All-new MG ZS เจเนอเรชันที่ 2 พร้อมขุมพลัง Hybrid+ 1.5 ลิตร ถูกเผยโฉมก่อนเริ่มวางจำหน่ายที่สหราชอาณาจักรปลายปี 2567 นี้ ราคาเริ่มต้น 21,995 ปอนด์ หรือประมาณ 990,000 บาท
MG ZS เจเนอเรชันที่ 2 มีการปรับโฉมใหม่หมดจดทั้งคัน โดยยังคงวางตำแหน่งในกลุ่ม B-SUV ที่มีราคาจำหน่ายเข้าถึงได้ง่าย มาพร้อมไฟหน้าแบบ LED ดีไซน์โค้งมน รับกับกระจังหน้าขนาดใหญ่คล้ายกับที่พบอยู่ใน All-new MG3 โฉมปัจจุบัน
ดีไซน์ภายนอกของ MG ZS (Gen 2) ยังคงเน้นความเป็นรถเอสยูวีด้วยการตกแต่งซุ้มล้อและส่วนล่างของตัวถังด้วยวัสดุสีดำ เน้นสายบริเวณประตูและขอบกระจกเน้นความโค้งมนมากยิ่งขึ้น ติดตั้งไฟท้ายแบบ LED ที่ดูสวยลงตัวกว่ารุ่นเดิม พร้อมล้ออัลลอยสีทูโทนขนาด 17 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารถูกติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาให้ครบครันตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay กล้องมองหลังพร้อมเซ็นเซอร์กะระยะ รวมถึงมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และลำโพง 6 ตำแหน่ง
และหากเพิ่มเงินเป็นรุ่นท็อปสุดที่เรียกว่า Trophy จะถูกเพิ่มเติมด้วยเบาะนั่งหุ้มหนัง ปรับไฟฟ้าฝั่งผู้ขับขี่ กล้องมองภาพรอบคัน กระจกหน้าต่างแบบ Privacy Glass และเพิ่มขนาดล้ออัลลอยเป็น 18 นิ้ว
ด้านระบบความปลอดภัยของเวอร์ชันสหราชอาณาจักรมีการติดตั้งระบบ MG Pilot ที่ประกอบด้วย ระบบควบคุมความเร็วแปรผันอัตโนมัติ, ระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในเลน, ระบบเตือนรถออกนอกเลน และระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ ที่สามารถตรวจจับคนเดินถนนและผู้ใช้จักรยานได้
MG ZS Hybrid+ ติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริดที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า (PS) และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 136 แรงม้า ให้กำลังรวมสูงสุดทั้งระบบ 196 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 343 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 8.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 167 กม./ชม.
All-new MG ZS Hybrid+ จะเริ่มวางจำหน่ายแก่ลูกค้าในสหราชอาณาจักรตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป