xs
xsm
sm
md
lg

อีวี จีนเริ่มรอบน็อคเอาต์ รถล้นตลาด ค่ายรถเล็กไม่น่ารอด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ซีอีโอบริษัทอีวีหลายคนฟันธงตลาดจีนซึ่งถือเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าใหญ่ที่สุดในโลกกำลังเข้าสู่รอบน็อคเอาต์ หลังจากเติบโตมาตลอดสองทศวรรษ และค่ายรถหลายแห่งอาจกลายเป็นอดีตในอีกไม่กี่เดือนนี้ หนทางรอดการควบรวมกิจการ พร้อมแนะนำให้บริษัทต่างๆ หาทางประหยัดจากขนาดและสร้างความได้เปรียบของแบรนด์โดยเร็วที่สุด

ผู้ผลิตอีวีจีนขนรถรุ่นใหม่ล่าสุดประชันกันอย่างคึกคักในมหกรรมออโต้ ไชน่า ที่รูดม่านเปิดงานไปเมื่อวันพฤหัสฯ (25 เม.ย.) ที่ปักกิ่ง ผู้เล่นเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากรัฐบาลมานานหลายปี และบางแห่งเติบโตกลายเป็นบริษัทระดับโลกอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น บีวายดีที่กำลังเบียดกับเทสลาของอเมริกาเพื่อชิงตำแหน่งผู้นำตลาดยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่

อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตอีวีทั้งหมดกว่า 200 รายในจีนขณะนี้กำลังเผชิญภาวะรถล้นตลาดขั้นรุนแรง และผู้เชี่ยวชาญทำนายว่า บริษัทขนาดเล็กหลายแห่งจะอยู่ไม่รอดท่ามกลางการแข่งดุ

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทั้งสงครามราคามหาโหดและยอดขายชะลอตัวในภาวะที่เศรษฐกิจจีนซึม กำลังบีบให้บริษัทรถระดับโลกบางแห่งต้องล่าถอย ขณะที่ดีมานด์อีวีในตลาดทั่วโลกซบเซาเช่นกัน


มาร์ก เรนฟอร์ด นักวิจารณ์ในอุตสาหกรรมยานยนต์ที่อยู่ในเซียงไฮ้และเป็นผู้จัดรายการ “อินไซด์ ไชน่า ออโต้” ในช่องยูทูบ บอกว่า อุตสาหกรรมอีวีจีนโดยรวมประสบความสำเร็จมากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่า ผู้เล่นทุกรายจะเข้าเส้นชัยทั้งหมด

แม้แต่คณะกรรมการการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติของจีน (เอ็นดีอาร์ซี) ยังออกมาเตือนเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้วว่า การแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ (เอ็นอีวี) จะรุนแรงมากในปีนี้

จากสถิติของสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของจีน ผู้ผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลกว่า 10 แห่งปิดกิจการไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งรวมถึงแบรนด์อีวีดังอย่างดับเบิลยูเอ็ม มอเตอร์, ไอเวย์ และเลฟดิโอ

ค่ายรถระดับโลกบางแห่งต้องปรับโครงสร้างธุรกิจหรือปิดกิจการในจีน ตัวอย่างเช่น เดือนตุลาคมที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ของญี่ปุ่น ประกาศยุติการผลิตรถในโครงการร่วมทุนในจีน ฮอนด้า มอเตอร์ของญี่ปุ่น ฮุนได มอเตอร์ของเกาหลีใต้ และฟอร์ด มอเตอร์ของอเมริกา ต้องตัดสินใจทำบางอย่างเช่นเดียวกัน ซึ่งรวมถึงการปลดพนักงานและขายโรงงานในจีนเพื่อลดต้นทุน

Xpeng AeroOHT ต้นแบบรถบินได้ของเสี่ยวเผิง ส่วนหนึ่งของนวัตกรรมล้ำสมัยในงานออโต้ ไชน่า
เดือนมิถุนายนปีที่แล้ว ริชาร์ด หยู ซีอีโอธุรกิจคอนซูเมอร์ของหัวเว่ยที่ขณะนี้กำลังร่วมมือกับค่ายรถหลายแห่งผลิตรถยนต์ไฟฟ้านั้น คาดว่า ภายในปี 2030 จีนจะเหลือบริษัทอีวีขนาดใหญ่ไม่ถึง 5 แห่ง

