ไม่ได้โม้!!! เป็นไปได้สำหรับราคาน้ำมัน 40 บาท/ลิตร หลังจากที่ปรับตัวกันมาอย่างต่อเนื่อง แม้ซาอุดิอารเบียประเทศมหาอำนาจด้านทรัพยากรน้ำมันจะมีทีท่าในการเพิ่มกำลังการผลิตแล้วก็ตาม แต่ราคายังล่วงหน้ายังไม่ขยับตามเท่าไร
ที่สำคัญที่สุดคงเป็นเรื่องของเงินเฟ้อ และราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากที่ว่าแล้ว เหล็ก เองได้รับผลกระทบโดยตรงด้วยเช่นกัน
.
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การปรับราคาแนะนำสินค้าเหล็กทุกประเภทขึ้นกิโลกรัมละ7 บาท ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นราคาที่สูงขึ้นกว่าราคาที่มีการปรับขึ้นครั้งก่อนในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 โดยเฉลี่ยถึงกว่าร้อยละ 23 ส่งผลให้ดัชนีราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้มีการปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 44.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งราคาที่ปรับสูงขึ้นนี้ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างอย่างหนัก
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้วิเคราะห์ถึงแนวโน้มของราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 โดยมีประเด็นสำคัญคือ การที่ไทยยังไม่มีอุตสาหกรรมผลิตเหล็กต้นน้ำในประเทศ จึงจำเป็นต้องนำเข้าเหล็กกึ่งวัตถุดิบเข้ามาเพื่อนำมาผลิตต่อในขั้นกลางและขั้นปลาย ทำให้ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาเหล็กในตลาดโลกโดยตรง ซึ่งความผันผวนดังกล่าวเป็นผลมาจากแรงหนุนทั้งด้านบวกและด้านลบดังนี้
ปัจจัยที่จะกดดันให้ราคาเหล็กเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อราคาเหล็กนั้นจะดูจาก 2 ส่วนคือ ต้นทุนในการผลิต อุปสงค์ในตลาด โดยจากราคาถ่านหิน ต้นทุนหลักในการผลิตมีทิศทางเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากอุปทานที่ตึงตัวที่อาจจะกินเวลานานถึงประมาณ 18 เดือนต่อจากนี้ ซึ่งได้มีคาดการณ์ว่าตัวเลขราคาถ่าน coking coal ของปีนี้อาจขึ้นไปสูงถึง 300 ดอลลาร์ฯต่อตัน แสดงว่าแนวโน้มทิศทางราคาถ่านหินในช่วงครึ่งหลังของปีนี้น่าจะสูงขึ้นอีก
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันต้นทุนหลักในการขนส่งยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูงและมีโอกาสขึ้นไปได้อีก ซึ่งจะเห็นได้จากราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า ไนเมกซ์ส่งมอบเดือนกรกฎาคมล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2551 ได้ลดลงมาปิดที่ 131.31 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมาได้พุ่งสูงขึ้นและทำสถิติปิดสูงสุดที่ 138.54 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล เนื่องมาจากค่าเงินดอลลาร์ฯที่อ่อนตัวลง และสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ชะลอตัว รวมถึงแรงหนุนจากข่าวความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทว่าราคาน้ำมันยังคงมีปัจจัยเสี่ยงกดดันให้ราคาสูงขึ้นได้อีกนอกจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น เช่น ปัจจัยด้านฤดูกาลขับรถท่องเที่ยวของสหรัฐฯ และฤดูมรสุมในเขตอ่าวเม็กซิโกที่กำลังจะมาถึงในช่วงครึ่งหลังปีนี้
อุปสงค์ที่ทำให้ราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้น
อุปสงค์ของจีนที่เร่งตัวขึ้นหลังเกิดเหตุธรณีพิบัติภัย ทำให้จีนจำเป็นที่จะต้องใช้เหล็กจำนวนมากในการบูรณะซ่อมแซมอาคารและระบบสาธารณูปโภคต่างๆ รวมถึงอาจมีการพิจารณาปรับปรุงอาคารและและระบบสาธารณูปโภคเดิมให้ปลอดภัยขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อุปสงค์ของเหล็กสูงขึ้นในระยะยาว
