xs
xsm
sm
md
lg

เผยโฉม Mazda CX-5 ไมเนอร์เชนจ์ เตรียมประกาศราคา 28 พ.ย.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



มาสด้าเผยรายละเอียด CX-5 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ ก่อนประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่งานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 วันที่ 28 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้


ราคาประมาณการณ์ Mazda CX-5 ไมเนอร์เชนจ์ มี 3 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น 2.0 S เริ่มต้นประมาณ 1,150,000 - 1,250,000 บาท รุ่น 2.0 SP เริ่มต้นประมาณ 1,250,000 - 1,350,000 บาท และรุ่น XDL เริ่มต้นประมาณ 1,600,000 - 1,700,000 บาท

ภายนอกมีการปรับดีไซน์ภายนอกแตกต่างไปจากเดิม ทั้งไฟหน้าแบบโปรเจกเตอร์ LED เปิด-ปิด และปรับระดับสูง-ต่ำอัตโนมัติ, กระจังหน้าแบบใหม่, กันชนหน้าและหลังแบบใหม่, ไฟท้าย LED Signature ใหม่, ชุดตกแต่งคิ้วข้างประตูใหม่, ล้ออัลลอยใหม่ และท่อไอเสียดีไซน์ใหม่


ภายในห้องโดยสารยังคงตกแต่งเน้นความหรูหรา รายละเอียดเสมือนการทำมือ ตกแต่งด้วยเบาะสีดำตกแต่งด้วยด้ายสีน้ำตาล และใช้วัสดุตกแต่งแบบ Real Wood และสีเงินซาตินโครม หรือเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red ตกแต่งด้วยสีน้ำตาลเข้ม พร้อมหลังคาซันรูฟแบบไฟฟ้า

อุปกรณ์มาตรฐานใหม่ ได้แก่ ระบบ Wireless Apple CarPlay และ Android Auto (USB) แสดงผลบนหน้าจอสี Center Display แบบสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ควบคุมด้วยปุ่ม Center Commander วางในตำแหน่งที่ใช้งานสะดวก พร้อมระบบเสียง Bose รอบทิศทาง ผ่านลำโพง 10 ตำแหน่ง


ทุกรุ่นย่อยถูกติดตั้งระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Sports Paddle Shift), ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า พร้อมระบบแฮนด์ฟรี และรุ่น XDL เพิ่มเติมด้วยระบบช่วยป้องกันล้อหมุนฟรีแบบออฟโรด (Off-Road Traction Assist)

อุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกบังลมหน้า (Windshied Active Driving Display), ระบบเบรกมือไฟฟ้า Auto Hold, เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า พร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า, มาตรวัดความเร็วแบบ Analogue พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่, กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone พร้อมช่องแอร์หลัง, ระบบปรับไฟหน้าตามองศาการเลี้ยว AFS, ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง และระบบแสดงภาพ 360 รอบทิศทาง


Mazda CX-5 มีการปรับปรุงช่วงล่างเพื่อเพิ่มความนุ่มสบายขณะโดยสาร โดยได้เสริมคานด้านล่างของห้องโดยสารตอนหลัง เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับโครงสร้างตัวถัง และมีการเปลี่ยนสปริงและโช้กที่ช่วยลดแรงสะเทือนเข้ามายังห้องโดยสาร ช่วยให้การขับขี่ราบรื่นและมอบความสบายมากยิ่งขึ้น

ระบบความปลอดภัย i-ACTIVSENSE ประกอบด้วย LAS - Lane-Keep Assist System, DAA - Driver Attention Alert, LDWS - Lane Departure Warning System, MRCC w. Stop & Go - Mazda Radar Cruise Control with Stop & Go, RCTA - Rear Cross Traffic Alert, ABSM - Advanced Blind Spot Monitoring, SBS - Smart Brake Support, Advance SCBS - Advanced Smart City Brake Support, SCBS-R Smart City Brake Support - Reverse และ ALH - Adaptive LED Headlamps


รุ่น 2.0 S และ 2.0 SP ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-Drive อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 13.9 กม./ลิตร รองรับน้ำมัน E85

รุ่น XDL ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล SKYACTIV-D ขนาด 2.2 ลิตร เทอร์โบแปรผัน 2 ขั้น กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด SKYACTIV-Drive พร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ i-ACTIV AWD อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 15.9 กม./ลิตร ผ่านมาตรฐานไอเสีย Euro5


สีภายนอกมีให้เลือก 7 สี ได้แก่ สีขาว Snowflake White Pearl, สีดำ Jet Black, สีน้ำเงิน Deep Crystal Blue, สีเทา Machine Gray, สีแดง Soul Red Crystal, สีเทา Polymetal Gray (ใหม่) และสีบรอนซ์ Platinum Quartz (ใหม่)


























กำลังโหลดความคิดเห็น