งาน Auto China หรือ Beijing International Automotive Exhibition 2024 ซึ่งเริ่มขึ้นช่วงวันที่ 25 เมษายน จนถึง 4 พฤษภาคมนี้ ภายใต้แนวคิด Driving Smart Mobility มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ มากมาย โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์พลังงานใหม่ ที่มีรถยนต์พลังไฟฟ้ารวมอยู่ด้วย ซึ่งแน่นอนว่า ในปัจจุบัน จีนถือเป็นประเทศที่มีแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าทำตลาดทั่วโลกหลากหลาย หลายรุ่นหลายโมเดลใหม่ที่ถูกเปิดตัวในงานนี้ จะมีการส่งไปขายในตลาดต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงเมืองไทยด้วย
จากรายงานสรุปของผู้จัดงาน มีการระบุว่าตลอด 10 วันนี้มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกมาเป็นครั้งแรกมากถึง 117 รุ่นจากแบรนด์รถยนต์ทั้งในและนอกประเทศจีน โดย 30 แบรนด์จะเป็นบริษัทที่อยู่นอกประเทศจีน รวมถึงรถยนต์ต้นแบบ 41 รุ่นเลยทีเดียว ถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะมาก
เราขอเลือก 10 รถยนต์ที่น่าสนใจที่ถูกเปิดตัวและจัดแสดงในงานนี้
1.Stelato S9 : เป็นรถยนต์รุ่นใหม่จาก Hauwei กับพันธมิตรอย่าง BAIC BluePark ซึ่งถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ข้อตกลงที่เรียกว่า HIMA หรือ Harmony Intelligent Mobility Alliance และเป็นรถยนต์ซีดานระดับหรู ซึ่งมีราคาอยู่ในช่วงประมาณ 500,000 หยวน หรือราวๆ 2.5 ล้านบาท
ในเรื่องของรูปลักษณ์ตัวรถมาพร้อมกับความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่มีไฟหน้าในสไตล์ Galaxy ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกลุ่มดาว โดยตัวรถมีความยาวในระดับ 5,160 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 3,050 มิลลิเมตร โดยจากขนาดตัวถังถือว่า S9 เป็นรถยนต์ที่อยู่ในคลาสเดียวกับ BMW 5 Series และ Mercedes-Benz E-Class
การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 227 กิโลวัตต์ เป็นมอเตอร์คู่ซึ่งขับเคลื่อนเพลาหน้าและหลัง โดยด้านหน้าจะมีกำลังอยู่ที่ 158 กิโลวัตต์ พร้อมแบตเตอรี่จาก CATL
2.BYD Qin L : รถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทาง BYD เพื่อเจาะตลาดด้วยทางเลือกในแบบ PHEV หรือ ไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก ตัวรถมีขนาดอยู่ที่ 4,830 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้ออยู่ที่ 2,790 มิลลิเมตร โดยตัวรถจะถูกพัฒนาอยู่บนโครงสร้างพื้นฐานแบบ New Hybrid ในรหัส P5
ในด้านการขับเคลื่อนขุมพลังเป็นแบบ DM-I Hybrid รุ่นล่าสุด generation ที่ 5 ซึ่ง BYD ใช้เรียกขุมพลัง PHEV โดย DM ย่อมาจาก Dual Mode ผสานการทำงานของเครื่องยนต์เบนซินมีความจุ 1,500 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 101 แรงม้า บวกกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 217 แรงม้า โดยจะมีทางเลือกของแบตเตอรี่ 2 ขนาด สามารถขับได้ไกลสุดเมื่อชาร์จจนเต็มได้ 2 ระยะทาง คือ 60 และ 90 กิโลเมตร
การทำตลาดจะอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ และราคาในจีนคาดว่าจะอยู่ที่ 120,000 หยวน
