xs
xsm
sm
md
lg

อีซูซุ MU-X ขับง่าย นุ่มนวล หน้าตาดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลังการเปิดตัว MU-X ไมเนอร์เชนจ์ 2024 ค่ายอีซูซุ เชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะรถอเนกประสงค์ MU-X “THE NEXT PEAK” (มิว-เอ็กซ์ “เดอะ เน็คซ์พีค”) บนเส้นทางเชียงราย – เชียงใหม่ พร้อมร่วมทำกิจกรรมหลากหลายระหว่างทางการทดสอบในครั้งนี้

สำหรับรถที่ทางอีซูซุจัดมาให้มีทั้งรุ่น RS และและรุ่น Ultimate แต่ที่จำหน่ายทั้งหมดมี 4 รุ่นคือ
MU-X RS ราคาเริ่มต้น 1,659,000 บาท
MU-X Ultimate ราคาเริ่มต้น 1,544,000 บาท
MU-X Elegant ราคาเริ่มต้น 1,544,000 บาท
MU-X Active ราคาเริ่มต้น 1,184,000 บาท


Isuzu MU-X 2024 ได้รับการพัฒนาให้ดีกว่ารุ่นเดิม ด้วยการเพิ่มรุ่นตกแต่งพิเศษ RS เป็นตัวท็อปใหม่ โดยยังมีรุ่น Ultimate, Elegant และ Active ที่มีออพชันลดหลั่นกันไปอยู่เหมือนเดิม โดยทั้ง 4 รุ่น มีทั้งเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 3.0 ลิตร Ddi Blue Power ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 1.9 ลิตร Ddi Blue Power กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมด Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย มีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และ 4 ล้อ พร้อมระบบ Rough Terrain Mode ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ


สำหรับผู้เขียนได้รุ่น Ultimate มีสมาชิก 3 คนสลับขับ จากสื่อออโต้วิชั่นและออโต้ไอรอน แต่ก่อนจะบอกกล่าวถึงสมรรถนะในการขับขับขี่ เรามาทำความรู้จักกับรุ่นรองท็อปกันก่อน

สิ่งที่เปลี่ยนแปลงของรุ่น Ultimate คือเพิ่มกระจังหน้าใหม่ Diamond Grille หรูหราด้วยวัสดุสีดำ Titanium Carbide ,ไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ Dynamic Blade แบบ Full LED พร้อมดีไซจ์นสปอร์ทด้วยเส้น Embrace Line ล้ออัลลอยใหม่ Dynamic Turbine ขนาด 20 นิ้ว สี Magnetite II พร้อมดีเทลก้านล้อแมกแบบ 3D

ภายใน Modern Luxe ปรับเบาะนั่งให้หรูยิ่งขึ้นด้วยโทนสี Truffle Brown-Black ให้ความรู้สึกอบอุ่น High Class ,เบาะ 7 ที่นั่ง ดีไซจ์นใหม่ สี Truffle Brown ที่โอบรับสรีระด้วยวัสดุ Cool Max ลดการสะสมความร้อน ,คอนโซลหน้าดีไซจ์นใหม่ สี Truffle Brown ตกแต่งด้วยวัสดุ Piano Black-Satin Silver ,มีไฟขาว สร้างบรรยากาศภายในห้องโดยสาร White Ambient Light


พวงมาลัยไฟฟ้า (Electric Power Steering) ขับสบายคล่องตัว ทั้งในเมือง และนอกเมือง,ระบบ Infotainment Display ขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย สามารถแสดงผลได้หลากหลาย เช่น ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS การแสดงสถานะของระบบขับเคลื่อน ระบบแสดงองศามุมปีนไต่ ลาดเอียง และทิศทางการเลี้ยวของล้อ

ฝาท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า และหยุดเมื่อมีสิ่งกีดขวาง Jam Protection ,เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้า ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง เบาะตอน 2 และ 3 ปรับเอนได้ พร้อมพับได้ราบสนิท เพิ่มพื้นที่เก็บของเข้า-ออกแบบ One Touch ,สีใหม่ล่าสุด Eiger Gray Opaque


