โนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า “ ปีนี้ สถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยยังคงเผชิญความท้าทายมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดที่หดตัวลง แต่ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวโตโยต้านับว่าประสบความสำเร็จเราสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดได้ 38% สูงสุดในรอบ 13 ปี จากรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวไป
ปัจจุบัน ตลาดรถ xEV มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย สัดส่วนตลาด xEV ในปีนี้ (ข้อมูลถึงเดือนกันยายน 2567) ขยายตัวอยู่ที่ 36% ของตลาดรวม โดยยอดขายรถยนต์ไฮบริดเติบโตที่ 21% ในขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 13% ทำให้รถยนต์ไฮบริดกลายเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าชาวไทย
ปีนี้ โตโยต้ายังสามารถครองความเป็นผู้นำด้านยอดขายในตลาด xEV ด้วยยอดขาย HEV สูงที่สุดในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จากความสำเร็จด้วยยอดขายของยาริส ครอส ที่เปิดตัวปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกที่เหมาะสมสอดคล้องกับการใช้งานจริงในปัจจุบัน
ยามาชิตะ กล่าวต่อไปว่า “เพื่อต่อยอดความสำเร็จของรถไฮบริด โตโยต้าพร้อมแนะนำ ALL-NEW CAMRY ที่มากับรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดในทุกไลน์อัพ เพื่อตอบรับความต้องการที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วของรถเครื่องยนต์ไฮบริด HEV ในระดับราคาที่หลากหลาย ผมเชื่อว่า ALL-NEW CAMRY จะสร้างความภาคภูมิใจในการเป็นเจ้าของ ผ่านเทคโนโลยีไฮบริด โดยเราตั้งเป้าหมายการขายที่ 10,000 คัน ต่อปี”
โตโยต้าเปิดตัว Camry สู่ประเทศไทยเป็นครั้งแรกเมื่อพ.ศ. 2536 ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากลูกค้าทั้งภายในประเทศและในต่างประเทศ นับตั้งแต่การเปิดตัว ยอดจำหน่ายสะสมในประเทศอยู่ที่กว่า 230,000 คัน (ข้อมูลยอดขายตั้งแต่พ.ศ. 2536 ถึงเดือนสิงหาคม 2567) และเราได้ส่งออก Camry มากกว่า 130,000 คัน ไปจำหน่ายยังประเทศอื่นๆ กว่า 10 ประเทศ (ข้อมูลยอดส่งออกตั้งแต่พ.ศ. 2550 ถึงเดือนสิงหาคม 2567) อีกทั้งยังเป็นรถโมเดลหลักที่มีความสำคัญในเซกเมนต์รถยนต์นั่งขนาดกลางในประเทศไทย
ที่สำคัญ Camry HEV ยังเป็นรถที่บุกเบิกตลาดรถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า (xEV) ของประเทศไทย โดยโตโยต้าเริ่มการผลิตและแนะนำ Camry HEV รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดในปีพ.ศ. 2552 จากนั้นเป็นต้นมา ยังได้พัฒนายนตรกรรมไฮบริดให้ดียิ่งขึ้นอีกหลายรุ่น เพื่อมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลายในรถประเภทนี้
ศุภกร รัตนวราหะ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเสริมว่า สถานการณ์การจำหน่ายรถในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวม และการไม่อนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงินต่าง ๆ ทำให้ยอดขายรถยนต์โดยรวมอาจจะต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ว่าจะมียอดขายรวม 650,000 คัน เหลืออยู่ 600,000 คัน ในปีนี้
ส่วนตลาดอีวี ปีนี้มีการประเมินว่าจะไตร่ระดับขึ้นไป 17-18 % เนื่องจากมีแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น บวกกับผู้ประกอบการหลายค่ายเริ่มผลิตรถยนต์อีวีจากฐานการผลิตในประเทศไทย ซึ่งน่าจะทำให้ตลาดอีวีมีการเติบโต แต่ผิดคาด ปัจจุบันมีเพียง 13-14 % ซึ่งเป็นตัวเลขใกล้กับปีก่อน
“ในปีหน้าโตโยต้าเตรียมส่ง ยาริส ไฮบริด มาเสริมทัพตลาดไทยอย่างแน่นอน” ศุภกร กล่าวตบท้าย