สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์ – จีน พร้อมทั้ง อียู และสหรัฐฯเตรียมจัดการประชุมเรื่องความปลอดภัยในสินค้าเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยเฉพาะประเด็นหลักการติดตามความเคลื่อนไหวของสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งการปรับปรุงมาตรฐานต่างๆ การศึกษา และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ล่าสุดยอดเกินดุลการค้าเดือนพ.ค.พุ่งแตะ 2.01 แสนล้านดอลล์
รายงานข่าวแจ้งว่า จีน สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) จะจัดการประชุมสุดยอดระดับไตรภาคีที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมในเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปรับปรุงกระบวนการควบคุมความปลอดภัยในสินค้า และผลักดันให้มีการใช้มาตรฐานสินค้าประเภทต่างๆ อาทิ ของเล่น
ทั้งนี้ อียูและจีนยังจะยกระดับเอ็มโอยูด้านความปลอดภัยในสินค้าที่มีอยู่เดิม พร้อมกับยกระดับข้อตกลงที่มีกำหนดจะลงนามในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ในขณะที่อียูและสหรัฐจะผลักดันโครงการร่วมกันกับจีนในเดือนก.ย.นี้ เพื่อพัฒนาความร่วมมือในด้านการควบคุมความปลอดภัย
เมกเลน่า คูเนว่า คณะกรรมาธิการผู้บริโภคของอียู กล่าวว่า ประเด็นหลักๆในปีนี้คือ การติดตามความเคลื่อนไหวของสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งการปรับปรุงมาตรฐานต่างๆ การศึกษา และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ นับตั้งแต่ปีที่แล้ว จีนมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก หลังจากที่มีการถอดสินค้าของจีนออกจากชั้นจำนวนมากจากร้านค้าทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นของเล่นที่พบสารตะกั่วปนเปื้อนอย่างสูง ยาสีฟันปนเปื้อน และอาหารสัตว์เลี้ยงที่เป็นพิษ
ขณะที่ คูเนว่ากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในปีนี้มีความก้าวหน้าอย่างแท้จริง และมีความเป็นไปได้เนื่องจากได้มีการเจรจากันอย่างเปิดเผยและชัดเจน ซึ่งทางการจีนได้ดำเนินการในขอบเขตที่กว้างขวางมากขึ้น เพื่อคุมเข้มการควบคุมความปลอดภัยในสินค้า
รายงานข่าวแจ้งว่า จีนได้ยกเลิกใบอนุญาตการส่งออกโรงงานของเล่น 700 แห่ง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 20% ของบริษัทของเล่นทั้งหมด เนื่องจากสินค้าไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย
คูเนว่ากล่าวว่า เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว วัฒนธรรมแห่งความปลอดภัยยุคใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่า เรื่องความปลอดภัยในสินค้านี้จะไม่มีการประนีประนอม ซึ่งปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นมาโดยตลอดก็คือ การที่หลายฝ่ายไม่สามารถติดตามสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพถึงต้นตอของสินค้า
นอกจากนี้ ยอดเกินดุลการค้าของจีนขยายตัวขึ้นมาอยู่ที่ 2.02 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. สูงขึ้นจากระดับ 1.66 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ส่วนการส่งออกเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 28.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 1.20 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าพุ่งขึ้น 40% แตะระดับ 1.00 แสนล้านดอลลาร์
โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ยอดเกินดุลการค้าอยู่ที่ 7.80 หมื่นล้านดอลลาร์ และการส่งออกในช่วง 5 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 22.9% แตะ 5.45 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้าสูงขึ้น 30.4% แตะ 4.67 แสนล้านดอลลาร์
รายงานข่าวแจ้งว่า จีน สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) จะจัดการประชุมสุดยอดระดับไตรภาคีที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมในเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะปรับปรุงกระบวนการควบคุมความปลอดภัยในสินค้า และผลักดันให้มีการใช้มาตรฐานสินค้าประเภทต่างๆ อาทิ ของเล่น
ทั้งนี้ อียูและจีนยังจะยกระดับเอ็มโอยูด้านความปลอดภัยในสินค้าที่มีอยู่เดิม พร้อมกับยกระดับข้อตกลงที่มีกำหนดจะลงนามในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ในขณะที่อียูและสหรัฐจะผลักดันโครงการร่วมกันกับจีนในเดือนก.ย.นี้ เพื่อพัฒนาความร่วมมือในด้านการควบคุมความปลอดภัย
เมกเลน่า คูเนว่า คณะกรรมาธิการผู้บริโภคของอียู กล่าวว่า ประเด็นหลักๆในปีนี้คือ การติดตามความเคลื่อนไหวของสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งการปรับปรุงมาตรฐานต่างๆ การศึกษา และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ นับตั้งแต่ปีที่แล้ว จีนมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก หลังจากที่มีการถอดสินค้าของจีนออกจากชั้นจำนวนมากจากร้านค้าทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นของเล่นที่พบสารตะกั่วปนเปื้อนอย่างสูง ยาสีฟันปนเปื้อน และอาหารสัตว์เลี้ยงที่เป็นพิษ
ขณะที่ คูเนว่ากล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ในปีนี้มีความก้าวหน้าอย่างแท้จริง และมีความเป็นไปได้เนื่องจากได้มีการเจรจากันอย่างเปิดเผยและชัดเจน ซึ่งทางการจีนได้ดำเนินการในขอบเขตที่กว้างขวางมากขึ้น เพื่อคุมเข้มการควบคุมความปลอดภัยในสินค้า
รายงานข่าวแจ้งว่า จีนได้ยกเลิกใบอนุญาตการส่งออกโรงงานของเล่น 700 แห่ง ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 20% ของบริษัทของเล่นทั้งหมด เนื่องจากสินค้าไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย
คูเนว่ากล่าวว่า เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว วัฒนธรรมแห่งความปลอดภัยยุคใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น แต่เห็นได้ชัดว่า เรื่องความปลอดภัยในสินค้านี้จะไม่มีการประนีประนอม ซึ่งปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้นมาโดยตลอดก็คือ การที่หลายฝ่ายไม่สามารถติดตามสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพถึงต้นตอของสินค้า
นอกจากนี้ ยอดเกินดุลการค้าของจีนขยายตัวขึ้นมาอยู่ที่ 2.02 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ค. สูงขึ้นจากระดับ 1.66 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนเม.ย. ส่วนการส่งออกเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 28.1% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 1.20 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่การนำเข้าพุ่งขึ้น 40% แตะระดับ 1.00 แสนล้านดอลลาร์
โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ยอดเกินดุลการค้าอยู่ที่ 7.80 หมื่นล้านดอลลาร์ และการส่งออกในช่วง 5 เดือนแรกเพิ่มขึ้น 22.9% แตะ 5.45 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้าสูงขึ้น 30.4% แตะ 4.67 แสนล้านดอลลาร์