3.Zeekr Mix : มินิแวนแบบ 5 ที่นั่งทรงล้ำสมัยมาพร้อมเบาะคู่หน้าและหลังที่สามารถหมุนและเปลี่ยนห้องโดยสารให้กลายมาเป็นห้องนั่งเล่นได้ และถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกของโลกที่เบาะหน้าและหลังสามารถหมุนเปลี่ยนตำแหน่งด้วยระบบไฟฟ้า โดยเบาะคู่หน้าจะสามารถหมุนได้ 270 องศา พร้อมกับพื้นห้องโดยสารจะมีรางปรับเปลี่ยนรูปแบบของเบาะโดยมีขนาดยาวถึง 2 เมตรเมื่อวัดจากด้านหน้าไปจนถึงด้านหลัง โดยเบาะหน้าจะสามารถปรับเลื่อนเปลี่ยนตำแหน่งได้ถึง 800 มิลลิเมตร และเบาะหลังสามารถปรับด้วยระยะ 490 มิลลิเมตร
รถยนต์อเนกประสงค์รุ่นนี้ถือเป็นผลผลิตที่ 5 จากความร่วมมือของ Zeekr กับ Geely พร้อมกับชาวเน็ต (Netizens) ว่า Baby Bus พร้อมความกว้างขวางของห้องโดยสารซึ่งพื้นที่ขนาด 6.3 ตารางเมตร โดยเป็นการใช้พื้นตัวถังแบบ SEA-M จาก Geely และขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีกำลังสูงสุด 421 แรงม้า
4.Changan Avatr 11 : เป็นการปรับโฉมมาจากรุ่นปี 2024 เน้นความหรูหราภายในห้องโดยสารมากขึ้น โดยรถยนต์จากฉางอันรุ่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ม EP1 มีทั้งรุ่นมอเตอร์เดี่ยวและมอเตอร์คู่ มีระยะทางให้เลือกตั้งแต่ 580–730 กิโลเมตร และขับเคลื่อนด้วยระบบ DrvieONE ของ Huawei มาพร้อมมอเตอร์แบบเดี่ยวให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุด 230-425 กิโลวัตต์ แรงบิดสูงสุด 370 นิวตัน-เมตร พร้อมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 3.9- 6.6 วินาที ชุดแบตเตอรี่มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 90 kWh และ 116 kWh
ตัวรถยาว 4,880 มิลลิเมตร กว้าง 1,970 มิลลิเมตร สูง 1,601 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,975 มิลลิเมตร ส่วนในการขับเคลื่อนจะมีทั้งล้อหลังและแบบ 4 ล้อ โดยมีราคาอยู่ที่ 300,800-390,800 หยวน
5.Geely Galaxy Starship Prototype : ผลงานต้นแบบที่ถูกพัฒนาอยู่บนพื้นตัวถังใหม่ที่เรียกว่า GEA มาในสไตล์รถยนต์ Cross Over ที่มีประตูบานหลังเปิดขึ้นในแบบปีกนก พร้อมไฟท้ายที่เรียกว่า Ripple of Light ซึ่งเป็นแบบแถวยาวซึ่งต่อเนื่องจากฝั่งซ้ายมาฝั่งขวา และมีแถบตรงกลางอยู่บนฝากระโปรงท้าย
สิ่งที่น่าสนใจคือ ระบบขับเคลื่อนที่อยู่ในตัวรถ โดยใช้ระบบไฮบริดที่เรียกว่า NordThor พร้อมโหมดการขับที่เรียกว่า Galaxy 11-in-1 โดยจะมีรูปแบบการขับขี่ให้เลือกถึง 11 แบบด้วยกัน และมีการใช้ AI ในการควบคุมการทำงานในระบบต่างๆ เช่น การปรับรูปแบบเบาะ ระบบเครื่องเสียง ระบบช่วยเหลือการขับให้กับผู้ขับขี่ และการปรับระบบกันสะเทือน
6. NIO ET7 Executive Edition : รถยนต์ระดับหรูในรูปแบบซีดาน 4 ประตู ซึ่งจะเริ่มทำตลาดทันทีหลังจากที่เปิดตัวในงานปีนี้ โดยจุดเด่นของตัวรถอยู่ที่หลังคาในแบบพานอรามิก กลาส รูฟที่ยาวต่อเนื่องตั้งแต่เบาะหน้าไปจนถึงเบาะหลัง พร้อมกับหน้าจอดิจิตอลสำหรับควบคุมการทำงานของระบบ และการแสดงข้อมูลของตัวรถ โดยจะเป็นหน้าจอความละเอียดสูง OLED Hi-Def และมีขนาด 14.5 มิลลิเมตร
การขับเคลื่อนเป็นหน้าที่ของรถยนต์พลังไฟฟ้า โดยจะมีแบตเตอรี่ขนาด 75 kWh และ 100 kWh โดยจะสามารถแล่นทำระยะทางได้ถึง 520-705 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
