โตโยต้า เลือกประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีสภาพแวดล้อมแบบออฟโรดสุดหฤโหดเช่น ภูเขา เนินทราย พื้นที่ทะเลทรายห่างไกล ที่สำคัญกว่า 60 % เป็นถนนลูกรัง รวมถึงสภาพอากาศที่หลากหลาย เพื่อทดสอบและประเมินประสิทธิภาพ สำหรับ ไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ต ในการสร้างโมเดล “ฮีโร่” ออฟโรดตัวจริง ด้วยสมรรถนะที่แท้จริง และผลลัพธ์สุดท้ายคือ ไฮลักซ์ สามารถบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพในทุกพื้นที่
นอกจากนี้เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดยังได้รับการปรับจูนใหม่เพื่อประสิทธิภาพกำลังเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้น ระบบช่วงล่างยังได้รับการพัฒนาโดยติดตั้งโช้คอัพแบบ Monotube ของ KYB ที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังใส่ยาง BF Goodrich ขนาด 265/65R17 ที่การันตีความแข็งแกร่งทนทานพร้อมลุยทุกเส้นทางเพื่อเสริมเสถียรภาพในการขับขี่บนท้องถนน ตลอดจนเพิ่มสมรรถนะการขับขี่บนเส้นทางแบบออฟโรดของไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ต ให้ดียิ่งขึ้น โดยยางทุกเส้นมาพร้อมกับล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว
ยังมีการเสริมรูปลักษณ์ของ ไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ต ให้ดูบึกบึนด้วยการขยายระยะล้อให้กว้างขึ้นอีก 135 มิลลิเมตรที่ด้านหน้า และ 155 มิลลิเมตรที่ด้านหลัง กระจังหน้าสีดำพร้อมตัวอักษรคำว่า TOYOTA และกันชนหน้าขนาดกว้างกับคิ้วตกแต่งสีเงิน และยังเสริมโป่งล้อสีเทาเข้มใหม่ช่วยเพิ่มระยะฐานล้อและในขณะเดียวกันก็มีตราสัญลักษณ์สีดำ มือจับประตูและกระจกมองข้างที่ช่วยเสริมให้ ไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ต มีรูปลักษณ์ที่บึกบึนทรงพลังและรุ่นนี้มาพร้อมดิสก์เบรกสีแดงแบบมีครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ พร้อมโลโก้ จีอาร์ เพื่อสื่อให้เห็นถึงสมรรถนะของรถรุ่นนี้
ยิ่งกว่านั้นภายในห้องโดยสารยังได้รับการพัฒนาอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็นเบาะที่ถูกหุ้มด้วยวัสดุหนังผสมกลับสีน้ำเงินแบบเจาะรูและเดินด้ายสีเทา อีกทั้งยังมีการติดตั้งเข็มขัดนิรภัยสีแดงเพื่อเพิ่มความโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ตตามแบบฉบับของรถสายพันธุ์ จีอาร์ ด้านคนขับจะมีพวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมสัญลักษณ์สีแดง โลโก้ จีอาร์ และแป้นแพดเดิลชิฟที่พวงมาลัยแป้นเหยียบอลูมิเนียมช่วยเสริมการตกแต่งสไตล์ “Technical Mesh” แบบใหม่บนแผงหน้าปัดและประตูให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ในด้านความปลอดภัยมีมาให้ครบครัน
อย่างไรก็ตามนั้นคือไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ต สเปคเมืองไทย แต่สำหรับรถที่เราจะขับกันในประเทศออสเตรเลียเป็นสเปคออสเตรเลีย ซึ่งจะว่าไปก็ไม่แตกต่างกันเท่าไรนัก
โดยสเปคออสเตรเลีย จะเป็นยาง Bridestone ,แผ่นป้ายกันใต้รถสีน้ำเงิน มีชุดลากจูง,บันไดข้างดีไซน์เฉพาะ ,พื้นปูกระบะดีไซน์เฉพาะ ,แถบลดแสง,ลำโพง JBL 9 จุด ,จอ 8 นิ้ว,ระบบอุ่นเบาะคู่หน้า
