xs
xsm
sm
md
lg

จีนคุมเข้ม “แร่หายาก” สะเทือนสายการผลิตรถยนต์ทั่วโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในช่วงหลัง COVID-19 ตลาดรถยนต์เคยประสบปัญหาการผลิตหยุดชะงักครั้งใหญ่ อันเนื่องมาจากการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์สำหรับใช้ในการผลิตส่วนประกอบทางอิเล็กทรอนิกส์ เพราะอุปกรณ์ชิ้นนี้เป็นที่ต้องการไม่เฉพาะตลาดรถยนต์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงตลาดคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งมีการขยายตัวอย่างมากจากการที่ทั่วโลก Lock Down

สถานการณ์นี้กำลังจะกลับมาอีกครั้ง ในรูปแบบคล้ายๆ กัน นั่นคือ การขาดแคลนชิ้นส่วนที่จะใช้ในการประกอบรถยนต์ แต่ต้นเหตุของปัญหามีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ใช่เพราะมีความต้องการสูง แต่เป็นผลมาจากความเข้มงวดในการขอใบอนุญาตเพื่อส่งออกแร่ธาตุหายากของจีน

Reuter ได้รายงานว่า ในตอนนี้สถานการณ์ขาดแคลนชิ้นส่วนและวัตถุดิบเพื่อใช้ในการผลิตส่วนประกอบของรถยนต์ทั้งแบบที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน และรถยนต์พลังไฟฟ้ากำลังเตรียมปะทุอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็นเรื่องของวัตถุดิบในส่วนของแร่ธาตุ และแม่เหล็กหายากที่กำลังการผลิตส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่จะต้องมีการขออนุญาตจากหน่วยงานราชการของจีนก่อนที่จะส่งออกนอกประเทศ

แม่เหล็กหายากใช้ในมอเตอร์ที่ขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนรถยนต์อื่นๆ เช่น กระจกและลำโพง รวมถึงกังหันลม ไล่ไปจนถึงเครื่องบินรบ F-35 ของสหรัฐ โดยจีนได้เพิ่มวัตถุดิบชิ้นนี้เข้าไปในรายชื่อของวัตดุดิบหายากและต้องอยู่ภายใต้การควบคุม โดยจะต้องมีการขออนุญาตทุกครั้งที่มีการนำออกนอกประเทศมาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา และหน่วยงานที่ควบคุมการส่งออก คือ สำนักงานความมั่นคงอุตสาหกรรมและการควบคุมการนำเข้าและส่งออก หรือ Bureau of Industrial Security and Import and Export Control ภายใต้สังกัดกระทรวงพาณิชย์ของจีน


ตั้งใจหรือทำงานล่าช้า

แม้ว่าจะมีการออกใบอนุญาตหลายสิบฉบับตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน แต่ผู้บริหาร นักล็อบบี้ และนักการทูตกล่าวว่าใบอนุญาตเหล่านี้เป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของใบอนุญาตที่หลั่งไหลเข้ามาจากผู้ผลิตรถยนต์ บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ และบริษัทการบินและอวกาศทั่วโลก นับตั้งแต่มีการนำมาตรการควบคุมการส่งออกที่เข้มงวดยิ่งขึ้นมาใช้

แน่นอนว่ากล่าวว่าความล่าช้าในการออกใบอนุญาตส่งออกแสดงให้เห็นว่าจีนผิดสัญญาที่ให้ไว้ในการเจรจาการค้าที่เจนีวาเมื่อเดือนที่แล้ว และจีนได้ตอบโต้ด้วยการควบคุมการส่งออกชิ้นส่วนเครื่องยนต์เครื่องบินและอุปกรณ์อื่นๆ

