การทดสอบ Suzuki Fronx ใน สปป.ลาว ครั้งนี้ ครอบคลุมทั้งการขับทางไกลบนทางด่วนลาว เส้นทางภูเขา และถนนขรุขระในเมืองท่องเที่ยววังเวียง เพื่อตรวจสอบสมรรถนะจริงทั้งบนทางเรียบและสภาพถนนที่มีลักษณะต่างจากไทยอย่างชัดเจน
ดีไซน์ภายนอก : หน้าตาดุทันสมัยขึ้นชัดเจน
Fronx ใหม่สะดุดตาด้วยแนวทางออกแบบสไตล์ครอสโอเวอร์ ไฟหน้า–ท้าย LED ดีไซน์เฉียบคม กระจังหน้าหกเหลี่ยมกรอบโครเมียม กันชนหน้า–หลังตกแต่งด้วยชิ้นงานพลาสติกสีเงิน เพิ่มความสปอร์ต แรคหลังคาสีเงิน และหลังคาทูโทนสีดำในรุ่น GLX Plus (เพิ่ม 10,000 บาท) ทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมดูพรีเมียมขึ้น
ส่วนท้ายตัวรถคมเข้มด้วยไฟท้าย LED แบบยาวเต็มความกว้างรถ พร้อมใบปัดน้ำฝนหลังติดตั้งมาให้ตั้งแต่โรงงาน งานประกอบโดยรวมเรียบร้อย เก็บชิ้นงานได้ดีเกินคาดในกลุ่มราคาไม่ถึง 8 แสนบาท
ขุมพลัง – 1.5 ลิตร + Mild Hybrid 12V ออกตัวเนียน ประหยัดขึ้น
เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร รหัส K15C ทำงานร่วมกับระบบ Mild Hybrid (SHVS) ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ISG ช่วยสตาร์ท–ช่วยเร่ง พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน 12V
กำลังเครื่องยนต์
• 101 แรงม้า / 135 นิวตันเมตร
• มอเตอร์ไฟฟ้า 3.1 แรงม้า
• เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
แม้ตัวเลขกำลังไม่หวือหวา แต่จุดแข็งคือความนุ่มนวลและการออกตัวที่ไร้แรงสะดุด ระบบ ISG ทำงานแนบเนียนกว่า Mild Hybrid บางค่าย โดยเฉพาะช่วงดับ–ติดเครื่องยนต์
การขับขี่บนเส้นทางเวียงจันทน์–วังเวียง
เส้นทางมอเตอร์เวย์ลาวช่วยให้เห็นการทรงตัวที่ย่านความเร็วสูงอย่างชัดเจน 110–120 กม./ชม. นิ่งกว่าที่คิด
• ช่วงล่างเซ็ตดี คุมตัวถังมั่นใจ แม้ฐานล้อจะสั้น
• ห้องโดยสารเก็บเสียงได้ดี
• เกียร์ 6 สปีดตอบสนองนุ่มนวล โหมด Sport ช่วยให้คันเร่งไวขึ้นเล็กน้อย
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ทำงานนิ่ง
กำลังถือว่า “พอใช้” สำหรับการแซง ไม่ต้องลุ้นมาก เหมาะสำหรับคนขับที่ไม่ได้ต้องการอัตราเร่งจัดจ้านแบบเทอร์โบ
ขับในวังเวียง – ถนนลูกรัง หลุมบ่อ…ผ่านฉลุย
ช่วงล่างหลังแบบทอร์ชันบีมของ Fronx ช่วยซับแรงได้ดี ยางแก้มสูงให้ความนุ่มขึ้นอย่างชัดเจน
• ผ่านหลุมขนาดใหญ่ได้ดี ไม่สะเทือนจนเสียอาการ
• พวงมาลัยคม น้ำหนักดี ให้ความมั่นใจเวลาเลี้ยวเร็ว
• ตัวรถจุดศูนย์ถ่วงต่ำกว่า SUV ทำให้เข้าโค้งมั่นคง
บนทางขรุขระแบบ “ผิวดวงจันทร์” ของวังเวียง รถให้ฟีลเป็นธรรมชาติ ใช้งานง่ายและไม่งอแง
ภายใน :ใช้งานง่าย มาตรฐาน Suzuki ใส่ของจำเป็นครบ
ห้องโดยสารเน้นฟังก์ชันมากกว่าความหวือหวา เบาะคู่หน้าเป็นแบบปรับมือ ใช้งานง่าย พื้นที่โดยสารหลังพอเหมาะสำหรับคนสูงไม่เกิน 175 ซม. วัสดุเบาะนุ่มนั่งสบายกว่ารุ่น XL7 เดิม แต่อาจรู้สึกคับเล็กน้อยเพราะหลังคาลาดลงด้านหลัง
รุ่น GLX Plus จัดเต็มอุปกรณ์
• หน้าจอสัมผัส 9 นิ้ว พร้อม Wireless Apple CarPlay / Android Auto
• Head-up Display ยิงข้อมูลบนแผ่นใสเหนือคอนโซล
• ที่ชาร์จไร้สาย
• พวงมาลัยหุ้มหนัง ปรับได้ 4 ทิศทาง พร้อม Paddle Shift
• กล้องมองภาพรอบคัน / EPB
ตำแหน่งการใช้สวิตช์ต่าง ๆ เป็นแบบแยกปุ่ม ทำให้ใช้งานจริงง่ายกว่าคู่แข่งจากจีนที่รวมทุกอย่างไว้ในหน้าจอ
สรุปผลการทดสอบ : รถเล็กแต่ขับสนุก มั่นใจในชีวิตจริง
จุดเด่น
• คล่องตัวมาก เหมาะกับใช้งานในเมือง
• ช่วงล่างดี พวงมาลัยแม่น
• ระบบความปลอดภัย–เทคโนโลยีครบ โดยเฉพาะรุ่น GLX Plus
• งานประกอบดี ค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษาต่ำ สไตล์ Suzuki
โดยรวม Fronx สอบผ่านบนเส้นทางจริงของลาว เป็นรถที่ให้ความน่าเชื่อถือ ใช้งานง่าย ประหยัด และขับสนุก เหมาะกับคนต้องการรถครอสโอเวอร์เล็กที่ใช้งานยาว ๆ ไม่จุกจิก ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าอะไหล่หรือการซ่อมในระยะทางหลายแสนกิโลเมตร
ราคา
-GL : 689,000 บาท
-GLX : 749,000 บาท
-GLX PLUS : 799,000 บาท
สีตัวถังพิเศษ
-Pearl Snow White : เพิ่ม 5,000 บาท
-Two-tone : เพิ่ม 10,000 บาท
สำหรับใครที่สนใจจองและรับรถตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน – 31 ธันวาคม 2568 รับสิทธิประโยชน์ดังนี้: ดอกเบี้ยพิเศษเริ่มต้น 1.99% ประกันภัยชั้นหนึ่งปีแรก ,บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 ปี ,โปรแกรมพิเศษ SUZUKI FRONX Worry Free Maintenance Package ราคเริ่มต้น 27,999 บาท ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถตามระยะทาง 7 ปี


