ถือเป็นการบ้านที่หลักพอสมควร เพราะหลายเสียงจากหลายธุรกิจ ให้ความเห็นออกเป็น 2 ด้านอย่างชัดเจน บ้างก็บอกว่าให้ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ล่าสุด ขึ้นไปแตะที่ระดับ 8.9% แล้ว แต่อีกกเสียงก็บอกว่า ถ้าขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการ เพราะเป็นการเพิ่มต้นทุน โดย ประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย บอกว่า โดยส่วนตัวแล้วไม่เห็นด้วยที่รัฐบาลจะใช้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการแก้ไขปัญหาอัตราเงินเฟ้อ เพียงมาตราการเดียว แต่รัฐบาลควรมีมาตรการที่หลากหลายมาสนับสนุน เช่นการปล่อยให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ต้นทุนนำเข้าลดลงและควรมีมาตรการประหยัดพลังงานเพิ่มเติม

เช่นเดียวกับ อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ประธานสมาคมธนาคารไทย ที่ไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ เพราะจะทำให้ผู้ประกอบธุรกิจมีต้นทุนเพิ่มขึ้น ทำให้การประกอบธุรกิจชะงักงันได้...งานนี้ ขึ้นอยู่กับ ธปท.แล้วละว่าจะให้น้ำหนักกับการดูแลเรื่องใดเป็นสำคัญ เพราะไม่ว่าปัจจัยไหนก็ส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศทั้งนั้น ยังไงคงต้องรอลุ้นกันในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้

ส่วนต้นเหตุของเงินเฟ้ออย่างราคาน้ำมัน นับวันจะเห็นราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด มนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน ออกมาเปิดเผยว่า ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศมีโอกาสที่จะปรับขึ้นอีก 1-2 บาทในระยะนี้ หากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังไม่ปรับลดลง เนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ทำให้เงินไหลออกจากตลาดหุ้นตลาดเงินไปเก็งกำไรในสินค้าโภคภัณฑ์ โดยมีความเป็นไปได้ที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะแตะระดับ 150 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ และมีความเป็นไปได้ที่ดีเซลจะปรับถึง 48-49 บาทต่อลิตร ซึ่งใกล้ระดับ 50 บาททุกทีแล้ว...ได้ยินแบบนี้ โอกาสที่เงินเฟ้อจะขยับลงคงเป็นไปได้ยาก

และสถานการณ์แบบนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานอย่าง พล.ท.(หญิง)พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ ก็เลยเตรียมเสนอการส่งเสริมการใช้น้ำมัน อี 85 เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ ในวันนี้ หลังพบว่า ประเทศบราซิลประสบความสำเร็จในการใช้เอทานอลถึงร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มในรถยนต์ และช่วยลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศได้จำนวนมาก โดยเห็นว่า การส่งเสริมการใช้น้ำมัน อี 85 ให้ได้ผลนั้น ควรมีแรงจูงใจเรื่องการลดภาษีสรรพสามิตรถยนต์ และน้ำมันอี 85 ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ

หันมาดูวงการกองทุนรวมกันบ้าง....สัปดาห์ก่อนได้รับการเชื้อเชิญจากบลจ.ไทยพาณิชย์ ไปทำความรู้จักกับกรรมการผู้อำนวยการคนใหม่อย่าง ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ งานนี้ กระจอกข่าวของเราทำการบ้านตั้งคำถามถึงแผนงานหลังเข้ามาดำรงตำแหน่งอย่างดิบดี แต่โดนเบรกซะงั้น เพราะ"ดร.เศรษฐพุฒิ" ยังอุบไต๋เอาไว้ บอกแต่เพียงว่าเอาไว้แถลงข่าวครั้งเดียวในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ ยังไงก็จะรอแล้วกันครับ...แต่ก็ยังดี ยังได้ข่าวกลับมา เป็นเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจในแนวที่ถนัดแทน

ช่วงบรรดาแบงก์พาณิชย์ ต่างพาเหรดออกแคมเปญดึงเงินฝากเป็นว่าเล่น ล่าสุด ธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) ก็ออกแคมเปญใหม่ภายใต้ชื่อ “ทีเอ็มบี ออเรนจ์ โบนัส” (TMB Orange Bonus) ซึ่งเป็นแคมเปญที่ให้ดอกเบี้ยโบนัสเพิ่มพิเศษ แก่ลูกค้าบุคคลธรรมดาของธนาคาร ที่มีบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อยู่กับธนาคารก่อนวันที่ 1 กรกฎาคม 2551 โดยผู้ฝากเงินจะได้รับดอกเบี้ยเพิ่ม 2 เท่า ของอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ปกติ หรือ 1.5% (2 เท่าของ 0.75% ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ที่ประกาศขณะนี้) เมื่อมีเงินฝากในบัญชีเพิ่มขึ้นจากเงินฝากเฉลี่ยในเดือนมิถุนายน 2551 ตั้งแต่ 1 บาทแรกขึ้นไป และ จะได้รับเพิ่มเป็น 3 เท่า หรือ 2.25% เมื่อมีเงินฝากเพิ่มตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป แคมเปญนี้เขาจัดขึ้นตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคมศกนี้...แต่ถ้าใครคิดว่าดอกเบี้ยแค่นี้ ไม่เพียงพอต่อการเอาชนะเงินเฟ้อ 8.9% ได้ละก็ แนะนำว่า การลงทุนผ่านกองทุนรวม ก็น่าสนใจไม่เบานะครับ โดยเฉพาะการลงทุนในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนค่อนข้างสูง ซึ่งช่วงที่ตลาดปรับลดลงแบบนี้ น่าจะเป็นโอกาสดีในการจับจังหวะลงทุนเพิ่มในช่วงที่ราคาถูกๆ เพราะถ้าหากดูพื้นฐานของตลาดหุ้นไทยแล้ว หลายคนมองตรงกันว่ายังมีโอกาสสดใสกลับขึ้นไปเหนือ 800 จุดได้อีกครั้ง หรือบางค่ายเองก็มองว่ามีโอกาสถึง 900 จุดด้วยซ้ำ...ใครที่คิดว่าตัวเองรับความเสี่ยงได้ อยากลงทุนในหุ้นแต่ไม่มีเวลาติดตาม การลงทุนผ่านกองทุนหุ้น...เป็นทางเลือกลงทุนหนึ่งที่สามารถเอาชนะเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี...ต้นกล้า
กำลังโหลดความคิดเห็น