xs
xsm
sm
md
lg

ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เอ็มเอไอ แชมป์อันดับ1กองทุนแอลทีเอฟปี50

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทุกๆ สิ้นปีกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (อาร์เอ็มเอฟ)นั้นจะมีความคึกคักเป็นพิเศษ โดยการโหมจัดโปรโมชั่นต่าง ๆ เพื่อถึงดูดใจนักลงทุนให้เข้ามาลงทุนกันเป็นจำนวนมาก และ “Best of Fund” สัปดาห์นี้ จึงขอพามาตรวจแถวผลการดำเนินงานโดยเฉพาะกองทุนแอลทีเอฟว่า ผลการดำเนินงานตลอดปี 2550 ที่ผ่านมา มีกองทุนใดบ้างที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด และน่าสนใจลงทุนบ้าง...

สำหรับกองทุนรวมหุ้นระยะยาวที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับแรก จากการสำรวจข้อมูลของ Lipper ณ วันที่ 28 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา อันดับ 1 คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เอ็มเอไอ ซึ่งบริหารจัดการโดย บลจ.ไทยพาณิชย์ จำกัด กองทุนให้ผลตอบแทน 45.43% สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 19.21%

อันดับ 2  กองทุนเปิดทิสโก้หุ้นระยะยาว ซึ่งบริหารจัดการโดย บลจ. ทิสโก้ ให้ผลตอบแทน 44.44% สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 18.22%

อันดับ 3 กองทุนเปิดเคหุ้นระยะยาวปันผล ของ บลจ. กสิกรไทย ให้ผลตอบแทน 44.44% สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 18.22%

อันดับ 4 กองทุนเปิดเคหุ้นระยะยาว ของบลจ. กสิกรไทย ให้ผลตอบแทน 44.02% สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 17.80%

อันดับ 5 กองทุนเปิด JUMBO 25 ปันผลหุ้นระยะยาว ให้ผลตอบแทน 42.54% สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 16.32%

อันดับ 6 กองทุนเปิดฟินันซ่าหุ้นระยะยาว ของบลจ. ฟินันซ่า ให้ผลตอบแทน 42.35% สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์16.13%

อันดับ 7 กองทุนเปิดกรุงไทยหุ้นระยะยาว ของบลจ. กรุงไทย ให้ผลตอบแทน39.49% สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 13.27%

อันดับ 8 กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย บรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว ของบลจ. ไอเอ็นจี ให้ผลตอบแทน 39.15% สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 12.93%

อันดับ 9 กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย Big Cap ปันผล หุ้นระยะยาว ของบลจ. ไอเอ็นจี ให้ผลตอบแทน 39.02% สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 12.80%

อันดับ 10 กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีเพิ่มค่า หุ้นระยะยาว ให้ผลตอบแทน 38.82% สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ 12.60%

ทั้งนี้ ในช่วงปี 2550 การลงทุนในตลาดหัลกทรัพย์ ให้ผลตอบแทนทั้งปีอยู่ที่ 26.22%

แชมป์เผยกลยุทธ์
กำพล อัศวกุลชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยถึงกลยุทธคว้าแชมป์กองทุนแอลทีเอฟปี 2550 มาครองได้ว่า ในปีที่ผ่านมา ผู้จัดการกองทุนต่างติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยบริษัทจะมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตของการลงทุนอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเฉลี่ยการปรับพอร์ตแล้วจะเป็นไตรมาสละครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมากที่สุด

นอกจากนี้แล้ว ผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์จะต้องมีการประชุมกันอย่างใกล้ชิดอีกด้วย ว่าผลการดำเนินงานในขณะนั้นเป็นอย่างไร โดยจะดูกันทุก ๆ สัปดาห์ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกัน ซึ่งตรงนี้ถือได้ว่าทำให้เราสามารถสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนได้จนสามารถประสบความสำเร็จได้จนถึงทุกวันนี้

กำพล บอกอีกว่า ในปีนี้บริษัทได้ทำการรุกตลาดกองทุนแอลทีเอฟตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนได้ทำการประชุมปรึกษาหารือ เพื่อหากลยุทธ์ใหม่ ๆ เข้ามาเสริมให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น เนื่องจากในปีที่ผ่านมาบริษัทได้ทำการตรวจสอบพบว่า นักลงทุนอีกหลายรายที่ยังไม่รู้จักกองทุนดังกล่าว และยังไม่รู้ว่ากองทุนดังกล่าวสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้ด้วย ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจะเร่งทำการตลาดตั้งแต่ต้นปี โดยการเข้าไปให้ความรู้ความเข้าใจแก่นักลงทุนให้มากขึ้น

สำหรับกองทุนแอลทีแอฟให้ปีที่ผ่าน บริษัทสร้างฐานลูกค้าใหม่เพิ่มได้ถึง 15,000 ราย จากฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้วทั้งสิ้น 29,000 ราย ซึ่งถือได้ว่าในช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จต่อกองทุนดังกล่าวเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เอ็มเอไอ เน้นลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี มั่นคง และมีแนวโน้มในการเจริญเติบโตสูง ส่วนที่เหลือจะลงทุนในหลักทรัพย์ของบริษัทที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ตลอดจนตราสารการเงิน โดยจะลงทุนในตราสารแห่งทุนประเภทหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 65% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม และลงทุนในหุ้นสามัญที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย็ เอ็มเอไอ โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชี ไม่เกิน 90% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม

ทั้งนี้ อาจพิจารณาลงทุนหรือมีไว้ซึ่งสัญญาซื้อขายล่วงหน้า โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุน และจะไม่ลงทุนในตราสารที่มีลักษณะของสัญญาซื้อขายล่วงหน้าแฝง (Structured Note)
กำลังโหลดความคิดเห็น