xs
xsm
sm
md
lg

พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นิทานการลงทุน
ต้นกล้ากับกระปุกออมสิน

......ต่อจากฉบับที่แล้ว

“ก๊อก ก๊อก ก๊อก” ต้นกล้าเคาะประตูห้องผู้จัดการ ก่อนใช้มือผลักประตูเข้าไป...เดี๋ยวนี้ ห้องผู้จัดการสาขาแบงก์ส่วนใหญ่เป็นกระจกโปร่งใสกันหมดแล้ว “ขออนุญาตครับ...เห็นเลขาเจ้านายบอกว่าอยากพบผมเหรอครับ” ต้นกล้าไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเรียกผู้จัดการว่าเจ้านายตั้งแต่เมื่อไหร่
“อืม...ใช่! นั่งลงก่อนซิ…ก็ไม่มีอะไรมากหรอกนะ แค่อยากจะฝากฝังให้ช่วงนี้ช่วยดูแลลูกค้าเพิ่มขึ้นหน่อยก็เท่านั้นแหละ” ต้นกล้าทำหน้าเสียเล็กน้อย...ก่อนจะเริ่มทบทวนตัวเองว่า ทำอะไรบกพร่องไปหรือเปล่า เขาคิดในใจ สุดท้ายก็ได้คำตอบว่า ไม่มีแน่นอน!
“อย่าเพิ่งทำหน้าอย่างนั้นซิ...ที่พูดแบบนั้นไปไม่ได้หมายความว่าคุณทำอะไรผิดหรอกนะ” ต้นกล้ายิ้มได้ “เห็นว่าช่วงนี้ มีลูกค้าสนใจซื้อกองทุนรวมเยอะ ก็เลยอยากให้คุณใช้ความรู้ความสามารถที่มี ดูแลลูกค้าให้ดีเท่านั้นเอง”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาครับผม...เจ้านายวางใจได้ เพราะลูกค้าที่ซื้อกองทุนรวมส่วนใหญ่ ก็เป็นคนที่เข้าใจการลงทุนในกองทุนรวมดีอยู่แล้ว กลุ่มนี้ไม่มีปัญหา...แต่ลูกค้าใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยลงทุนเลย ก็อาจจะใช้เวลาทำความเข้าใจกันหน่อย”
“ดีแล้วละ...สิ่งสำคัญก่อนจะขายกองทุนต้องให้ลูกค้าเข้าใจอย่างแท้จริงซะก่อน” เจ้านายยิ้มเล็กน้อย ตอนนี้ภูเขาที่ตั้งอยู่ในอกเขาได้ถูกยกออกไปแล้ว “อืมม์...ผมมีเรื่องอยากจะถามคุณหน่อย” ภูเขาลูกใหญ่กลับเข้ามาอยู่ในอกต้นกล้าอีกครั้ง “คุณรู้จัก พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากหรือเปล่า?”
ต้นกล้าโล่งอก “พอรู้จักครับ...แต่ก็ยัง...เออออ....ไม่เข้าใจลึกซึ้งสักเท่าไหร่ครับ”
“นี้แหละที่ผมอยากคุยกับคุณวันนี้...ทีแรกผมตั้งใจจะอธิบายเรื่องนี้ให้พนักงานทุกคนเข้าใจพร้อมกันเลยทีเดียว แต่ผมเห็นว่าคุณใกล้ชิดกับลูกค้ามากที่สุด ก็เลยอยากให้เริ่มทำความเข้าใจก่อน เผื่อลูกค้าถามจะได้ตอบได้” ต้นกล้ายิ้มรับความสำคัญที่เจ้านายมอบให้
“จริงๆ แล้วเรื่อง พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากไม่มีอะไรซับซ้อนหรอก วัตถุประสงค์หลักๆ ของของพ.ร.บ.ฉบับนี้ คือ ให้ยกเลิกการคุ้มครองเงินฝากจากปัจจุบันที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินคุ้มครอง หรือจ่ายคืนเงินฝากให้เต็มจำนวนทั้ง 100% เป็นให้สถาบันคุ้มครองเงินฝากที่จะจัดตั้งขึ้นคุ้มครองเงินฝากเพียงบางส่วน ตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น และเป็นการคุ้มครองต่อรายต่อสถาบันการเงินแต่ละแห่ง รวมทั้งเป็นการคุ้มครองเงินฝากในประเทศทุกประเภทที่เป็นเงินบาท...ซึ่งวงเงินคุ้มครอง หรือการจ่ายเงินให้แก่ผู้ฝากเงิน กฎหมายกำหนดไว้คุณอาจจะเคยได้ยินมาบ้างนะ!”
“ครับ”
“สำหรับปีแรกกฏหมายนี้ จะคุ้มครองเงินฝากหรือจ่ายคืนเงินให้ประชาชนผู้ฝากเงิน ในกรณีสถาบันการเงินล้ม หรือเกิดปัญหาเต็มจำนวนตามวงเงินที่ฝาก ส่วนปีที่ 2 ให้ลดลงมาคุ้มครองเพียง 100 ล้านบาท ในปีที่ 3 ลดลงมาคุ้มครองเหลือ 50 ล้านบาท ในปีที่ 4 คุ้มครองเพียง 10 ล้านบาท และปีที่ 5 เป็นต้นไปความคุ้มครองเงินฝากจะลดลงเพียง 1 ล้านบาท”
“ทำไมต้องเลิกคุ้มครองด้วยครับ” ต้นกล้าคาใจเป็นอย่างยิ่ง
“อืมม์...หลักการและเหตุผลของพ.ร.บ. ฉบับนี้...ก็อย่างที่เรารู้อยู่แล้วใช่ไหมว่า การฝากเงินกับสถาบันการเงินเป็นประโยชน์ ในการออมเงินของผู้ฝากเงินในอนาคต และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศ แต่ในปัจจุบัน รัฐบาลเขาคุ้มครองเงินฝากในสถาบันการเงินเต็มจำนวน ซึ่งหลักการดังกล่าวเป็นผลให้เกิดภาระการคลังแก่รัฐมากเกินไป...เราจำเหตุการณ์ที่สถาบันการเงินล้มไปในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี'40 ได้หรือเปล่า”