และต่อไปนี้คือสาเหตุที่อุตสาหกรรมอีวีจีนเป็นภารกิจที่ยากเย็นแสนเข็ญทั้งสำหรับผู้เล่นในและนอกประเทศ รวมถึงสิ่งที่ผู้ผลิตอีวีในประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลกแห่งนี้ต้องเผชิญ

สงครามราคาเดือด

สงครามราคาในจีนปะทุขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2022 หลังจากเทสลาหั่นราคา Model 3 และ Model Y ลงถึง 9% และลดอีกรอบในอีก 3 เดือนถัดมา กระตุ้นให้บริษัทอีวีอื่นๆ ต้องลดราคาแข่ง และลามไปถึงรถที่ใช้น้ำมัน
สัปดาห์ที่แล้ว เทสลาลดราคารถ 4 รุ่นเกือบ 2,000 ดอลลาร์ เสี่ยวเผิงและหลี่ ออโต้ สองแบรนด์อีวีโตเร็วที่สุดในจีน หั่นราคาตามทันทีโดยเสนอส่วนลดสูงมากหรือมาตรการอุดหนุนสำหรับลูกค้ารวมมูลค่าหลายล้านดอลลาร์

เรนฟอร์ดคาดว่า สงครามราคาจะระอุตลอดปีนี้ แม้ยากที่จะคาดเดาได้ว่า จะมีการลดราคาแรงกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้อีกมากน้อยแค่ไหน

สงครามราคาส่งผลชัดเจนต่อความสามารถในการทำกำไร ข้อมูลจากสมาคมผู้ผลิตยานยนต์จีน (ซีเอเอเอ็ม) ระบุว่า อัตรากำไรเฉลี่ยของอุตสาหกรรมรถจีนในปีที่ผ่านมาลดลงอยู่ที่ 5% ต่ำที่สุดในรอบอย่างน้อย 1 ทศวรรษ


ผู้เล่นแออัด

จำนวนผู้เล่นที่มากเกินไปเป็นอีกปัญหาสำคัญในอุตสาหกรรมอีวีจีน

เอ็นดีอาร์ซีคาดว่า ปีนี้จะมีการเปิดตัวเอ็นอีวีใหม่กว่า 110 รุ่น เฉพาะบีวายดี, ไอโต้ของหัวเว่ย และหลี่ ออโต้ มีแผนส่งรถลงตลาดเพิ่มเป็น 2.3 ล้านคัน ขณะที่ดีมานด์ในตลาดคาดว่า จะอยู่ที่แค่ 2.1 ล้านคัน และมีแนวโน้มว่า ตลาดอีวีจีนจะอยู่ในสภาพซัปพลายล้นเกินไปอีกนาน

มิหนำซ้ำยังมีผู้เล่นหน้าใหม่เปิดตัวลงสนามที่แออัดอยู่แล้ว ตัวอย่างเช่น เดือนที่ผ่านมาเสียวหมี่ แบรนด์สมาร์ทโฟนและคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ชื่อดัง เปิดตัวซีดานไฟฟ้า SU7

เหล่ย จุน ซีอีโอเสียวหมี่ บอกว่า ต้องการท้าทายเทสลาและปอร์เช่ด้วยอีวีพรีเมียมที่ราคาเริ่มต้นเพียง 29,794 ดอลลาร์

เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เหม่ยซู ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอีกราย จับมือจีลี่ ออโต้ เตรียมเปิดตัวอีวีรุ่นแรก Meizu DreamCar MX ในปีนี้

เดือนเดียวกันนั้น หัวเว่ยเผยโฉมซีดานไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัทในชื่อ Luxeed S7 ที่ร่วมพัฒนากับเชอรี่ ออโต้ โดยวางตัวเป็นคู่แข่งของ Model S