การเก็งกำไรในตลาดโภคภัณฑ์หลังค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงอาจทำให้ราคาเหล็กในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นได้ เนื่องจากความวิตกเรื่องราคาถ่านหินและวัตถุดิบเหล็กที่เป็นปัจจัยการผลิตจะเพิ่มสูงขึ้น
ปัจจัยที่จะส่งผลให้ราคาเหล็กลดลง
แนวโน้มเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคที่ชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 ทั้งจากภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในหลายๆประเทศ ส่งผลกระทบต่อการลงทุนต่างๆที่อาจชะลอตัวลง ซึ่งในส่วนของประเทศไทยเองยังต้องเผชิญกับปัญหาความมั่นคงของเสถียรภาพของรัฐบาลซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลให้อุปสงค์เหล็กมีแนวโน้มชะลอตัวลงด้วย
จากปัจจัยข้างต้นทำให้แนวโน้มราคาเหล็กในตลาดโลกช่วงครึ่งหลังของปี 2551 อาจจะยังมีความผันผวน แต่คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 นี้ ทิศทางของราคาเหล็กในตลาดโลกน่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงเนื่องจากปัจจัยกดดันราคาต่างๆดังกล่าว อย่างไรก็ตามคาดว่าระดับราคาไม่น่าที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่มากเหมือนกับในช่วงที่ผ่านมา จากปัจจัยเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกดดันต่ออุปสงค์เหล็กในระดับหนึ่งอยู่
ผลกระทบต่อธุรกิจไทย
สำหรับผลต่อธุรกิจไทยนั้นคาดว่าราคาสินค้าเหล็กที่อาจจะยังคงอยู่ในระดับสูงในช่วงครึ่งหลังของปียังน่าจะส่งผลต่อต้นทุนของหลายธุรกิจ โดยเฉพาะในหมวดก่อสร้างซึ่งได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้นมากทั้งต้นทุนสินค้าเหล็กและต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนั้นแนวทางหนึ่งที่อาจจะบรรเทาปัญหาดังกล่าวได้ คือ การวางแผนร่วมกันทั้งทางภาครัฐและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินถึงทิศทางแนวโน้มของราคา และเพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถวางแผนล่วงหน้าในการรองรับปัญหาราคาสินค้าเหล็กที่สูงขึ้นดังกล่าว
ที่สำคัญที่สุดคงเป็นเรื่องของเงินเฟ้อ และราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งนอกเหนือจากที่ว่าแล้ว เหล็ก เองได้รับผลกระทบโดยตรงด้วยเช่นกัน
.
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การปรับราคาแนะนำสินค้าเหล็กทุกประเภทขึ้นกิโลกรัมละ7 บาท ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นราคาที่สูงขึ้นกว่าราคาที่มีการปรับขึ้นครั้งก่อนในเดือนกุมภาพันธ์ 2551 โดยเฉลี่ยถึงกว่าร้อยละ 23 ส่งผลให้ดัชนีราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้มีการปรับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 44.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งราคาที่ปรับสูงขึ้นนี้ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างอย่างหนัก
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้วิเคราะห์ถึงแนวโน้มของราคาเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็กในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 โดยมีประเด็นสำคัญคือ การที่ไทยยังไม่มีอุตสาหกรรมผลิตเหล็กต้นน้ำในประเทศ จึงจำเป็นต้องนำเข้าเหล็กกึ่งวัตถุดิบเข้ามาเพื่อนำมาผลิตต่อในขั้นกลางและขั้นปลาย ทำให้ได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาเหล็กในตลาดโลกโดยตรง ซึ่งความผันผวนดังกล่าวเป็นผลมาจากแรงหนุนทั้งด้านบวกและด้านลบดังนี้
ปัจจัยที่จะกดดันให้ราคาเหล็กเพิ่มสูงขึ้น
สำหรับปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อราคาเหล็กนั้นจะดูจาก 2 ส่วนคือ ต้นทุนในการผลิต อุปสงค์ในตลาด โดยจากราคาถ่านหิน ต้นทุนหลักในการผลิตมีทิศทางเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากอุปทานที่ตึงตัวที่อาจจะกินเวลานานถึงประมาณ 18 เดือนต่อจากนี้ ซึ่งได้มีคาดการณ์ว่าตัวเลขราคาถ่าน coking coal ของปีนี้อาจขึ้นไปสูงถึง 300 ดอลลาร์ฯต่อตัน แสดงว่าแนวโน้มทิศทางราคาถ่านหินในช่วงครึ่งหลังของปีนี้น่าจะสูงขึ้นอีก