“จำได้ครับ”
“นั้นแหละ...เหตุการณ์ครั้งนั้นกระทบต่อภาระการคลังของเประเทศเป็นอย่างมาก ดังนั้น เพื่อเป็นลดภาระการคลังจึงมีการนำระบบการคุ้มครองเงินฝากแบบจำกัดวงเงินมาใช้ พร้อมกำหนดกลไกต่างๆ ในการคุ้มครองเงินฝากอย่างเป็นระบบ ซึ่งการจัดการอย่างเป็นระบบนี้เอง จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบสถาบันการเงิน และเสริมสร้างความมั่นคง และเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงินภาพรวม”
“แล้วมันจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบบสถาบันการเงินยังไงครับ ในเมื่อผู้ฝากเงินเองก็ไม่มีความปลอดภัยแล้ว”
“เป็นคำถามที่ดีมาก...ก็หลังจากสถาบันการเงินเหล่านี้ไม่รับประกันเงินฝากให้ผู้ฝากเงินหรือรับประกันแค่ 1ล้านบาทแล้ว มันก็จะเป็นเหมือนแรงกระตุ้นให้สถาบันการเงินทั้งหมดปรับตัว เร่งสร้างฐานะการเงินของตัวเองให้มั่นคง ปรับปรุงการบริหารงานให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส เพื่อให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด...พูดง่ายๆ ก็คือ เป็นการสร้างความมั่นใจให้ผู้ฝากเงินเห็นว่า เงินที่ฝากไว้ได้รับการดูแลและบริหารจัดการเป็นอย่างดี”
“เหมือนเป็นการกระตุ้นในสถาบันการเงินเหล่านี้พัฒนาตัวเอง และสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง...ใช่ไหมครับ?”
“ถูกแล้ว...ใครที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ฝากเงินได้มากที่สุด ก็มีโอกาสที่ลูกค้าจะฝากเงินกับสถาบันการเงินนั้นๆ ต่อ
...
ซึ่งในประเด็นนี้เอง เราจะเห็นสถาบันการเงินเหล่านี้ก็แข่งขันกันเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้าจะมากขึ้น รวมถึงการแนะนำทางเลือกให้ลูกค้าใช้บริการผ่านบริษัทในเครือ เช่น บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือบริษัทประกันชีวิต...ตรงนี้แหละที่กองทุนรวมจะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วย...ทีนี้เข้าใจหรือยังว่าทำไมผมถึงต้องอธิบายให้คุณรู้เป็นคนแรก”
“ชัดเจนแล้วครับ...แล้วพ.ร.บ นี้จะมีผลเมื่อไหร่ครับ”
“อืมม์เท่าที่ผมจำได้...พ.ร.บ.สถาบันคุ้มครองเงินฝาก พ.ศ.2551 ได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2551ที่ผ่านมา ดังนั้น พ.ร.บ.ฉบับนี้ก็จะมีผลใช้บังคับหลังพ้น 180 วัน หรือ 6 เดือน นับจากวันที่ 13 กุมภาพันธ์...นั้นก็แสดงว่า น่าจะมีผลกลางเดือนสิงหาคมปีนี้...มีอะไรสงสัยหรือเปล่า?”
“ตอนนี้ยังไม่มีครับ”
“ถ้างั้นผมฝากคุณดูแลและทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ลูกค้าด้วยนะ...เพราะผมเชื่อว่าหลังจากนี้คุณจะได้รับคำถามเกี่ยวกับไอ้ พ.ร.บ คุ้มครองเงินฝากนี้อีกเยอะเลยละ”
“ยินดีครับผม” ต้นกล้าตอบรับด้วยความเต็มใจ พลางคิดในใจว่า...ต่อไปนี้งานเข้าอีกเยอะ
“เอาละ...ผมคงมีเรื่องคุยกับคุณเท่านี้ ไปทำงานต่อได้แล้วครับ”
“ขอบคุณเจ้านายนะครับที่ช่วยอธิบายให้ผมกระจ่างขึ้น...ขอตัวนะครับ”
ตอนนี้ต้นกล้าเข้าใจที่มาที่ไปของ พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝากแล้วในระดับหนึ่ง...เขากลับมานั่งทบทวนข้อมูลที่ผู้จัดการอธิบายให้เขาฟังอีกครั้ง...ตอนนี้ พ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝาก มันลอยอยู่ในหัวของต้นกล้าอยู่ตลอดเวลา...ระหว่างทางกลับบ้าน ต้นกล้าก็เกิดคำถามคาใจอีกข้อ...กระปุกน่าจะรู้เรื่องนี้นะ
ต้นกล้ากลับมาถึงบ้าน...เล่าเรื่องพ.ร.บ.คุ้มครองเงินฝาก ให้พ่อกับแม่ฟัง...แล้วก็เป็นอีกหนึ่งวันที่บ้านนี้ มีหัวข้อสนทนาดีๆ มาเล่าสู่กันฟังบนโต๊ะกินอาหาร
กำลังโหลดความคิดเห็น