เมื่อมาตรการควบคุมแร่ธาตุหายากใหม่มีผลบังคับใช้ สำนักงานควบคุมการส่งออกมีพนักงานเพียง 30 คน แต่ปัจจุบันเพิ่มเป็นสองเท่าเป็นประมาณ 60 คน ตามข้อมูลจากแหล่งข่าว 2 รายที่ได้รับข้อมูลสรุปเกี่ยวกับการประชุมระหว่างกระทรวงฯ และบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ของจีนและยุโรปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

แหล่งข่าววงในของอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ บางส่วนเชื่อว่าการคั่งค้างของระบบราชการเป็น “ข้อแก้ตัวเชิงกลยุทธ์”

“จีนสามารถจัดหาพนักงานได้เร็วเท่าที่ต้องการ แต่พวกเขาเลือกที่จะไม่ทำ” แหล่งข่าวจากอุตสาหกรรมแร่ธาตุหายากของสหรัฐฯ กล่าว โดยขอไม่เปิดเผยชื่อด้วยเหตุผลด้านความอ่อนไหว

แม้ว่าทางประธานาธิบดี Donald Trump ของสหรัฐอเมริกา จะต่อสายตรงคุยกับประธานาธิบดี Xi Jinping ของจีนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นี้ แต่สุดท้ายดูเหมือนเรื่องราวจะยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน และรายงานของสื่อรัฐบาลของจีนไม่ได้ระบุถึงแร่ธาตุหายากโดยเฉพาะ แต่ระบุว่าปักกิ่ง "ได้ปฏิบัติตามข้อตกลง (เจนีวา) อย่างจริงจังและจริงจัง"



ตอกย้ำความสำคัญของจีน

ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้เกิดการขาดแคลน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกำลังจะเน้นย้ำถึงอิทธิพลมหาศาลที่จีนได้รับจากการผูกขาดการผลิตแร่ธาตุหายาก อีกทั้งจากกระบวนการทางราชการที่ซับซ้อนและล้าช้านั้น อาจจะถูกโยงเข้าไปเป็นเหตุผลหลักเพื่อใช้ในการแก้ตัวระหว่างประเทศถึงเหตุผลความล่าช้าที่มาจากการกระบวนการทำงาน ไม่ใช่นัยยะซ่อนเร้นทางการเมือง

“กระบวนการที่ซัพพลายเออร์ของเรายื่นขอใบอนุญาตส่งออกแร่ธาตุหายากต่างๆ เกิดขึ้นตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา มีทั้งความซับซ้อนและใช้เวลานาน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องรวบรวมและจัดหาข้อมูลจำนวนมาก” โฆษกของ Bosch บริษัทข้ามชาติด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีของเยอรมนี กล่าวเมื่อเดือนที่แล้ว โดยคู่มือภาษาจีนเกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าวซึ่งกระทรวงฯ เผยแพร่เมื่อปลายเดือนมีนาคมมีความยาวเกือบ 14,000 ตัวอักษร

ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน แค่บริษัทซัพพลายเออร์รถยนต์ในยุโรปเพียงภูมิภาคเดียวก็ยื่นเอกสารคำร้องไปแล้วมากกว่า 100 ฉบับ แต่ผ่านการพิจารณาและอนุมัติออกมาเพียงแค่ 1 ใน 4 เท่านั้น โดยตามแนวทางของกระทรวงพาณิชย์มีการกำหนดให้เอกสารที่บริษัทซัพพลายเออร์ยื่นเข้ามาจะต้องมีข้อมูล เช่น คำอธิบายผลิตภัณฑ์ทางเทคนิค และสัญญาที่ลงนามแล้ว

นอกจากนั้น ยังสนับสนุนให้มีการอธิบายเกี่ยวกับสถานที่ผลิตและรูปถ่ายของผลิตภัณฑ์ด้วย จีนตั้งเป้าที่จะไม่ให้วัตถุดิบนี้ถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ทางทหาร

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทเหล่านี้ได้กล่าวโทษว่าความล่าช้ามาจากการที่เจ้าหน้าที่มักจะระมัดระวังมากเกินไป แม้ว่าใบสมัครหลายฉบับจะระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นการใช้งานเชิงพาณิชย์ก็ตาม

