เริ่มก้าวย่างปี 2568 สถานการณ์การแข่งขันรถยนต์ในบ้านเรายังคงร้อนแรงยิ่งขึ้น ทั้งแบรนด์ที่มีอยู่เดิม รวมถึงแบรนด์ใหม่ บวกกับเศรษฐกิจ ที่ตกต่ำ ทำให้ค่ายรถต้องทำงานหนักเพื่อให้รอดในวิกฤตปีนี้
อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวรถใหม่ยังคงดำเนินต่อไปและปีนี้ช่วงไตรมาแรกมีรถใหม่รุ่นใดจ่อคิวเปิดตัวกันบ้าง มาดูกัน
DEEPAL S05
DEEPAL S05 เอสยูวีไฟฟ้ารุ่นเล็กตัวถังมีขนาดความยาว 4,620 มม. ความกว้าง 1,900 มม. ความสูง 1,600 มม. และความยาวฐานล้อ 2,880 มม. ห้องโดยสารรองรับได้ 5 ที่นั่งเวอร์ชันจีนสามารถเลือกได้ทั้งรุ่น EV และ EREV (Extended Range Electric Vehicle) ที่เพิ่มเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เสริมการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยเพิ่มระยะทางขับขี่ต่อเนื่องไกลสูงสุดถึง 1,234 กม.
DEEPAL S05 รุ่น EV ติดตั้งมอเตอร์กำลังสูงสุด 235 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังไปยังล้อคู่หลัง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. แบตเตอรี่เป็นแบบลิเธียม-ไอออน ความจุ 56.12 kWh ระยะทางขับขี่ไกลสุด 510 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) รองรับการชาร์จด่วนจาก 30-80% ในเวลาเพียง 15 นาทีเท่านั้น
ส่วนรุ่น EREV (Extended Range Electric Vehicle) ติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 215 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร พร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 97 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 175 กม./ชม. แบตเตอรี่ของรุ่น EREV มีขนาด 27.28 kWh สามารถขับขี่ด้วยไฟฟ้าล้วนไกลสุด 200 กม. (ตามมาตรฐาน CLTC) เมื่อรวมกับน้ำมันเต็มถังจะสามารถขับขี่ได้ระยะทางไกลสูงสุดถึง 1,234 กม. โดยไม่ต้องแวะชาร์จไฟหรือเติมน้ำมัน
รูปลักษณ์ภายนอกของ DEEPAL S05 ยังคงมีกลิ่นอายของ S07 แต่ปรับเส้นสายเน้นความโค้งมน โครงสร้างตัวถังทำจากวัสดุอะลูมิเนียมและเหล็กกล้าความแข็งแรงสูง เสริมความปลอดภัยด้วยกล้องเหนือหลังคาความละเอียดระดับ 4K และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาด 64GB สามารถบันทึกภาพนิ่งได้ราว 21,000 ภาพ และภาพเคลื่อนไหวสูงสุด 12 ชั่วโมง
ภายในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยหน้าจอกลางขนาด 15.4 นิ้ว ที่ใช้เป็นจอแสดงข้อมูลการขับขี่และจออินโฟเทนเมนท์ ทำงานด้วยชิป Qualcomm Snapdragon 8155 บนระบบปฏิบัติการ Deepal OS 3.0 รวมถึงมีหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้าแบบเสมือนจริง AR-HUD และพวงมาลัยแบบ 3 ก้านสไตล์ D-shaped
Kia EV3
Kia EV3 ถูกพัฒนาให้เป็นรถคอมแพ็กเอสยูวีขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% บนแพล็ตฟอร์ม E-GMP (Electric Global Modular Platform) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหน้าโดยเฉพาะ ตัวถังมีความยาว 4,300 มม. ความกว้าง 1,850 มม. ความสูง 1,560 มม. และความยาวฐานล้อ 2,680 มม. พร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่เจเนอเรชันที่ 4 ของ Kia ซึ่งสามารถเลือกได้ทั้งขนาด 58.3 kWh และ 81.4 kWh
ทุกรุ่นติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 kW) แรงบิดสูงสุด 283 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม.