ซีเอเอเอ็มคาดว่า ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลทั้งหมดในปีนี้จะอยู่ที่ราว 26.8 ล้านคัน ขณะที่เป้าหมายยอดขายรวมของผู้ผลิตรายใหญ่ทั้งหมดสูงถึงเกือบ 30 ล้านคัน

ภาวะซัปพลายล้นตลาดเท่ากับว่า ผู้ผลิตจำเป็นต้องเร่งยอดขาย ซึ่งรวมถึงการกระตุ้นการส่งออกและเสี่ยงที่จะทำให้

สถานการณ์ระหว่างจีนกับประเทศคู่ค้าสำคัญตึงเครียดยิ่งขึ้น แต่ถ้าไม่ทำ อาจทำให้เกิดปัญหากับกระแสเงินสดและฉุดให้บริษัทเหล่านั้นเข้าสู่วิกฤต

สถานการณ์ของบริษัทต่างชาติอาจยากลำบากกว่า ไตรมาส 4 ปีที่แล้ว เทสลาเสียตำแหน่งแบรนด์อีวีขายดีที่สุดในโลกให้บีวายดีที่ตั้งราคาขายรถบางรุ่นไม่ถึง 10,000 ดอลลาร์ เทียบกับ Model 3 ซึ่งเป็นรุ่นถูกที่สุดของเทสลาที่ราคาตอนนี้ยังอยู่ที่ 32,000 ดอลลาร์ แม้เพิ่งลดราคารอบใหม่ก็ตาม

เรนฟอร์ดชี้ว่า เมื่อพิจารณาจากคุณภาพประกอบกับระบบอัตโนมัติและนวัตกรรมที่เหนือชั้นของอีวีจีน บริษัทรถดั้งเดิมจากต่างชาติมีแนวโน้มถูกกดดันหนักขึ้นขณะที่แบรนด์จีนออกไปโลดแล่นในตลาดโลก
รอบน็อคเอาต์

ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ซีอีโอบริษัทอีวีจีนหลายคนคาดว่า ค่ายรถหลายแห่งอาจกลายเป็นอดีตในอีกไม่กี่เดือนนี้


ในงานแถลงผลประกอบการเมื่อเดือนมีนาคม กาน เจียหยู ซีอีโอจีลี่ ออโต้ ชี้ว่า อุตสาหกรรมอีวีจีนจะเริ่มรอบน็อคเอาต์ในปีนี้และเข้าสู่ช่วงเวลาของการควบรวมกิจการ

หวัง ฉวนฟู ประธานบีวายดีคาดการณ์ในเดือนเดียวกันว่า รอบแพ้คัดออกอันโหดร้ายกำลังจะมาถึง หลังจากเติบโตมาตลอดสองทศวรรษ พร้อมแนะนำให้บริษัทต่างๆ หาทางประหยัดจากขนาดและสร้างความได้เปรียบของแบรนด์โดยเร็วที่สุด

ขณะเดียวกัน ผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมมองว่า การควบรวมกิจการหมายความว่า บริษัทขนาดกลางและเล็กจำนวนมากจะหายไป

Yin Tongyue ประธานกรรมการเชอรี่ ออโต้ เห็นด้วยว่า ผู้ผลิตอีวีกำลังเข้าสู่การแข่งขันรอบอยู่หรือไป เดือนที่แล้วเขาบอกว่า เชอรี่จะเปิดตัวรถไฟฟ้า 100% และไฮบริดใหม่ 39 รุ่นในปีนี้และปีหน้าเพื่อขึ้นเป็นผู้นำในตลาดอีวี

อย่างไรก็ตาม อนาคตของผู้อยู่รอดไม่ได้มืดมิดไปทั้งหมด องค์การพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) คาดว่า ปีนี้ส่วนแบ่งตลาดอีวีในจีนอาจเพิ่มขึ้นเป็น 45% โดยได้แรงกระตุ้นจากการแข่งขัน ราคาแบตเตอรี่และอีวีที่ลดลง และนโยบายสนับสนุนที่ยังคงดำเนินอยู่




กำลังโหลดความคิดเห็น