Adam Dunnett เลขาธิการหอการค้ายุโรปในจีนกล่าวโดยอ้างถึงกระทรวงว่า "เรารู้สึกขอบคุณที่ MOFCOM ได้เพิ่มทรัพยากรบุคคลในการทำงาน เพื่อตอบสนองความต้องการ และพวกเขากำลังทำงานหนักเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ แต่ความจริงก็คือเรื่องนี้ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อหลากหลายภาคส่วน ทั้งที่เป็นสิ่งที่สามารถวางแผนและดำเนินการได้ดีกว่านี้" เขากล่าว “ความกังวลอีกประการหนึ่งที่เราได้ยินจากบริษัทบางแห่งก็คือ พวกเขาถูกขอให้เปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนมากเกินไปซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งทำให้เกิดความล่าช้าในการดำเนินการเกี่ยวกับเอกสารคำร้อง”

แม้ว่าตามกระบวนการทำงานจะกำหนดไว้ว่าจะดำเนินการภายใน 45 วันทำการ แต่กระทรวงระบุว่าเอกสารคำร้องที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติจะใช้เวลานานกว่านั้น โดยไม่ได้ระบุว่าจะใช้เวลานานเท่าใด


ปิดแล้วบางส่วนและอาจจะเพิ่มขึ้น

ความล่าช้าในการอนุมัติคำร้อง บวกกับการเป็นแร่หายากที่ถูกควบคุมและไม่สามารถหาจากแหล่งอื่นได้นั้น ทำให้โรงงานหลายแห่งเริ่มประกาศปิดสายการผลิตชั่วคราวอันเนื่องมาจากการขาดแคลนชิ้นส่วนที่ใช้วัตถุดิบนี้ เช่น

-Ford ประกาศปิดสายการผลิตของ Explorer SUV ที่ชิคาโก้นานถึง 1 สัปดาห์ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

-Suzuki Motor ประกาศปิดไลน์ผลิตของ Swift รุ่นท็อปที่โรงงานในญี่ปุ่นช่วงวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา และคากว่าจะเริ่มกลับมาทำงานได้บางส่วนภายในวันที่ 13 มิถุนายน และกลับมาเป็นปกติหลังวันที่ 16 มิถุนายน

-มีรายงานว่าบริษัทซัพพลายเออร์ผลิตชิ้นส่วนหลายรายในยุโรปต้องปิดสายการผลิตชั่วคราวอันเป็นผลต่อเนื่องมาจากการขาดแคลนวัตถุดิบ จากการเปิดเผยของสมาคมผู้ผลิตชิ้นส่วนในยุโปหรือ CLEPA

-Bajaj Auto ผู้ผลิตรถยนต์ในจีน ได้ออกแถลงการณ์ว่า บริษัทอาจจะมีการส่งมอบรถยนต์พลังไฟฟ้าของแบรนด์ล่าช้ากว่าที่กำหนดอันเป็นผลมาจากความล่าช้าในการอนุมัติแร่หายากที่เกิดขึ้นในจีน

-BMW กล่าวว่าสายการผลิตบางส่วนจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้อย่างแน่นอน แต่ทว่าโรงงานของตัวเองทั้ง 2 แห่งยังสามารถดำเนินการผลิตได้ตามปกติ

-Maruti Suzuki ผู้ผลิตที่มียอดขายสูงสุดในจีนกล่าวยืนยันว่ากำลังดำเนินการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ และเชื่อว่าในตอนนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาเรื่องการขาดแคลนชิ้นส่วน

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ว่าจะมีเหตุผลใดอยู่เบื้องหลัง ในตอนนี้เชื่อว่าหลายแบรนด์น่าจะเริ่มรับมือและปรับแผนในการทำงานเพื่อรับกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นนี้ และไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้างเหมือนกับตอนที่เกิดปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์


กำลังโหลดความคิดเห็น