Toyota Aygo X Hybrid ถูกเปิดตัวก่อนวางจำหน่ายที่ยุโรปปลายปี 2568 นี้ พกขุมพลังไฮบริด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 116 แรงม้า (DIN hp) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ต่ำกว่า 10 วินาที สุดประหยัด 26.3 กม./ลิตร
Toyota Aygo X ถูกปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์ที่ยุโรป พร้อมปรับเปลี่ยนขุมพลังจากเบนซิน 3 สูบ ความจุ 1.0 ลิตร N/A เป็นไฮบริด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 116 แรงม้า (DIN hp) เพิ่มขึ้นจากเดิม 44 แรงม้า จึงสามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ไม่ถึง 10 วินาที ดีขึ้นกว่ารุ่นเบนซินล้วนที่ทำได้ 14.9 วินาที
โตโยต้าระบุว่า Aygo X Hybrid ถือเป็นรถพิกัด A-segment รุ่นแรกในยุโรปที่ถูกติดตั้งเครื่องยนต์ฟูลไฮบริด และยังปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำที่สุดในรถกลุ่มที่ไม่มีระบบเสียบปลั๊ก รวมทั้งเป็นรถยนต์ที่มีราคาจำหน่ายเข้าถึงได้ง่ายสุดในไลน์อัปของโตโยต้ายุโรปอีกด้วย
ดีไซน์ด้านหน้าของ Toyota Aygo X Hybrid ถูกออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด ติดตั้งไฟหน้าและกระจังหน้าใหม่ เน้นความสปอร์ตควบคู่ไปกับความบึกบึนสไตล์เอสยูวี มาพร้อมล้อขนาด 17 นิ้ว และ 18 นิ้ว (ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย) และซุ้มล้อตกแต่งด้วยสีดำทั้งหน้าและหลัง สามารถเลือกตกแต่งด้วยตัวถังสี Bi-tone ได้
ขณะที่ห้องโดยสารรองรับได้ 4 ที่นั่ง พร้อมความจุพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายขนาด 231 ลิตร ติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว พร้อมอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น ช่องจ่ายไฟ USB-C จำนวน 2 ช่อง และระบบเบรกมือไฟฟ้า ขณะที่รุ่นบนถูกเพิ่มเติมด้วยที่ชาร์จไฟไร้สาย, กุญแจดิจิทัล, กระจกมองข้างพับไฟฟ้า และระบบ nanoeX เพื่อเพิ่มคุณภาพของอากาศในห้องโดยสาร
นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มรุ่น GR SPORT เป็นครั้งแรก ตกแต่งกระจังหน้าแบบ G-pattern เช่นเดียวกับตระกูล GR รุ่นอื่นๆ พร้อมล้อดีไซน์เฉพาะรุ่น GR SPORT คอยล์สปริงและโช้กอัปเน้นความสปอร์ต และพวงมาลัยไฟฟ้าที่ปรับจูนเพิ่มความเฉียบคมมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ Toyota Aygo X Hybrid ใหม่ จะเริ่มวางจำหน่ายที่ยุโรปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2568 เป็นต้นไป พร้อมระบุว่าที่ผ่านมามียอดจำหน่ายสะสมสูงถึง 287,000 คัน ตลอดระยะเวลาราว 3 ปีนับตั้งแต่เปิดตัว