ฟีเวอร์ติดต่อกันมาหลายอาทิตย์สำหรับกองทุนพันธบัตรเกาหลี แต่ใช่ว่าช่วงนี้จะมีกองทุนประเภทนี้ออกมาอย่างเดียว เพราะที่ผ่านมาบลจ.ต่างๆ พยายามค้นหาสินค้าที่คิดว่าเหมาะกับนักลงทุนไทยมาให้เลือกอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว นอกเหนือจากกองทุนที่ความเสี่ยงต่ำ และตีมมาติกฟันด์แล้วกองทุนที่น่าสนใจอีกประเภทหนึ่ง สำหรับนักลงทุนที่คิดว่าตลาดหุ้นบ้านเราจะเป็นอีกโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนได้ดีในอนาคต โดยที่ไม่อยากเผชิญกับความผันผวนของมัน และแน่นอนต้องมั่นใจในเรื่องของเงินต้นด้วยว่าจะไม่หดหายไปไหนจากความผันผวนนี้
วันนี้"MutualFund IPO"จึงอยากขอแนะนำกองทุนใหม่ที่พึ่งเปิดขายในช่วงก่อนสงกรานต์ และมีนโยบายครอบคลุมความต้องการดังกล่วเอาไว้ อย่าง “กองทุนรวมออมสิน M-GSB "เพื่อเป็นอีกทางเลือกสำหรับนักลงทุนไว้พิจารณากันอีกหนึ่งกองทุน ทั้งนี้ กองทุนรวมออมสิน มีมูลค่าโครงการ 7,500 ล้านบาท อายุโครงการ 5 ปี โดยแบ่งหน่วยลงทุนเป็น 2 ประเภทเหมือนกับกองทุนวายุภักษ์อ 1 คือ หน่วยลงทุนจำนวน 1,875 ล้านบาทสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก.ซึ่งเป็นบุคคลทั่วไปรวมถึงนิติบุคคล หรือประมาณร้อยละ 25 ของหน่วยลงทุนทั้งหมด ส่วนหน่วยลงทุนอีก 5,625 ล้านบาทสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข.ได้แก่ธนาคารออมสินหรือประมาณมากกว่าร้อยละ 75 ของจำนวนหน่วยลงทุนทั้งหมด
สำหรับจุดเด่นของกองทุนนี้จะเป็นกองทุนคุ้มครองเงินต้น ที่มีผลตอบแทนขั้นต่ำถึง 3% สำหรับนักลงทุนประเภท ก.และอาจจะสูงถึง 9% ได้ นอกจากนี้กองทุนยังมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก จะได้รับเงินปันผลร้อยละ 3 ของเงินลงทุนก่อน หันมาดูเกณฑ์การจ่ายผลตอบแทนของกองทุนนี้กันบ้าง โดยนโยบายการจ่ายผลตอบแทนของกองทุนจะจ่ายตามประเภทของนักลงทุน ก . และ ข. ซึ่งนักลงทุนรายย่อยประเภท ก. ที่ถือหน่วยลงทุนจนครบอายุโครงการจะได้รับผลตอบแทนในสัดส่วนจากผลกำไรตั้งแต่ 0-0.75% ในอัตราส่วน 100% ผลกำไรตั้งแต่ 0.75%-3.75% ในสัดส่วน 25% ต่อ75% ผลกำไรตั้งแต่ 3.75%-5.89% ในสัดส่วน 35%ต่อ65% และผลกำไรตั้งแต่ 5.89% ขึ้นไปในสัดส่วน 5%ต่อ95%
พิชิต อัครทิพย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) บอกถึงกองทุนนี้ว่า เป็นอีกกองทุนที่จะเป็นทางเลือกสำหรับนักลงทุน ซึ่งกองทุนนี้เป็นกองทุนคุ้มครองเงินต้น ซึ่งคาดว่าจะมีผลตอบแทนขั้นต่ำให้ 3% ต่อ รวมถึงจะมีการจ่ายเงินปันผลให้อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งอีกด้วย โดยหากเปรียบเทียบกับกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 จะเห็นว่ากองทุนรวม M-GSB มีลักษณะกองทุนใกล้เคียงกัน แต่กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 ซึ่งมีอายุโครงการ 10 ปี และเหลืออายุโครงการมากกว่า 6 ปี ขณะที่กองทุนรวม M-GSB มีอายุโครงการ 5 ปี ดังนั้น กองทุนรวม M-GSB จึงมีความน่าสนใจ เนื่องจากมีระยะเวลาการลงทุนที่น้อยกว่า
สำหรับการลงทุนของกองทุนนี้จะเป็นกองทุนรวมผสมแบบไม่กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุน ซึ่งในช่วงแรกจะลงทุนในหุ้นที่ธนาคารออมสินถือเป็นหลัก แต่จะมีการปรับเปลี่ยนการลงทุนได้ตามสถานการณ์ของตลาด โดยธนาคารออมสินจะรับซื้อคืนทรัพย์สินในราคาต้นทุนตามที่ประเมิณไว้ตอนจัดตั้งกองทุนทำให้โครงสร้างของการคุ้มครองเงินต้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
“กองทุนนี้จะเน้นลงทุนในหุ้น หลักๆช่วงแรกจะเป็นหุ้นที่ธนาคารออมสินถืออยู่ แต่อาจมีการปรับเปลี่ยนบ้าง โดยหุ้นที่มีอยู่ส่วนใหญ่จะเป็นรัฐวิสาหกิจ และเป็นหุ้นดีในตลาดโดยโครงสร้างการคุ้มครองเงินต้นของกองทุนนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงลดลงของมูลค่าสินทรัพย์ เนื่องจากจะมีการรับซื้อคืนหุ้นที่รับมาจากธนาคารออมสินในราคาทุน ซึ่งเป็นกลไกที่ไม่ว่าสินทรัพย์จะมีราคาลดลงหรือไม่จะมีราคาทุนในการขายคืนเป็นการค้ำประกันอยู่ อย่างไรก็ตามในส่วนของผลตอบแทนน่าจะไม่ไดรับผลกระทบเช่นกัน เนื่องจากมูลค่าหุ้นที่รับมอบมาน่าจะครอบคลุมในส่วนนี้ได้
ขณะที่ วิศิษฐ์ วงศ์รวมลาภ กรรมการธนาคารออมสิน รักษาการแทน ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้บอกถึงกองทุนนี้ว่า จะเป็นการส่งเสริมการออมให้กับประชาชนได้ โดยหลังจากที่ธนาคารออมสินได้มุ่งส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงินให้แก่ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง การตั้งกองทุนนี้ถือเป็น 1 ใน 4 นโยบายตามกรอบแผนยุทธศาสตร์การดำเนินงานปี 2551-2555 ของธนาคาร และจากอายุโครงการของกองทุนรวมออมสิน 5 ปี น่าจะเป็นทางเลือกอีกช่องทางหนึ่งแก่ประชาชนในการออมเงินที่นอกเหนือจากเงินฝาก
โดยกองทุนที่ตั้งขึ้นจะมีรูปแบบคล้ายกับกองทุนวายุภักษ์ 1 เนื่องจากพบว่าการดำเนินงานของกองทุนวายุภักษ์ที่ผ่านมาประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี และสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนไปแล้วกว่า 100% โดยที่นักลงทุนทั่วไปยังได้รับการค้ำประกันผลตอบแทนจากภาครัฐในอัตรา 3% อีกด้วย ซึ่งกองทุนรวมออมสินจะมีการการจ่ายผลตอบแทนขั้นต่ำเฉลี่ยในอัตรา 3% ต่อปีเช่นกัน
สำหรับนโยบายการลงทุนในเบื้องต้นจะเป็นการโอนหุ้นจากพอร์ตของธนาคารออมสินประมาณ 6 พันล้านบาท เพื่อให้บลจ.เอ็มเอฟซี เป็นผู้บริหาร ส่วนที่เหลือจะเป็นการเปิดขายหน่วยลงทุนสำหรับนักลงทุนทั่วไป
"การตั้งกองทุนนี้ขึ้นมานอกจากจะเพิ่มทางเลือกในการออมให้นักลงทุนแล้ว เริ่มต้นจะมีการโอนหุ้นบางส่วนในพอร์ตการลงทุนของธนาคารประมาณ 6 พันล้านบาทจากปัจจุบันที่มีอยู่ประมาณ 2 หมื่นล้านบาท มาเป็นสินทรัพย์ของกองทุน เนื่องจากเห็นว่าการบริหารพอร์ตการลงทุนน่าจะมีผู้เชี่ยวชาญมาคอยดูแล"วิศิษฐ์กล่าว
ส่วนหลักเกณฑ์การเลือกหุ้นจากพอร์ตของธนาคารให้บลจ.เอ็มเอฟซีบริหารในกองทุนนี้ เบื้องต้นจะต้องดูในเรื่องเงื่อนไขก่อนว่าติดกฎเกณฑ์ในอะไรบ้าง แต่จะต้องเป็นหุ้นที่มีสภาพคล่องในตลาด และพอจะบริหารได้ ซึ่งอาจะเป็นหุ้นที่มีความแอคทีฟมาก เพราะเชื่อว่ามีผู้เชี่ยวชาญดูแลน่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดี โดยหุ้นที่ธนาคารมีอยู่ในปัจจุบันเองยังสร้างผลตอบแทนจากเงินปันผลไปแล้วไม่น้อยกว่า 4%
ฟังความเห็นของผู้บริหารกองทุน และสถาบันที่ร่วมมือกันเปิดขายกองทุนนี้แล้ว นักลงทุนน่าจะได้ข้อมูลไปพอสมควร ส่วนที่ผู้สนใจคงจะต้องรออีกสักพัก เนื่องจากกองทุนนี้ได้เปิดขายให้กับบุคคลทั่วไปครั้กแรกในช่วงวันทื่ 4-9 เมษายนที่ผ่านมาไปแล้ว แต่ทาง บลจ.เอ็มเอฟซีเองได้เตรียมแผนที่จะนำหน่วยลงทุนของกองทุนรวม M-GSB เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เอาไว้แล้ว ยังไงทนรอกันอีกสักหน่อย และจะเป็นเมื่อไรทางทีมงานจะรีบคาบข่าวมาบอกให้อย่างรวดเร็วแน่นอน