Tesla Model Y L รุ่นฐานล้อยาว พร้อมห้องโดยสาร 6 ที่นั่ง ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน ราคาจำหน่ายเริ่มต้น 339,000 หยวน หรือประมาณ 1,540,000 บาท
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมี Tesla Model Y รุ่น 7 ที่นั่งอยู่แล้ว แต่ถูกพัฒนาขึ้นบนโครงสร้างเดียวกับรุ่น 5 ที่นั่งปกติ แต่สำหรับเวอร์ชัน 6 ที่นั่ง มาพร้อมฐานล้อที่ยาวขึ้น ควบคู่ไปกับการปรับปรุงตัวถังเพื่อเพิ่มพื้นที่ของห้องโดยสาร รองรับความต้องการของลูกค้าชาวจีนเป็นสำคัญ
ตัวถังของ Model Y L มีขนาดความยาวเพิ่มขึ้นจากรุ่นปกติ 179 มม. มีความยาวตลอดคันอยู่ที่ 4,976 มม. ความกว้างเท่าเดิมอยู่ที่ 1,668 มม. และความสูงเพิ่มขึ้น 44 มม. เป็น 1,668 มม. และความยาวฐานล้อเพิ่มขึ้น 150 มม.
ดีไซน์ตั้งแต่ด้านหน้าไปจนถึงเสาบีถูกยกมาจากรุ่นปกติ แต่มีการปรับปรุงดีไซน์ช่วงท้ายด้วยประตูบานหลังและกระจกโอเปราที่มีความยาวมากขึ้น ควบคู่ไปกับการยกแนวหลังคาสูงขึ้นกว่ารุ่น 5 ที่นั่ง ขณะที่ด้านท้ายยังคงเอกลักษณ์ไฟท้ายแบบ Indirect reflective พร้อมล้ออัลลอยดีไซน์เฉพาะรุ่นขนาด 19 นิ้ว
บริเวณประตูท้ายมีการติดตั้งสัญลักษณ์ Model YYY เรียงซ้อนกัน พร้อมทางเลือกสีใหม่ Starlight Gold เจาะกลุ่มลูกค้าชาวจีนที่ชื่นชอบโทนสีทอง
ห้องโดยสารแบบ 3 แถว ถูกจัดวางแบบ 2-2-2 โดยเบาะนั่งแถวที่สองมีลักษณะเป็นกัปตันซีตแยกอิสระออกจากกัน มาพร้อมระบบอุ่นและระบายอากาศ ที่วางแขนปรับระดับด้วยไฟฟ้า ขณะที่เบาะนั่งแถวที่ 3 ก็มีระบบอุ่นเบาะเพื่อความสบายของผู้โดยสารในช่วงฤดูหนาว รวมถึงมีช่องแอร์มาให้ทั้ง 3 แถว
นอกจากนี้ ด้านหน้ามีการเพิ่มขนาดหน้าจอสัมผัสจาก 15.4 นิ้ว เป็น 16 นิ้ว พร้อมเครื่องเสียงที่ถูกอัปเกรดลำโพงจาก 14 ตัว เป็น 18 ตัว
Tesla Model Y L ถูกติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (AWD) ด้านหน้ามีกำลังสูงสุด 193 แรงม้า (142 กิโลวัตต์) ด้านหลังกำลังสูงสุด 269 แรงม้า (198 กิโลวัตต์) สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 4.5 วินาที ช้ากว่ารุ่น 5 ที่นั่งราว 0.2 วินาที
แม้ว่า Model Y L มีขนาดตัวถังและน้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่ารุ่นปกติ จาก 1,992 กก. เป็น 2,088 กก. แต่มีระยะทางขับขี่สูงสุด 751 กิโลเมตร เทียบกับรุ่นปกติที่มีระยะทาง 750 กิโลเมตร (CLTC) แม้ว่าจะใช้แบตเตอรี่ขนาด 82 กิโลวัตต์-ชั่วโมงเท่ากันก็ตาม
นอกจากนี้ เทสล่าระบุว่าได้มีการปรับปรุงระบบช่วงล่างของรุ่นฐานล้อยาวด้วยการติดตั้งโช้กอัปที่สามารถปรับการทำงานตามสภาพถนนได้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยลดแรงสั่นสะเทือนที่ส่งเข้ามายังห้องโดยสาร เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน และยังช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมทิศทางได้อย่างแม่นยำขึ้นด้วย