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันต้นทุนหลักในการขนส่งยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับสูงและมีโอกาสขึ้นไปได้อีก ซึ่งจะเห็นได้จากราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า ไนเมกซ์ส่งมอบเดือนกรกฎาคมล่าสุดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2551 ได้ลดลงมาปิดที่ 131.31 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมาได้พุ่งสูงขึ้นและทำสถิติปิดสูงสุดที่ 138.54 ดอลลาร์ฯต่อบาร์เรล เนื่องมาจากค่าเงินดอลลาร์ฯที่อ่อนตัวลง และสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ชะลอตัว รวมถึงแรงหนุนจากข่าวความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ทว่าราคาน้ำมันยังคงมีปัจจัยเสี่ยงกดดันให้ราคาสูงขึ้นได้อีกนอกจากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น เช่น ปัจจัยด้านฤดูกาลขับรถท่องเที่ยวของสหรัฐฯ และฤดูมรสุมในเขตอ่าวเม็กซิโกที่กำลังจะมาถึงในช่วงครึ่งหลังปีนี้
อุปสงค์ที่ทำให้ราคาเหล็กปรับตัวสูงขึ้น
อุปสงค์ของจีนที่เร่งตัวขึ้นหลังเกิดเหตุธรณีพิบัติภัย ทำให้จีนจำเป็นที่จะต้องใช้เหล็กจำนวนมากในการบูรณะซ่อมแซมอาคารและระบบสาธารณูปโภคต่างๆ รวมถึงอาจมีการพิจารณาปรับปรุงอาคารและและระบบสาธารณูปโภคเดิมให้ปลอดภัยขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อุปสงค์ของเหล็กสูงขึ้นในระยะยาว
การเก็งกำไรในตลาดโภคภัณฑ์หลังค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงอาจทำให้ราคาเหล็กในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นได้ เนื่องจากความวิตกเรื่องราคาถ่านหินและวัตถุดิบเหล็กที่เป็นปัจจัยการผลิตจะเพิ่มสูงขึ้น
ปัจจัยที่จะส่งผลให้ราคาเหล็กลดลง
แนวโน้มเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคที่ชะลอตัวลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 ทั้งจากภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นในหลายๆประเทศ ส่งผลกระทบต่อการลงทุนต่างๆที่อาจชะลอตัวลง ซึ่งในส่วนของประเทศไทยเองยังต้องเผชิญกับปัญหาความมั่นคงของเสถียรภาพของรัฐบาลซึ่งมีผลต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวอาจส่งผลให้อุปสงค์เหล็กมีแนวโน้มชะลอตัวลงด้วย
จากปัจจัยข้างต้นทำให้แนวโน้มราคาเหล็กในตลาดโลกช่วงครึ่งหลังของปี 2551 อาจจะยังมีความผันผวน แต่คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2551 นี้ ทิศทางของราคาเหล็กในตลาดโลกน่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงเนื่องจากปัจจัยกดดันราคาต่างๆดังกล่าว อย่างไรก็ตามคาดว่าระดับราคาไม่น่าที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่มากเหมือนกับในช่วงที่ผ่านมา จากปัจจัยเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกที่ส่งผลกดดันต่ออุปสงค์เหล็กในระดับหนึ่งอยู่
ผลกระทบต่อธุรกิจไทย
สำหรับผลต่อธุรกิจไทยนั้นคาดว่าราคาสินค้าเหล็กที่อาจจะยังคงอยู่ในระดับสูงในช่วงครึ่งหลังของปียังน่าจะส่งผลต่อต้นทุนของหลายธุรกิจ โดยเฉพาะในหมวดก่อสร้างซึ่งได้รับผลกระทบจากต้นทุนที่สูงขึ้นมากทั้งต้นทุนสินค้าเหล็กและต้นทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนั้นแนวทางหนึ่งที่อาจจะบรรเทาปัญหาดังกล่าวได้ คือ การวางแผนร่วมกันทั้งทางภาครัฐและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินถึงทิศทางแนวโน้มของราคา และเพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถวางแผนล่วงหน้าในการรองรับปัญหาราคาสินค้าเหล็กที่สูงขึ้นดังกล่าว