Porsche 911 Carrera GTS (992.2) ใหม่ ติดตั้งขุมพลังไฮบริด 3.6 ลิตร กำลังสูงสุดมากถึง 541 แรงม้า (PS) เป็นครั้งแรกในตระกูล 911 เคาะราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทยเริ่มต้น 17,400,000 บาท และรุ่น 911 Carrera 4 GTS เริ่มต้น 18,200,000 บาท
Porsche 911 Carrera GTS และ Carrera 4 GTS ถือเป็นครั้งแรกในตระกูล 911 ที่ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริด T-Hybrid โดยปอร์เช่ระบุว่ามีน้ำหนักเบาและทรงพลัง มาพร้อมเครื่องยนต์ Boxer ทำงานคู่กับเทอร์โบชาร์จไฟฟ้าจำนวน 1 ตัว โดยมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 15 แรงม้า (11 kW) จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของเทอร์โบให้ทำงานได้อย่างฉับไว จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยเทอร์โบคู่เหมือนกับเครื่องยนต์เทอร์โบรุ่นเดิม
ระบบไฮบริด T-Hybrid ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์สูบนอน 6 สูบ ขนาด 3.6 ลิตร กำลังสูงสุด 485 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 570 นิวตัน-เมตร เมื่อทำงานคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าจะให้กำลังสูงสุด 541 แรงม้า (PS) เพิ่มขึ้น 61 แรงม้า เมื่อเทียบกับ 911 Carrera GTS เดิม แรงบิดสูงสุด 610 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์คลัตช์คู่ 8 สปีด (PDK) สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.0 วินาที เมื่อติดตั้ง Sport Chrono Package ความเร็วสูงสุด 312 กม./ชม.
แบตเตอรี่ไฮบริดถูกออกแบบให้มีขนาดและน้ำหนักเทียบเท่ากับแบตเตอรี่ 12 โวล์ตทั่วไป โดยมีความจุไฟฟ้า 1.9 kWh ทำงานด้วยแรงดันไฟฟ้า 400 โวลต์ ขณะที่คอมเพรสเซอร์ระบบปรับอากาศถูกเปลี่ยนไปใช้ระบบไฟฟ้า โดยปอร์เช่ระบุว่าระบบไฮบริด T-Hybrid จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ให้ดีขึ้น ควบคู่ไปกับการลดการปล่อย CO2 ลง อีกทั้งยังมีน้ำหนักน้อยกว่าเครื่องยนต์แบบ Plug-in Hybrid เนื่องจากมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นจาก 911 Carrera GTS เดิมเพียง 50 กก. เท่านั้น
นอกจากนี้ Porsche 911 Carrera GTS ยังมีการปรับปรุงช่วงล่างด้วยการติดตั้งระบบเลี้ยวล้อหลัง (Rear-axle steering) เป็นอุปกรณ์มาตรฐานโดยไม่ต้องสั่งซื้อเพิ่ม พร้อมทั้งปรับปรุงระบบลดอาการโคลง Porsche Dynamic Chassis Control (PDCC) เข้ากับระบบไฮบริดเพื่อทำงานในรูปแบบไฮดรอลิกไฟฟ้า (Electro-hydrolic) ส่งผลให้มีการทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ขณะที่ช่วงล่างมีการลดความสูงลง 10 มม. เพื่อคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์การขับขี่ตามฉบับ GTS
ดีไซน์ภายนอกของ 911 Carrera GTS มีการติดตั้งครีบดักอากาศแนวตั้งที่กันชนหน้า ซึ่งสามารถปรับองศาอัตโนมัติเพื่อรักษาประสิทธิภาพการระบายความร้อนอย่างเหมาะสม โดยหากเป็นการขับขี่ปกติที่ไม่ต้องการพละกำลังมาก ครีบที่กันชนหน้าจะอยู่ในตำแหน่งปิดเพื่อลดแรงต้านอากาศ แต่หากต้องการพละกำลังที่มากขึ้น (เช่น ขณะอยู่บนสนามแข่ง) ครีบจะเปิดออกเพื่อเสริมประสิทธิภาพการระบายความร้อน
นอกจากนี้ ลูกค้ายังสามารถเลือกออปชันเสริมเป็นไฟหน้าแบบ HD Matrix LED ดีไซน์ใหม่ ที่มีจุดส่องสว่างมากถึง 32,000 จุด สามารถส่องไปข้างหน้าได้ไกลกว่า 600 เมตร อีกทั้งยังมีฟังก์ชันสุดล้ำมากมาย เช่น Dynamic cornering light, Lane Brightening, Contruction site and bottleneck light และไฟสูงอัตโนมัติที่สามารถปรับการทำงานได้อย่างละเอียดระดับพิกเซล
ภายในห้องโดยสารของรุ่น Coupé มีการติดตั้งเบาะนั่งแบบ 2 ที่นั่งเป็นมาตรฐาน และสามารถเลือกเบาะนั่งแบบ 2+2 ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกที่มีการติดตั้งปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ในรุ่น 911 ขณะที่มาตรวัดความเร็วถูกเปลี่ยนไปใช้หน้าจอโค้งขนาด 12.6 นิ้ว ที่สามารถเลือกแสดงผลได้ 7 แบบ พร้อมหน้าจออินโฟเทนเมนท์ Porsche Communication Management (PCM) ขนาด 10.9 นิ้ว ที่รองรับการทำงาน Apple CarPlay ได้ดียิ่งขึ้น โดยสามารถใช้งาน Spotify และ Apple Music แม้ไม่ได้เชื่อมต่อกับไอโฟนอยู่ก็ตาม