ความปลอดภัย ADAS Generation ล่าสุด เพิ่มเติมใหม่ 5 ระบบ กล้องคู่หน้า พร้อมเรดาร์ 2 จุด และเซนเซอร์ 8 จุดรอบคัน ,ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKAS (Lane Keep Assist System), ระบบช่วยควบคุมทิศทางของรถตามคันหน้า TJA (Traffic Jam Assist) ,ระบบช่วยให้รถอยู่ในเลน ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ELK (Emergency Lane Keeping) ,ระบบช่วยควบคุมรถไม่ให้ออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention) และระบบแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน พร้อม LDW (Lane Departure Warning) ,ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติขณะถอย RCTB (Rear Cross Traffic Brake) พร้อมระบบช่วยเตือนขณะถอย RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ,ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมฟังค์ชัน Stop and Go ACC (Full Speed Range Adaptive Cruise Control) ,ระบบช่วยแจ้งเตือนก่อนการชนด้านหน้า FCW (Forward Collision Warning) พร้อมระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ AEB (Autonomous Emergency Braking) ,ระบบช่วยแจ้งเตือนจุดอับสายตา BSM (Blind Spot Monotoring) ,ระบบเซนเซอร์ช่วยจอดรถยนต์ Parking Aid System ,ระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติเมื่อมีรถสวนทางขณะเลี้ยวขวา TA-AEB (Turn Assist with Autonomous Emergency Braking) ,ระบบช่วยควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ AHB (Automatic Hight Beam) ,ระบบช่วยตัดกำลังเครื่องยนต์เมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด PMM (Pedel Misapplication Mitigation) ,ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติหลังการเกิดอุบัติเหตุ MCB (Multi-Collision Brake) ,ระบบช่วยตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดด้วยตัวเอง MSL (Manual Speed Limiter)และเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยก่อน และหลังการชน (Active and Passive Safety)


Isuzu MU-X รุ่น Ultimate มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 รุ่น คือ ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 3.0 ลิตร Ddi Blue Power ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ขนาด 1.9 ลิตร Ddi Blue Power กำลังสูงสุด 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ พร้อมโหมด Rev Tronic และ Sequential Paddle Shift ที่พวงมาลัย มีเฉพาะระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง โดยมีสีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเทาใหม่ Eiger Gray Opaque, สีขาวมุก Dolomite White Pearl, สีดำ Bavarian Black Mica, สีแดง Etna Mica, และสีเงิน Iceberg Silver Mica


เริ่มต้นทริปฝ่าสายฝนไปกับบรรยากาศสีเขียวขจี พร้อมสุดยอดรถอเนกประสงค์ MU-X “THE NEXT PEAK” (มิว-เอ็กซ์ “เดอะ เน็คซ์ พีค”) สำหรับในรุ่น RS มาพร้อมชุดแต่ง RS Design รอบคัน พวงมาลัยไฟฟ้า แถมมีกล้อง 360 องศา ทำให้ไม่ว่าจะทางตรง ทางโค้ง ถนนแห้งหรือถนนเปียกก็ขับได้อย่างมั่นใจ และสะดวกสบายตลอดเส้นทาง แต่คันของเราเป็นรุ่นรองท็อป แม้ไม่มีกล้อง 360 องศา ก็ไม่ใช่ปัญหา ขับขี่กันได้อย่างสบายใจเช่นกัน แต่ระบบช่วยเหลือการขับขี่ ADAS Generation ล่าสุด กล้องหน้าคู่ พร้อมเรดาร์ 2 จุด และ เซ็นเซอร์ 8 จุดรอบคัน และระบบความปลอดภัย Active & Passive Safety ทำให้ มันใจในการขับขี่


จุดหมายแรกอยู่ที่ร้านอาหาร ปางแฟน Rock & River ร้านอาหารและคาเฟ่ริมลำธารใกล้ชิดธรรมชาติ รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ทำให้บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบายมากยิ่งขึ้น ให้ทุกคนได้อิ่มอร่อยกับเมนูอาหารและเครื่องดื่มหลากหลาย ก่อนมุ่งหน้าต่อไปยังที่พักสุดหรู โฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ ตั้งอยู่อำเภอแม่ริม


