Honda HR-V e:HEV โฉมไมเนอร์เชนจ์ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่สหราชอาณาจักร พร้อมดีไซน์ถอดแบบจากเวอร์ชันญี่ปุ่น ปรับปรุงเพิ่มวัสดุเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร มีให้เลือกเฉพาะเครื่องยนต์ไฮบริด e:HEV เช่นเดิม
ฮอนด้า เอชอาร์-วี โฉมไมเนอร์เชนจ์ มีการปรับดีไซน์ภายนอกแตกต่างไปจากเดิมพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้าแบบแอลอีดีที่ถูกตกแต่งรายละเอียดใหม่ พร้อมกระจังหน้าสีเดียวกับตัวรถที่เสริมด้วยแถบแนวนอนพาดเชื่อมไฟหน้าทั้งสองข้างเข้าไว้ด้วยกัน
ขณะที่ด้านท้ายมีการปรับดีไซน์ไฟท้ายใหม่ โดยชุดโคมด้านในถูกออกแบบให้มีเส้นสายเฉียบคมยิ่งขึ้น พร้อมปรับรายละเอียดแถบแอลอีดีเป็นแบบ 2 ชั้น ช่วยเพิ่มความแปลกตาขึ้นพอสมควร ทั้งยังมีการปรับดีไซน์กันชนหน้า-หลัง และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่
ภายในห้องโดยสารมีการปรับรายละเอียดส่วนล่างของแผงคอนโซล ซึ่งฮอนด้าระบุว่าจะช่วยให้สามารถใช้งานแท่นชาร์จไร้สายได้สะดวกมากขึ้น ขณะที่คอนโซลกลางระหว่างผู้โดยสารตอนหน้าถูกออกแบบให้มีความสูงลดลง ช่วยให้ผู้โดยสารไม่รู้สึกอึดอัด พร้อมกับเพิ่มวัสดุซับเสียงภายในห้องโดยสารเพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก
รุ่นท็อปสุดที่เรียกว่า Advance Style Plus มาพร้อมหลังคากระจกพาโนรามิกแบบ Fixed ที่ไม่สามารถเปิดออกได้เช่นเดิม
ส่วนอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ ยังคงยกมาจากรุ่นก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว Honda CONNECT รองรับ Apple CarPlay / Android Auto, หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว, เบาะนั่งคู่หน้าแบบปรับมือ, ประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี เป็นต้น
นอกจากนี้ ฮอนด้า เอชอาร์-วี ไมเนอร์เชนจ์ที่วางจำหน่ายในสหราชอาณาจักรมีระบบเตือนมุมอับสายตา Blind Spot Information เป็นมาตรฐานทุกรุ่นย่อย เสริมด้วยระบบ Cross Traffic Monitor ตั้งแต่รุ่นกลางขึ้นไป รวมถึงกล้องมองภาพรอบคัน Multi-View Camera ในรุ่นท็อปและรองท็อป
ด้านขุมพลังยังคงติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริด e:HEV ที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ i-VTEC ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 107 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 131 นิวตัน-เมตร และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 131 แรงม้ แรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 10.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม.
ฮอนด้า เอชอาร์-วี โฉมไมเนอร์เชนจ์มีกำหนดวางจำหน่ายที่ยุโรปภายในเดือนกันยายน 2567 นี้