All-new Honda Freed เจเนอเรชันที่ 3 พร้อมขุมพลังไฮบริด e:HEV ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนเริ่มวางจำหน่ายจริงในเดือนมิถุนายน 2567 นี้
ฮอนด้าประเทศญี่ปุ่นเผยโฉมรถคอมแพ็กเอ็มพีวี "Freed" เจเนอเรชันที่ 3 ภายหลังจากที่เจเนอเรชันที่ 2 ถูกทำตลาดในญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2559 โดยมีการแบ่งออกเป็น 2 เกรดหลัก ได้แก่ Freed Air ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง และ Freed Crosstar ที่เลือกได้ทั้งรุ่น 5 ที่นั่ง และ 6 ที่นั่ง
ตัวถังของ Honda Freed ใหม่ ยังคงเน้นขนาดกะทัดรัดเพื่อความคล่องตัวในการขับขี่ มาพร้อมเส้นสายที่ดูเรียบง่ายสะอาดตา พร้อมทั้งยังคงเอกลักษณ์ประตูคู่หลังเปิด-ปิดด้วยระบบสไลด์ไฟฟ้า ขณะที่ด้านท้ายถูกออกแบบไฟท้ายแนวตั้งที่มีความเชื่อมต่อกับกระจกบานหลัง โดยสีฟ้าของรุ่น Freed Air ที่ปรากฏในภาพมีชื่อว่า Fjord Mist
ส่วนรุ่น Crosstar ถูกตกแต่งภายนอกเพิ่มความสมบุกสมบันมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกระจังหน้าและกันชนหน้าที่ถูกตกแต่งด้วยวัสดุสีเงิน พร้อมซุ้มล้อตกแต่งด้วยสีดำ ขณะที่กันชนท้ายถูกตกแต่งด้วยสีดำพร้อมแผงสีเงินเพื่อให้เข้ากับด้านหน้า
ภายในห้องโดยสารถูกออกแบบเน้นความกว้างขวาง เพิ่มความรู้สึกโปร่งโล่งแก่ผู้โดยสารทุกคน เบาะนั่งคู่หน้าถูกออกแบบให้สามารถเดินผ่านได้อย่างสะดวก ขณะที่เบาะนั่งแถว 3 มีลักษณะบางลงเพื่อความสะดวกในการพับเก็บหากไม่ใช้งาน เพิ่มเติมด้วยระบบปรับอากาศตอนหลังเพื่อความสบายของผู้โดยสารแถวที่ 2 และ 3
ในรุ่น Freed Air มีการตกแต่งด้วยวัสดุอ่อนนุ่มในจุดที่ต้องสัมผัสกับร่างกายเป็นประจำ รวมถึงการออกแบบแผงคอนโซลให้มีความโค้งมน ซึ่งฮอนด้าระบุว่าจะช่วยให้ผู้โดยสารรู้สึกปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ส่วน Freed Crosstar ถูกตกแต่งด้วยสีทูโทน (สีดำ-กากี) เพื่อสะท้อนถึงความกระปรี้กระเปร่า เสริมด้วยแผงข้างอเนกประสงค์บริเวณห้องเก็บสัมภาระท้ายเพื่อการติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ด้านขุมพลังของ Honda Freed ใหม่ ถูกติดตั้งเครื่องยนต์ไฮบริด e:HEV ที่สามารถเลือกได้ทั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อนสี่ล้อ พร้อมทั้งติดตั้งระบบความปลอดภัย Honda SENSING ที่มีการเพิ่มฟังก์ชันเตือนจุดอับสายตา (Blind spot information) เข้ามาเป็นที่เรียบร้อย
ส่วนกำหนดการวางจำหน่ายที่ญี่ปุ่นจะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน 2567 นี้