ด้วยคอนเซ็ปต์ของรีสอร์ทที่เน้นความเป็นธรรมชาติที่กลมกลืนกับวิถีชุมชนรอบ ๆ จึงมีกิจกรรมให้ผู้เข้าพักร่วมสัมผัสธรรมชาติและท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดในกิจกรรม Farmer’s Parade กิจกรรมสำรวจทุ่งนา และถ่ายภาพกับน้องควาย ปิดท้ายวันด้วยอาหารฝรั่งเศสสไตล์อิตาเลี่ยนที่ร้านแทร์รา (Terra) ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ที่ชวนให้นึกถึงอิตาลี เมนูอาหารจานเด่นของร้านได้วัตถุดิบออแกนิคสดใหม่จากบนดอยมาปรุงสดใหม่วันต่อวัน ให้ทุกคนได้ลิ้มรสความอร่อย ก่อนเดินทางกลับโรงแรมเพื่อชาร์จพลังพร้อมลุยต่อไปในวันรุ่งขึ้น


หลังจากขับกันมาทั้งวันตั้งแต่เชียงรายมาเชียงใหม่ ผ่านฝน ผ่านเขา ขึ้นและลง หลายโค้ง ก็รู้สึกว่าพอมาเป็นพวงมาลัยไฟฟ้าทำให้การขับง่ายขึ้น สบายขึ้น ควบคุมง่าย ขับไม่เหนื่อย อัตราเร่งความเร็วได้อย่างทันใจ แต่ไม่ได้ออกแนวดุดัน การทำงานของรอบเครื่องยนต์และรอยต่อของเกียร์ในทุกจังหวะการเร่ง ถือว่าทำงานได้ราบเรียบ นุ่มนวล


ช่วงล่างผ่าน นุ่มนิ่มไม่กระด้าง วิ่งผ่านพื้นผิวถนนปกติหรือขับในเมืองนั่งสบาย แต่ถ้าเจอผิวขรุขระมีกระเด้งเล็กน้อย ถือเป็นเรื่องปกติของรถประเภทนี้ การเข้าโค้งไม่โยน ไม่ย้วย ทรงตัว ถือเป็นรถพีพีวีหรือเอสยูวี อีกคันที่ขับสบาย


เริ่มต้นวันใหม่ด้วยมื้อเช้าที่ โฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ พวกเราต้องละทิ้งรถแล้วเปลี่ยนไปนั่งรถตู้เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเชียงใหม่ที่ทางอีซูซุเตรียมไว้ให้ ส่วนรถทั้ง 7 คัน ส่งต่อให้กับสื่อมวลชนกลุ่ม 3 ที่บินมาจากรุงเทพฯเพื่อขับต่อไปยังจังหวัดเชียงราย


สถานที่แรกพวกเราเดินทางไปยังร้าน Firefly Factory ร้านอาหารสไตล์ดิจิทัลอาร์ตแกลอรี่ที่แรก และที่เดียวในเชียงใหม่ ที่พาทุกคนดื่มด่ำกับภาพดิจิทัลในห้องนิทรรศการสุดอลังการ และอาหารมื้ออร่อย ห้องแสดงเป็นห้องอาหารอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่ที่ผนังทุกด้าน รอบทิศฉายโปรเจคเตอร์กราฟฟิคภาพเคลื่อนไหว คอลเลคชั่นใหม่ ทั้งดอกทานตะวัน กลีบดอกกุหลาบ ผีเสื้อ และน้ำตก เสมือนของจริงดูอลังการมีมิติ พร้อมเสียงดนตรีเบา ๆ เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินสุดประทับใจของเชียงใหม่ที่ไม่ควรพลาด


ปิดท้ายด้วยกิจกรรม Tea Blending การเลือกชาและสมุนไพรมาผสมกันจนได้รสชาติที่ชื่นชอบตามสไลต์ของแต่ละคน ที่โครงการบ้านข้างวัด แหล่งขายสินค้าพื้นเมืองตามแนวคิดที่ต้องการสร้างชุมชนให้มีวิถีชีวิตคล้ายกับผู้คนในสมัยก่อน ที่รายล้อมด้วยธรรมชาติ ซึ่งภายในโครงการจะมีบ้านกึ่งไม้กึ่งปูนเปลือย ตกแต่งด้วยข้าวของเครื่องใช้แบบโบราณ ซึ่งแต่ละหลังจะเปิดเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และมีลานกิจกรรมตรงกลางหมู่บ้านสำหรับจัดงานและทำกิจกรรมร่วมกัน




กำลังโหลดความคิดเห็น