ตลาดรถอาการน่าเป็นห่วง ส.อ.ท.เผยยอดขายเดือนก.ย. ลดลง 37.11% รถอีวีไม่รอดเหลือแค่ 4,574 คัน ลดลง 33.53% ชี้โค้งสุดท้ายไม่มีปัจจัยบวกดันยอดพุ่ง
ส.อ.ท.เผยเดือนกันยายน 2567 ยอดผลิตรถยนต์เหลือ 122,277 คัน ลดลง 25.48% ขายได้แค่ 39,048 คัน ลดลง 37.11% ต่ำสุดในรอบ 53 เดือน BEV ก็ไม่รอดเหลือแค่ 4,574 คัน ลดลง 33.53% ส่งออก 80,254 ลดลง 17.67 % เพิ่มขึ้น ส่งผลตลาดรถไทยปีนี้อาการน่าเป็นห่วง ตัวเลขจะจบถึง 600,000 คัน หรือไม่รอลุ้น ที่สำคัญไม่มีปัจจัยบวกที่จะทำให้ยอดขายกระเตื้องขึ้นแต่อย่างใด
สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ในเดือนกันยายน 2567 พบว่ายอดการผลิตและยอดขายภายในประเทศ รวมถึงการส่งออกรถยนต์ลดลงทุกส่วน โดยมียอดการผลิตอยู่ที่ 122,277 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ถึง 25.48% ส่งผลให้ 9 เดือน (มกราคม-กันยายน 2567) ผลิตรวมทั้งสิ้น 1,128,026 คัน ลดลง 18.61% ทั้งในส่วนของรถยนต์นั่ง รถโดยสาร รถบรรทุก รถกระบะ
ส่วนการผลิตเพื่อส่งออกเดือนกันยายน 2567 ผลิตได้ 87,666 คัน เท่ากับ 71.69% ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงเช่นกันที่ 15.78% ทำให้ 9 เดือน ผลิตเพื่อส่งออกได้ 774,175 คัน ลดลง 4.42% และการผลิตเพื่อขายในประเทศอยู่ที่ 34,611 คัน ลดลงถึง 42.31% ส่งผลให้ 9 เดือน ผลิตได้แค่ 353,851 คัน ลดลง 38.57%
ในขณะที่ยอดขายรถยนต์ภายในประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 39,048 คัน ต่ำสุดในรอบ 53 เดือน ลดลงจากเดือนสิงหาคม 2567 ที่ 13.59% ลดลงจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ซื้อรถยนต์ บวกกับการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเติบโตแค่ 2.7-2.8% เท่านั้น
การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ส่งออกได้ 80,254 คัน ลดลงจากเดือนที่แล้ว 6.75% และลดลงจากเดือนกันยายน 2566 ที่ 17.67% ลดลงจากการขัดแย้งในตะวันออกกลางที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ประเทศคู่ค้าหลายประเทศมียอดขายรถยนต์ลดลง ตัวเลขการส่งออกจึงลดลง ตามไปด้วย
สำหรับรถจักรยานยนต์เดือนกันยายน 256 7ผลิตรถจักรยานยนต์ได้ทั้งสิ้น 187,385 คัน ลดลงจากเดือนกันยายน ปีที่ผ่านมา 6.24 % แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 146,590 คัน ลดลงจากปี 2566 13.29 %แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 40,795คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 32.45 %
ยอดการผลิตรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม – กันยายน 2567มีจำนวนทั้งสิ้น1,735,818คัน ลดลงจากปี 2566 8.07 % โดยแยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป (CBU) 1,436,354 คัน ลดลงจากปี2566 12.31 % แต่ชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ (CKD) 299,464 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 19.69 %
การส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนกันยายน 2567มีจำนวนส่งออก 69,753 คัน (รวมCBU + CKD) เพิ่มขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2567 19.30 % แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2566 14.12 % โดยมีมูลค่า 4,504.42 ล้านบาท ลดลงจากเดือนกันยายน 2566 5.87 % รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์ เดือนกันยายน 2567 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ 4,948.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน2566 8.01%
เดือนมกราคม – กันยายน2567รถจักรยานยนต์ มีจำนวนส่งออก 601,296คัน (รวมCBU + CKD)ลดลงจากปี2566 0.08 % มีมูลค่า 46,188.66 ล้านบาท ลดลงจากปี 2566 8.26 % รวมมูลค่าการส่งออกรถจักรยานยนต์เดือนมกราคม
– กันยายน 2567 ชิ้นส่วนและอะไหล่รถจักรยานยนต์ มีทั้งสิ้น 49,575.59 ล้านบาท ลดลงจากเดือนมกราคม - กันยายน2566 8.50 %
ด้านยานยนต์ไฟฟ้าป้ายแดงประเภท BEV มียอดจดทะเบียนใหม่มีจำนวน 6,606 คัน ลดลงจากเดือนกันยายนปีที่แล้ว 25.81% ซึ่งหากดู 9 เดือน BEV ยังคงมีตัวเลขจดทะเบียนใหม่สะสมจำนวน 75,653 คัน เพิ่มขึ้น 11.67%
ดังนั้นเป้าที่กลุ่มอุตสาหกรรม และค่ายรถคาดการกันไว้จะต้องมีการลดลงจาก 750,000 คัน ตอนนี้เหลือ 600,000 บาท และเหลืออีกไม่กี่เดือนสิ้นปีตัวเลขอาจจะปรับลงมาเหลือ 550,000 คัน ก็เป็นได้