ตลาดรถยนต์ไทยยังคงแสดงสัญญาณฟื้นตัว โดย นายศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายรวมเดือนกรกฎาคม 2568 อยู่ที่ 49,102 คัน เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567
แยกตามประเภทพบว่า ตลาดรถยนต์นั่ง ทำผลงานโดดเด่น มียอดขาย 18,760 คัน เพิ่มขึ้นถึง 13.3% สวนทางกับ รถกระบะขนาด 1 ตัน ที่ยอดขายลดลง 8% เหลือ 14,842 คัน ส่วน ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ขายได้ 30,342 คัน เพิ่มขึ้นเพียง 1.7%
ในตลาด รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (HEV) มียอดขายเดือนกรกฎาคม 11,144 คัน เพิ่มขึ้น 24% ส่งผลให้ยอดสะสม 7 เดือนแรกอยู่ที่ 78,354 คัน ครองสัดส่วนกว่า 51% ของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า xEV ทั้งหมด
สำหรับค่ายผู้ผลิต โตโยต้า ยังคงครองตำแหน่งผู้นำตลาด ด้วยยอดขายเดือนกรกฎาคม 18,160 คัน เพิ่มขึ้น 2.1% และยอดสะสม 7 เดือนแรกสูงถึง 132,049 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 37.5% นำโดย Hilux REVO 29,366 คัน และ Yaris ATIV 30,813 คัน ตามมาด้วย อีซูซุ 42,991 คัน และ ฮอนด้า 40,360 คัน
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มตลาดเดือนสิงหาคมยังไม่สดใสนัก เนื่องจากหลายปัจจัยกดดัน ทั้งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก ภาวะการปฏิเสธสินเชื่อที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงการจับตานโยบายเศรษฐกิจและภาษีทรัมป์จากรัฐบาลใหม่ ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อรถ
โดยภาพรวม สถิติเดือนมกราคม–กรกฎาคม 2568 ตลาดรถยนต์ไทยมียอดขายรวม 351,796 คัน ลดลงเล็กน้อย 0.7% จากปีก่อน แต่โตโยต้าก็ยังคงรั้งเบอร์หนึ่งในตลาดต่อเนื่อง ขณะที่คู่แข่งสำคัญอย่างอีซูซุและฮอนด้ายังเจอแรงกดดันจากภาวะตลาดและการแข่งขันที่รุนแรง