มาสด้า CX-5 นับเป็นรถเอสยูวีที่ขายดีรุ่นหนึ่งของมาสด้า โดยทั่วโลกมียอดขายสะสมถึง 4.6 ล้านคัน ขณะที่ประเทศไทย มาสด้า CX-5 ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน มียอดขายสะสมทั้งเจนเนอเรอชั่นแรกและสองถึง 33,132 คัน ดังนั้นมาสด้า ประเทศไทย จึงนำรุ่นนี้มาปรับโฉมให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น พร้อมลดราคาลงมาอีก 100,000- 200,000 บาท ถือว่าเป็นรถครอสโอเวอร์เอสยูวีอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ
ดีไซน์ภายนอกของ มาสด้า CX-5 โฉมไมเนอร์เชนจ์ ได้รับการปรับโฉมให้มีความสปอร์ต โฉบเฉี่ยว มากขึ้น โดยตัวรถจะมากับชุดไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED ดีไซน์ใหม่ มาพร้อมระบบเปิด-ปิด และปรับระดับสูง-ต่ำ อัตโนมัติ และระบบปรับองศาไฟหน้าตามการเลี้ยวของรถ AFS ขณะที่ไฟท้ายก็ได้รับการออกแบบใหม่มาในแบบ LED Signature
นอกจากนั้นกระจังหน้าสีใหม่ Piano Black มาพร้อมกันชนหน้าและกันชนหลังที่ได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมชุดตกแต่งคิ้วข้างประตูใหม่ ล้ออัลลอยมีให้เลือก 3 แบบ 3 รุ่น โดยมีขนาด 17 นิ้ว และ 19 นิ้ว เสริมความสปอร์ตด้วยท่อไอเสียดีไซน์ใหม่
ภายในห้องโดยสารยังคงเน้นความหรูหรา รายละเอียดเหมือนการทำมือ โดยเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมียม มาพร้อมการตกแต่งภายในใหม่ด้วยเบาะหนังสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำตาล วัสดุตกแต่งภายในแบบ Real Wood พร้อมหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า
ด้านชุดอุปกรณ์ภายใน ระบบเบรกมือไฟฟ้าระบบ Auto Hold ,ระบบเสียง Bose รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง, เบาะหนังคนขับปรับไฟฟ้าพร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า, กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ, ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลังและช่อง USB สำหรับชาร์จไฟด้านหน้า 2 ช่องและด้านหลังอีก 2 ช่อง
นอกจากนี้ยังเพิ่มเทคโนโลยีความสะดวกสบายให้มาตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น โดยระบบเชื่อมต่อจะมากับ Apple CarPlay แบบไร้สาย รวมทั้งยังมากับแป้นเปลี่ยนเกียร์ Sport Paddle Shift เสริมความสะดวกสบายด้วยการเพิ่มระบบ Hand Free Power Lift Gate (ฝาท้ายเปิด-ปิด โดยไม่ต้องใช้มือ) นอกจากนี้ในรุ่น 2.0 SP ยังได้เพิ่มระบบ Mazda Radar Cruise Control เป็นแบบมี Stop & Go
ขณะที่รุ่น Skyactiv-D 2.2 ลิตร จะเพิ่มการตกแต่งภายนอกแบบ Exclusive Package โดยในส่วนของชายล่างกันชนหน้า,ชายล่างกันชนหลังจะเป็นสีเดียวกันกับตัวรถ มาพร้อมปลายท่อไอเสียคู่ขนาดใหญ่รวมทั้งยังเพิ่มระบบขับขี่แบบ Off-road พร้อมสวิตซ์ Mi-Drive
มาสด้า CX-5 มาพร้อมขุมพลังสกายแอคทีฟ มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย คือ
รุ่น 2.0 S และ 2.0 SP ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-Drive อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 13.9 กม./ลิตร รองรับน้ำมัน E85
รุ่น 2.2 XDL ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบแปรผัน 2 ขั้น กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-Drive พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ i-ACTIV AWD อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 15.9 กม./ลิตร ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro5
สำหรับการทดลองขับ มาสด้า CX-5 เป็นการขับบนเส้นทา กรุงเทพฯ-ฐานทัพเรือสัตหีบ ชลบุรี ด้วยระยะทางไป-กลับ 353 กิโลเมตร โดยรุ่นที่ขับเป็น 2.0 XDL เครื่องยนต์ดีเซล ต้องบอกว่าการขับเปลี่ยนไปทางที่ดี แรงกำลังเหลือเฟือย อัตราเร่งแซงทันใจ ทั้งในช่วงความเร็วต่ำและความเร็วสูงดีมาก ให้ความสนุก เร้าใจ โดยเฉพาะบนทางด่วนมอเตอร์เวย์ ระบบเกียร์ SKYACTIV-Drive 6 สปีด เซตมาอย่างดี ราบรื่นนุ่มนวลทุกช่วงเกียร์
ช่วงล่างมีการปรับปรุงด้วยการเสริมคานด้านล่างของห้องโดยสารตอนหลัง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างตัวถัง และมีการเปลี่ยนสปริงและโช้ก ทำให้ช่วงล่างนุ่ม นั่งสบาย ไม่สะเทือน ไม่ย้วย เวลานั่งด้านหลัง เบรกไม่ลึกมาก พวงมาลัยไฟฟ้าให้วงเลี้ยวแคบคล่องตัว น้ำหนักพวงมาลัยดีไม่หนักเกินไปไม่เบาเกินไป ที่สำคัญมีระบบ G-Vectoring Control Plus ทำให้ทุกโค้งมั่นใจแม้จะอยู่ในความเร็วสูงและยังลดอาการหน้าลื่นท้ายปัดได้อย่างดี ช่วยให้การควบคุมง่ายขึ้น
ในส่วนภายในห้องโดยสาร ทั้งเบาะนั่งคู่หน้าและคู่หลัง โอบรัด กระฉับกำลังดี นั่งสบายทุกที่นั่ง บวกกับการเก็บเสียงในรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ค่อนข้างเงียบ เสียงที่เล็ดลอดเข้ามาในห้องโดยสารถือว่าน้อยมาก เสียงยางที่สัมผัสผิวถนนก็เก็บได้ดีเช่นกัน
โดยรวมถือว่าประทับใจ ทั้งรูปลักษณ์หน้าตา ที่ถูกปรับปรุงให้สวยงาม หรูหรา ภายใน เรียบหรู สะอาดตา พร้อมทั้งยังมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ระบบความปลอดภัยเต็มขั้น สมรรถนะการขับขี่ ตอบสนองได้ดีการเร่งแซง ทันใจ และระบบช่วงล่าง นุ่มแน่นหนึบกว่าเดิม แต่ในความนุ่มก็ยังแฝงไปด้วยความกระฉับเกาะถนนที่ยังดีเหมือนเดิม
หากผู้อ่านกำลังมองหารถครอสโอเวอร์สำหรับครอบครัว มาสด้า CX-5 รุ่นปรับโฉม 2025 ตอบโจทย์ได้ครบครัน บอกกับราคาที่มาสด้าจัดให้ถือว่าคุ้มค่า น่าจัด