สำหรับเส้นทางที่พวกเราจะได้ลองขับในประเทศออสเตรเลีย มีทั้งถนนแบบออนโรดและออฟโรด วันแรกเรานั่งเครื่องเหมาลำจาก Melbourne ไปยัง Port Augusta และเริ่มขับจากจุดนี้บนเส้นทางออนโรดระยะทาง 196 กิโลเมตร และขับบนเส้นทางออฟโรดอีก 49 กิโลเมตร มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติ Lkara-Flinders Ranges National Park
ภาพรวมทดสอบในวันแรก ก็เป็นการขับบนไฮเวย์ ซึ่งเป็นถนนลาดยาง ทางตรง โล่งๆ สิ่งที่ต้องระวังคือการหลับในแต่บังเอิญมีเพื่อนนั่งอีก 3 คนเลยไม่ง่วง บวกกับวิวทิวทัศน์แปลกตาจากบ้านเราเลยขับเพลิน ๆ ขับไปได้สักพักใหญ่มีจุดแวะพักเข้าห้องน้ำและสลับคนขับ การขับช่วงแรกจึงเป็นแบบชิล ชิล แต่ที่ต้องระวังคือความเร็ว เพราะเขาจะมีป้ายบอกริมทางตลอดว่าต้องใช้ความเร็วเท่าไร และเราต้องปฏิบัติตามกฎกติกาของประเทศเขาไม่เช่นนั้นโดนค่าปรับอ่วมแน่นอน
อีกช่วงหนึ่งเป็นทางลูกรัง 49 กิโลเมตร เส้นทางนี้เป็นการทดสอบ การขับขี่แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ การควบคุมพวงมาลัย การทรงตัว เราจะรู้สึกได้เลยว่าขับได้อย่างมั่นใจในตัวรถ การตอบสนองเครื่องยนต์และเกียร์มีการตอบสนองได้ดี เร่งแซงได้ทุกย่านความเร็ว รวมถึงระบบช่วยต่าง ๆ เช่น VSC ระบบการควบคุมการทรงตัวและระบบ TRC ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการลื่นไถลในกรณีที่รถเสียความทรงตัว ในช่วงใช้ความเร็วบนถนนลูกรังระบบดังกล่าวจะช่วยให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ซึ่งเส้นนี้เราได้เห็นสัตว์หลายตัว อยู่ข้างทาง ยืนเด่นให้ถ่ายรูป
สำหรับการขับขี่วันที่สอง ทางเจ้าหน้าที่ของออสเตรเลีย เตรียมหลาย Station ให้ทดสอบขับ เริ่มจากสเตชั่นแรกเป็นการขับผ่านทางน้ำไหลแต่น้ำไม่มีแล้ว เราก็ไต่หินแหลม ๆ ทางขรุขระ ขึ้นเนินเล็กใหญ่ โดยใช้โหมด L4 ทดสอบในเรื่องของแรงบิดต่าง ๆ ซึ่งสามารถผ่านอุปสรรคได้อย่างสบาย รู้สึกเลยว่าขับง่ายมาก แค่ควบคุมพวงมาลัยและปล่อยให้ระบบทำงาน รวมไปถึงช่วงล่างทีมีการดูดซับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี
สเตชั่นที่สองเป็นการขับขึ้นทางชัน ไต่ขึ้นเขา ลูกแล้วลูกเรา ถนนเป็นลูกรัง ขรุขระ มีหน้าผาด้านซ้าย ขับกันอย่างระมัดระวัง รถค่อย ๆ ไตร่ขึ้นไป นั่งกันไป 3 คน หัวสั่นหัวคลอน แต่ไม่เมา สถานีนี้ทดสอบในเรื่องของแรงบิดระบบช่วยต่าง ๆ ในการขับขี่
สเตชั่นที่สาม อันนี้เป็นทางฝุ่นเจ้าหน้าที่ให้ขับด้วยความเร็วแต่ไม่เกิน 80 กิโลเมตร ถนนเป็นลูกรัง ด้วยเป็นถนนปิด ไม่มีรถเลย ยกเว้นเรา ก็เหยียบไปเต็ม ๆ เกินร้อยทุกสื่อ ต้องบอกว่าช่วงใช้ความเร็ว รถนิ่งมาก การทรงตัวทำได้ดี ขับแบบมั่นใจ เครื่องยนต์เร่งทะยานได้ตลอดทุกเกียร์ รวมถึงระบบช่วยในการขับ VSC และระบบ Traction Control ทำให้ขับแล้วมั่นใจมาก
ถึงบรรทัดนี้ต้องบอกว่า เส้นทางที่ทีมงานออสเตรเลียจัดให้สื่อมวลชนไทยได้ลองสมรรถนะของรถ ไฮลักซ์ รีโว่ จีอาร์ สปอร์ตบนเส้นทางธรรมชาติของประเทศนี้เป็นเวลาสองวัน ถือว่าเป็นการขับรถที่สนุกมาก ได้ลองทดสอบทั้งระบบ 4H- 4L ขับแบบมั่นใจ บวกกับเครื่องยนต์อันทรงพลัง 224 แรงม้า 550 นิวตันเมตรกับช่วงล่างแบบเฟิร์ม ๆ ทำให้รถแผงฤทธิ์ได้อย่างเต็มที ไม่ผิดหวัง เสมือนเราเป็นนักแข่งรถในสนามแรลลี่ ดาการ์ กันเลยทีเดียว