7.Ji Yue 7 : แบรนด์ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของ Geely และ Baidu ซึ่งทาง Baidu ถือหุ้นอยู่ในแบรนด์นี้ถึง 65% โดยเป็นการพัฒนาบนพื้นตัวถังของ SEA Electric Platform ตัวรถเป็นสปอร์ตซีดานที่มีความเพรียวลมกับค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน หรือ Cd เพียง 0.19 ส่วนรายละเอียดของตัวรถยังไม่มีการเปิดเผยออกมา แต่คาดว่าจะแจ้งออกมาอีกครั้งเมื่อตัวรถพร้อมจำหน่าย ซึ่งจะเริ่มทำตลาดในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2024
8.BYD Yangwang U7 : เป็นรถยนต์ซีดานระดับหรูที่ถือว่าเป็น Top of the line ของแบรนด์ ซึ่งเปิดตัวออกมาแล้วในงานนี้ และจะมีจำหน่ายในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ โดยตัวรถยนต์เป็นแบบสปอร์ตซีดาน 4 ประตู ที่มีความเพรียวลมด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน หรือ Cd อยู่ที่ 0.195 และถูกสร้างขึ้นบนงานวิศวกรรมพื้นฐาน e⁴ platform ที่รองรับการติดตั้งมอเตอร์จำนวน 4 ตัว และพละกำลังสูงสุดกว่า 1,000 แรงม้า และเป็นรถยนต์รุ่นแรกของแบรนด์ที่ใช้ระบบ DiSus-Z ตัวรถมีความยาวอยู่ที่ 5,265 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,998 มิลลิเมตร ความสูง 1,517 มิลลิเมตร และมีระยะฐานล้อ 3,160 มิลลิเมตร
ตัวรถขับลเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 4 ตัวที่สามารถผลิตกำลังขับเคลื่อนออกมาได้ 1,300 แรงม้า ใช้เวลาเพียง 2.9 วินาทีในการทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง และสามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 270 กิโลเมตร/ชั่วโมง จากการใช้เบรกที่เป็นคาร์บอน-เซรามิก ทำให้สามารถเบรกจากความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงจนหยุดนิ่งด้วยระยะทาง 33 เมตร
ส่วนราคาอยู่ที่ 1.68 ล้านหยวน
9.Xiaomi SU7 : เป็นรถยนต์ที่ได้รับความสนใจอย่างมาก โดย Xiaomi SU7 (ย่อมาจาก Speed Ultra) ซึ่งทาง Xiaomi เปิดรับจองก่อนที่งานนี้จะเริ่มขึ้น โดยจะมีทั้งรุ่น SU7 แบบขับเคลื่อนล้อหลัง สามารถแล่นทำระยะได้ 668 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และ SU7 Max แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แล่นทำระยะทางได้ 800 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
ทาง Lei Jun CEO ของทาง Xiaomi กล่าวในงานว่าตัวรถได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยความสวยงามของตัวรถ และสเป็กของตัวรถที่ยอดเยี่ยม ตัวถังมีความยาวมากกว่า Porsche Taycan เล็กน้อย หมายความว่ามีความยาวเท่ากับ 4997 มม. กว้าง 1963 มิลลิเมตร สูง 1455 มิลลิเมตร มีระยะฐานล้อ 3,000 มิลลิเมตร มีพื้นที่เก็บสัมภาระบริเวณด้านหน้าจุได้ 105 ลิตร และด้านท้าย 517 ลิตร
10.MG EXE181 Concept : ต้นแบบสุดล้ำแบบที่นั่งเดี่ยวจาก MG ซึ่งอยู่ในเครือของ SAIC เป็นรถสปอร์ตที่มีความเพรียวลมด้วยค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน หรือ Cd เพียง 0.181 และเป็นงานรีเมคที่อ้างอิงจากรถต้นแบบที่เปิดตัวในปี 1959 ของ MG ที่มีชื่อเดียวกัน คือ EXE181
ส่วนของข้อมูลการขับเคลื่อนจะเป็นหน้าที่ของมอเตอร์ไฟฟ้าจำนวน 4 ตัวที่ไม่ได้ระบุสเป็กออกมา แต่ใช้เวลาเพียง 1.9 วินาทีในการทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ในตอนนี้เป็นแค่รถโชว์ ส่วนคันจริงจะผลิตออกมาหรือมานั้นอาจจะต้องเฝ้ารอ