รุ่น EV3 Long Range มีระยะทางขับขี่คาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 600 กม. ต่อการชาร์จแต่ละครั้ง (WLTP) และสามารถชาร์จด่วนจาก 10-80% ได้ในเวลาราว 31 นาที
ภายในห้องโดยสารสามารถรองรับได้ 5 ที่นั่ง มีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายขนาด 460 ลิตร แผงคอนโซลหน้าประกอบไปด้วยหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว จอสัมผัส AVN ขนาด 12.3 นิ้ว และจอควบคุมระบบปรับอากาศขนาด 5 นิ้ว สามารถควบคุมได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร
Kia EV3 ยังเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกที่ถูกติดตั้งระบบ AI Assistant ที่ถูกติดตั้งเป็นครั้งแรกในรุ่น Kia K4 ซึ่งเกียระบุว่าช่วยให้สามารถรองรับการสั่งงานได้ราวกับมนุษย์ โดยระบบสามารถเข้าใจคำสั่งเสียงได้อย่างเป็นธรรมชาติแม้ว่าจะเป็นประโยคที่มีความซับซ้อน ขณะที่ระบบ AI Assistant ยังช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเพลิดเพลินกับฟังก์ชันและระบบความบันเทิงต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ขณะเดินทาง
Suzuki Fronx
Suzuki Fronx รถ SUV แบบคูเป้ที่จะวางคลาสอยู่ตรงกลางระหว่าง Brezza และ Jimny โดยจะจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ของรถ SUV แบบ sub-4meter ขนาดเล็ก
ด้านขุมกำลังมาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร ที่ให้กำลัง 88.5 แรงม้า (bhp) และแรงบิดสูงสุด 113 นิวตันเมตร มีตัวเลือกระบบเกียร์ทั้งแบบธรรมดา 5 สปีดและแบบอัตโนมัติ 5 สปีด และเครื่องยนต์ 1.0 ลิตรเทอร์โบชาร์จ ที่เป็นตัวเลือกในระดับท๊อป
หลังคารถแบบคูเป้ที่โฉบเฉี่ยว มีตัวถังที่สูงและรูปทรงที่บึกบึนพร้อมซุ้มล้อรูปทรงสี่เหลี่ยม กระจังหน้า Nexwave ซึ่งเป็นแผงด้านหน้าสีดำทั้งหมดพร้อมแถบโครเมียมหนาตัดขวาง DRLs แบบแยกสามดวง ขณะที่ด้านหลังเป็น Maruti Suzuki รุ่นแรกที่เชื่อมต่อไฟ LED ที่พาดผ่านประตูท้าย แผ่นกันกระแทกด้านหลังเพิ่มรูปลักษณ์ที่ดูบึกบึนให้กับ Fronx
ตัวรถ Suzuki Fronx ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัยมากมาย เช่น ถุงลมนิรภัย 6 จุด เบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX, โปรแกรมควบคุมการทรงตัวแบบอิเล็กทรอนิกส์, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน, ABS พร้อม EBD และระบบช่วยเบรก และอื่นๆ อีกมากมาย
TOYOTA YARIS ATIV Hybrid
โตโยต้า เตรียมส่ง ยาริส ไฮบริด เสริมทัพ โดยรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร NA ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้าไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ LITHUM-ION แบบใหม่ คล้ายกับที่ใช้ในระบบ HEV ของ ยาริส ครอส เพิ่มความประหยัดมากขึ้นโดยพลังไฟฟ้าจะถูกนำไปป้อนให้กับมอเตอร์เพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ ส่วนแรงม้า แรงบิด ความจุแบตเตอรี่ ยังไม่มีการเปิดเผย
ส่วนหน้าตาคงจะเหมือนกับรุ่นปกติ แต่อาจจะเพิ่มสัญลักษณ์โตโยต้า พร้อมโลโก้ ไฮบริด
Subaru Forester e-Boxer Hybrid
Subaru Forester e-BOXER HYBRID ดีไซน์ใหม่หมด คาดว่ามาพร้อมขุมพลังใหม่เครื่องยนต์เบนซิน BOXER 4 สูบนอน ขนาด 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังรวมสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 194 นิวตันเมตร พ่วงด้ายแบตเตอรี่ LITHIUM-ION ขับเคลื่อน 4 ล้อ ตลอดเวลา AWD ขนาดรถใหญ่ขึ้นและอัตราประหยัดน้ำมันดีขึ้น ใช้งานได้ทุกวัตถุประสงค์ ทุกจุดหมาย ทุกรูปแบบเส้นทาง
DENZA Z9 GT
ดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยว ดุดัน เน้นหลักอากาศพลศาสตร์ ตัวรถจะไม่มีกระจังหน้า มีเพียงเส้นสายที่พลิ้วไหวเน้นความเอนเอียงแบบสปอร์ต มิติตัวรถจะมีขนาดความยาวอยู่ที่ 5,180 มม. กว้าง 1,990 มม. และสูง 1,500 มม. และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 3,125 มม.
มือเปิดประตูเป็นแบบราบไปกับตัวรถ มาพร้อมล้ออัลลอยที่มีลวดลายแบบ Aero Wheelขนาด 21 นิ้ว รัดด้วยยางขนาด 255/40 ที่คู่หน้า ส่วนยางคู่หลังจะมีขนาด 275/40 มาพร้อมประตูแบบไร้กรอบ และหลังคาแบบพาโนรามา
ด้านท้ายติดตั้งสปอยเลอร์ หลังคา และสปอยเลอร์ที่ติดตั้งอยู่ที่ฝากระโปรงท้ายหลัง ที่สามารถยกขึ้นลงด้วยระบบไฟฟ้า มาพร้อมชุดไฟท้ายเป็นแบบสองก้อนขนาดใหญ่ เสริมความโหดด้วยดิวฟิวเซอร์ขนาดใหญ่ทั้งยังมีการตกแต่งด้วยชิ้นส่วนคาร์บอนไฟเบอร์
ภายในห้องโดยสารจะรองรับได้ 5 ที่นั่ง แผงแดชบอร์ดจะติดตั้งหน้าจอมาให้ 3 จอ ได้แก่ แผงหน้าปัด LCD ที่วางอยู่หลังพวงมาลัยทรง 4 ก้าน ส่วนตรงกลางจะเป็นหน้าจอควบคุมส่วนกลางขนาดใหญ่ที่มาในแบบแขวนลอยตัวออกมาจากคอนโซลหน้า และหน้าจออินโฟนเทนเมนต์สำหรับผู้โดยสารตอนหน้า
ทั้งหมดคือรถใหม่ที่จะเปิดตัวในไตรมาสแรกของปีนี้ มีรุ่นไหนที่ผู้อ่านสนใจก็เตรียมตัว เตรียมตังค์ไว้ได้เลย
