ฮุนไดและเกียจับมือ 3 บริษัทแบตเตอรี่ยักษ์ใหญ่ร่วมชาติ ส่งเสริมเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงของอีวีและศักยภาพการแข่งขันของเกาหลีใต้ ย้ำตลาดอีวีโลกคือการแข่งขันของประเทศ
หลังจากริเริ่ม “ทีมเฉพาะกิจด้านความปลอดภัยของแบตเตอรี่” (ทีเอฟที) เมื่อปีที่แล้ว วันศุกร์ที่ผ่านมา (22 ส.ค.) ฮุนได มอเตอร์ และเกีย ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจเพื่อขยายความร่วมมือกับแอลจี อิเนอร์จี โซลูชัน, ซัมซุง เอสดีไอ และเอสเค ออน โดยมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงคมนาคมและกระทรวงอุตสาหกรรมร่วมเป็นสักขีพยาน
คิม ดง-มยอง ซีอีโอแอลจี อิเนอร์จี และประธานพันธมิตรอุตสาหกรรมแบตเตอรี่แห่งเกาหลีใต้ที่มีเป้าหมายในการเสริมสร้างความเป็นผู้นำของเกาหลีใต้ในเทคโนโลยีแบตเตอรี่อีวี เตือนว่า ตลาดอีวีโลกเป็นการแข่งขันของประเทศ ดังนั้น ทั้งภาครัฐและเอกชนจึงต้องทำงานร่วมกันเป็นทีม
ความพยายามร่วมกันของกลุ่มพันธมิตรนี้เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้วที่ฮุนไดและเกียเสนอตั้งทีมเฉพาะกิจด้านความปลอดภัยของแบตเตอรี่ ขณะที่คนเกาหลีใต้กำลังกังวลกับความปลอดภัยของแบตเตอรี่อีวี ภายหลังเกิดเหตุอีวีของเมอร์เซเดส เบนซ์ไฟลุกไหม้เองโดยไม่ได้เสียบสายชาร์จ ขณะจอดอยู่ในลานจอดรถใต้ดินของอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในเมืองอินชอน ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้และรถเสียหายกว่า 140 คัน โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาถึง 8 ชั่วโมงในการควบคุมเพลิง
ระหว่างการลงนามบันทึกความเข้าใจ ฮุนได เกีย และบริษัทแบตเตอรี่ทั้งสามแห่งได้เปิดเผยโครงการต่างๆ ที่แต่ละบริษัทจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเฉพาะทางของตนเอง โดยความร่วมมือนี้จะโฟกัส 5 ด้าน ได้แก่ สิทธิบัตรด้านความปลอดภัย พาสปอร์ตแบตเตอรี่ดิจิทัล คุณภาพการออกแบบ คุณภาพการผลิต และเทคโนโลยีดับเพลิง
สำหรับสิทธิบัตรด้านความปลอดภัยนั้น บริษัททั้ง 5 มีแผนแชร์เทคโนโลยีความปลอดภัยที่เป็นสิทธิบัตรของตนเอง เช่น การป้องกันไฟไหม้ โดยปีที่ผ่านมา ทีเอฟทีได้จดสิทธิบัตรเทคโนโลยี อาทิ การป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
ในส่วนพาสปอร์ตแบตเตอรี่ดิจิทัลมีภารกิจในการดำเนินการระบบที่แปลงข้อมูลแบตเตอรี่ตลอดอายุการใช้งานเป็นดิจิทัล ซึ่งรวมถึงการผลิต กำจัด และรีไซเคิล นอกจากนั้นยังมีการสร้างระบบติดตามคุณภาพแบตเตอรี่ใหม่ที่สอดคล้องตามมาตรฐานสากล
ขณะที่คุณภาพการออกแบบมีเป้าหมายในการใช้การออกแบบเซลล์แบตเตอรี่ที่มีความทนทานเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้ไฟไหม้แบตเตอรี่ล่วงหน้าและปรับปรุงความปลอดภัยของแบตเตอรี่ บริษัทเหล่านี้จะนำเสนอการปรับปรุงตั้งแต่วิธีการออกแบบองค์ประกอบต่างๆ ของเซลล์แบตเตอรี่ และส่งเสริมเกณฑ์การตรวจสอบมาตรฐานและวิธีการจัดการ
เกี่ยวกับคุณภาพการผลิต ฮุนได เกีย และบริษัทแบตเตอรี่ทั้งสามแห่งกำลังร่วมกันตรวจสอบกระบวนการผลิตเซลล์แบตเตอรี่เพื่อการผลิตที่เสถียรและลดอัตราข้อบกพร่อง รวมทั้งยังมีแผนสร้างระบบจัดการการผลิตอัจฉริยะเพื่อปรับปรุงคุณภาพการวิเคราะห์โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ)
สุดท้ายคือเทคโนโลยีป้องกันอัคคีภัย ทั้ง 5 บริษัทได้ยื่นจดสิทธิบัตรเทคโนโลยีระบบป้องกันอัคคีภัยและดับเพลิงอัตโนมัติสำหรับเซลล์แบตเตอรี่ที่ร่วมกันพัฒนา รวมทั้งยังปรับปรุงคู่มือการรับมือไฟไหม้รถยนต์ไฟฟ้าโดยร่วมมือกับสถาบันวิจัยอัคคีภัยแห่งชาติ
หยาง ฮี-วอน ประธานฝ่ายวิจัยและพัฒนาฮุนได-เกีย กล่าวว่า การร่วมมือนี้เป็นไปได้เนื่องจากการตัดสินใจแน่วแน่ของผู้นำทั้ง 5 บริษัท รวมทั้งความทุ่มเทของนักวิจัย และการสนับสนุนจากรัฐบาล พร้อมให้สัญญาว่า ฮุนไดและเกียจะร่วมมือกับบริษัทแบตเตอรี่ทั้งสามแห่งเพื่อพัฒนาอีวีที่ปลอดภัยและไว้วางใจได้มากขึ้น
ทางด้านฮุนไดกล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรนี้ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นจะช่วยส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของประเทศ
ความร่วมมือนี้เกิดขึ้นหลังจากฮุนไดและเกียประกาศโครงการร่วมกันพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต (แอลเอฟพี) ต้นทุนต่ำเมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เพื่อท้าทายแบตเตอรี่เบลดของบีวายดีและบริษัทชั้นนำอื่นๆ ของจีน
จากข้อมูลของเอสเอ็นอี รีเสิร์ช จีนกำลังทิ้งห่างคู่แข่งในตลาดแบตเตอรี่สำหรับอีวีทั่วโลกออกไปเรื่อยๆ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ เฉพาะซีเอทีแอลและบีวายดีร่วมกันครองยอดขายแบตเตอรี่อีวีในตลาดโลกกว่า 55% เพิ่มขึ้นจาก 53% ในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว
ในทางกลับกัน ส่วนแบ่งตลาดรวมของแอลจี อิเนอร์จี, เอสเค ออน และซัมซุง เอสดีไอในช่วงครึ่งแรกของปีนี้อยู่ที่ 16.4% ลดลง 5.4% จากช่วงเดียวกันปี 2024
อย่างไรก็ตาม การที่ฮุนไดและเกียที่ไต่เต้ากลายเป็นแบรนด์อีวีที่ขายดีในหลายประเทศในขณะนี้ กำลังเตรียมเปิดตัวอีวีราคามิตรภาพในตลาดแมสส์ โครงการพันธมิตรนี้จึงอาจส่งผลดีสำหรับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง